Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

ปธ.Double Line ฟันธงเงินเฟ้อแตะ 7% ชี้ FED ขึ้นดอกเบี้ยแต่ทองคำยังไปต่อ

- Advertisement -

201

- Advertisement -

Jeffrey Gundlach

ปัจจัยที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำอย่างมาในปีหน้า คือ เรื่องของนโยการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด เพื่อจัดการกับปัญหาเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ ปธ.เฟด ได้ออกมาเปลี่ยนท่าที โดยระบุว่า เงินเฟ้อในขณะนี้ไม่ใช่เงินเฟ้อชั่วคราว ซึ่งเฟดเตรียมพิจารณาปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินให้มีการควบคุมเงินเฟ้ออย่างมีประสิทธิภาพ

แต่ทาง Jeffrey Gundlach CEO ของ Double Line มองว่า อัตราเงินเฟ้อจะไม่กลับมาต่ำกว่าระดับ 4% ต่อปี ตลอดทั้งปี 2022

ยังพร้อมคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้ออาจเพิ่มขึ้นเป็น 7% ต่อปีในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า

ทั้งนี้ CEO ของ DoubleLine กล่าวว่า ไฮไลท์ของตลาดการเงินปีหน้า จะอยู่ที่นโยบายของเฟด ที่จะเร่งลด QE เพื่อเปิดทางขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่สูงขึ้น โดยพยายามจะลด QE เป็นสองเท่าจากเป้าหมายเดิม เพื่อให้เสร็จสิ้นในเดือน มีนาคม ซึ่งนโยบายดังกล่าวจะส่งผลต่อตลาดหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยง ที่ได้รับการสนับสนุนมานานกว่าทศวรรษ

- Advertisement -

Jeffrey Gundlach มองว่า การขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจตามมา โดยการขึ้นดอก เบี้ย 1% หรือ 1.5% จะทำลายเศรษฐกิจ โดยจะเริ่มเห็นปัญหาภายในครึ่งหลังของปีหน้า

ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อในปัญหาคอขวดของห่วงโซ่อุปทานบางส่วนอาจลดลง แต่การเติบโตของค่าจ้างและราคาที่พักอาจเข้ามาแทนที่

สำหรับทองคำ Jeffrey Gundlach กล่าวว่าการเคลื่อนไหวในภาพรวมของปีนี้ ถือว่าน่าเบื่อ เมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตัวอื่น และ Bitcoin ทองคำดูเหมือนเป็นเด็กกำพร้า ในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ โดยราคาไม่ดีขึ้นเลย แต่หากจะมองในมุมดี ก็ถือว่า ราคาทองคำมีเสถียรภาพอย่างน่าตกใจ

ทั้งนี้ หากจะให้ราคาทองคำดีขึ้น ดอลลาร์สหรัฐฯ ต้องอ่อนค่า ซึ่งเงินดอลลาร์เป็นขีดจำกัดของทองคำ

ทั้งนี้ Gundlach ระบุว่า ยังคงถือทองคำเพื่อเป็นการลงทุนระยะยาว โดยครั้งสุดท้ายที่เขาซื้อทองคำ คือ ในเดือน กันยายน 2018 ที่ระดับ 1,180 ดอลลาร์ พร้อมระบุว่า ปีนี้ทองคำไม่ได้ให้ผลตอบแทนเลย เมื่อเทียบกับสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ

- Advertisement -

ส่วนทิศทางของเงินดอลลาร์ในระยะยาว Gundlach มองว่า อ่อนค่าลงอย่างมาก โดยคาดว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะอ่อนค่าลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 หรือ 2566 และเมื่อค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่า มันจะอ่อนค่าลงอย่างมาก และทำลายจุดต่ำสุดของปี 2552 ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นที่ไม่ใช่ของสหรัฐฯ ตลาดเกิดใหม่ จะมีผลงานที่แข็งแกร่งมาก พร้อมคาดการณ์ว่า เฟดจะเข้ามาปกป้องสินทรัพย์เสี่ยงด้วยการพิมพ์เงิน โดยเฉพาะตลาดตราสารทุน หากลดลงประมาณ 20% หรือ มากกว่านั้น

ที่มา : Kitco.com

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More