- Advertisement -

หลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ หรือ NFP เดือน ส.ค. ไปเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยตัวเลขเพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่ง จากที่ตลาดคาดการไว้ 720,000 ตำแหน่ง และต่ำกว่าเดือน ก.ค. ที่เพิ่มมากถึง 1,053,000 ตำแหน่ง แต่ราคาทองคำกลับวิ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดเพียง 1,833 ดอลลาร์ ก่อนจะร่วงลงมาปิดแนว 1,827 ดอลลาร์

ดร.พิบูลฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยกับ GoldAround.com ว่า ตัวเลขที่พลาดเป้าจากที่คาดการณ์ถึง 500,000 ตำแหน่ง อาจเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด สายพันธุ์เดลต้า

อย่างไรก็ดี อยากให้นักลงทุนจับตาการเปิดตลาดต้นสัปดาห์อย่างใกล้ชิด เพราะหากมีการปรับตัวเลขเพิ่มขึ้นในภายหลัง อาจทำให้ราคาทองคำผันผวนอีกได้ เพราะที่ผ่านมาก็เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาแล้ว 2-3 ครั้ง

“แต่หากทุกอย่างคงเดิม ก็คาดว่าราคาทองคำอาจจะ sideway กรอบ 1,800-1,830 ดอลลาร์ เพื่อรอการประชุม FOMC เดือน ก.ย. อีกครั้ง แต่หากมีข่าวเข้ามาหนุนราคาทองคำ อาจจะขึ้นไปทดสอบ 1,850 ดอลลาร์ อย่างไรก็ดีมองว่าในการประชุมเฟดในรอบถัดไป อาจจะยังไม่มีการประกาศแผนลด QE ส่วนตัวยังเชื่อมั่นในคำพูดของ ปธ.เฟดว่า จะลด QE ในปีนี้ แต่เรื่องการขึ้นดอกเบี้ย ยังต้องรอเวลา” ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำกล่าว

- Advertisement -

ทั้งนี้ หากจะย้อนดูไปถึงการลด QE ในครั้งก่อนหน้าจะเห็นได้ว่าราคาทองคำก็ยังขยับเพิ่มขึ้น แต่ความชันของราคาจะลดลง และเมื่อ เฟดประกาศขึ้นดอกเบี้ย ราคาจะลดลงแรง เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ได้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย

ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำกล่าวเพิ่มเติมว่า ต้องยอมรับว่าปัจจุบันทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีคู่แข่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และมูลค่าของตลาดเหล่านี้ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะตลาดคริปโตฯ และสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ไม่เหมือนกับช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของ โควิด-19 เมื่อปีที่ผ่านมา นักลงทุนยังคงใช้ทองคำเพื่อเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง แต่ปัจจุบันเมื่อปริมาณเงินในระบบมีมากขึ้น นักลงทุนได้กระจายเงินทุนไปยังสินทรัพย์อื่น ๆ หรือตลาดรองมากขึ้น ทำให้ราคาทองคำไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง เพราะฉะนั้น นักลงทุนต้องประเมินความเสี่ยงในเรื่องนี้ด้วย

ส่วนการวางแผนการลงทุนในช่วงนี้ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ แนะนำให้จับตาการเคลื่อนไหวในช่วงต้นสัปดาห์ กรอบใหญ่ยังน่าจะอยู่แนว 1,800-1,830 ดอลลาร์ แต่หากราคาลดลงมาแถวแนวรับสำคัญ นักลงทุนยังเข้าซื้อได้ เพราะในภาพรวมทางเทคนิคราคาทองยังเป็นขาขึ้น และแนวโน้มเรื่องของปัจจัยหนุนยังมีมาก ทั้งเรื่องของการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ตัวเลขเงินเฟ้อ แต่ยังต้องจับตาการเคลื่อนไหวของกลุ่มกองทุนด้วย เพราะ SPDR ยังคงเทขายทองคำออกต่อเนื่อง จนถือครองต่ำกว่า 1 ตันแล้ว

รับชมคลิป

ขอขอบคุณ ศูนย์วิจัยทองคำ

- Advertisement -