Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 มิ.ย.65 by YLG

- Advertisement -

182

- Advertisement -

คำแนะนำ       เปิดสถานะซื้อหากยืน $1,818-1,811

จุดทำกำไร    ขายเพื่อทำกำไร $1,848

ตัดขาดทุน     ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,811

แนวรับ : 1,811 1,800 1,786  แนวต้าน : 1,848 1,865 1,888

สรุป

- Advertisement -

ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระหว่างวันราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,816.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้ออย่างไม่มีเงื่อนไข จนเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคำร่วงก่อนในช่วงต้น

อย่างไรก็ดี ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นในเวลาต่อมา จากแรงซื้อ Buy the dip ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย(Recession) ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลงในวงกว้างได้ช่วยคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และบั่นทอนความจำเป็นของการขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ทั้งนี้ เทรดเดอร์ในตลาดเงิน(Money markets) ได้ปรับ “ลด” คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยสูงสุด(terminal rate)ของสหรัฐสู่ระดับประมาณ 3.4% ภายในเดือนมีนาคมปีหน้า โดยลดลงจากการคาดการณ์ในช่วงก่อนการประชุมเฟดเดือนมิ.ย. ที่คาดว่า terminal rate จะแตะระดับเหนือ 4% ภายในเดือนมิถุนายนปี 2023

นอกจากนี้ ตลาดเงินได้เริ่มคาดการณ์ถึงช่วงเวลาของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับภาวะถดถอยที่อาจเกิดขึ้นอีกกด้วย ประกอบกับเกิดแรงเทขายสกุลเงินปลอดภัย หลังจากนักลงทุนกลับมาเปิดรับความเสี่ยง(Risk on) เห็นได้จากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นมากกว่า 800 จุดในวันศุกร์ สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ดัชนีดอลลาร์ปิดอ่อนค่าลง 0.21% จนเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวันปิดตลาดในแดนบวก

ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -2.03 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอดปิดการขายของสหรัฐ

ข่าวสารประกอบการลงทุน

- Advertisement -

• (+) ดอลลาร์อ่อนค่า หลังนลท.ลดซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (24 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกลับเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง อาทิ ตลาดหุ้น และลดความต้องการดอลลาร์ซึ่งถือเป็นสกุลเงินปลอดภัย ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.23% แตะที่ระดับ 104.1870 ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 135.23 เยน จากระดับ 134.95 เยน, อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9589 ฟรังก์ จากระดับ 0.9611 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2919 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3004 ดอลลาร์แคนาดา ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0551 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0523 ดอลลาร์, เงินปอนด์แข็งค่าแตะที่ระดับ 1.2269 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2251 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าสู่ระดับ 0.6939 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6893 ดอลลาร์สหรัฐ

• (+) IMF หั่นจีดีพีสหรัฐเหลือ 2.9% ปีนี้ เชื่อเลี่ยงภาวะถดถอยได้หวุดหวิด กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยคาดการณ์ในวันศุกร์ (24 มิ.ย.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐจะขยายตัว 2.9% ในปีนี้ ซึ่งลดลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้ครั้งล่าสุดในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาว่าจะขยายตัว 3.7% สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า IMF ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้อุปสงค์ชะลอตัวลง แต่ก็คาดว่า สหรัฐจะหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้อย่างเฉียดฉิว ส่วนในปี 2566 นั้น IMF คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 1.7% ลดลงจากเดิมที่คาดไว้ที่ 2.3% และคาดว่า จีดีพีปี 2567 จะขยายตัวเพียง 0.8%

• (+) ผลสำรวจม.มิชิแกนชี้ผู้บริโภคลดคาดการณ์เงินเฟ้อเมื่อเทียบตัวเลขเบื้องต้น ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดิ่งลงสู่ระดับ 50.0 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในช่วงทศวรรษ 1940 และต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 50.2 หลังจากแตะระดับ 58.4 ในเดือนพ.ค. นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 50.2 ดัชนีความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะพุ่งแตะ 5.3% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า โดยสูงกว่าระดับ 4.2% ที่มีการสำรวจในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ต่ำกว่าระดับ 5.4% ซึ่งเป็นตัวเลขเบื้องต้นที่มีการสำรวจเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว

• (+) กลุ่มประเทศ G7 เตรียมห้ามนำเข้าทองคำรัสเซีย หวังเพิ่มแรงกดดันให้ยุติสงคราม เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า กลุ่มประเทศ G7 ได้เตรียมสั่งห้ามการนำเข้าทองคำจากรัสเซีย เพื่อเพิ่มแรงกดดันให้รัสเซียยุติสงครามในยูเครน โดยจะมีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการในวันอังคาร (28 มิ.ย.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประชุม G7 ที่เยอรมนี เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวระบุว่า “ทองเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 2 ของรัสเซียรองจากพลังงาน และเป็นแหล่งรายได้สำคัญของรัสเซียและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย โดยมาตรการดังกล่าวจะมีเป้าหมายที่ความสามารถในการทำธุรกรรมของรัสเซียในระบบการเงินโลก” การส่งออกทองคำของรัสเซียคิดเป็นมูลค่า 1.52 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2564 และมีความสำคัญเพิ่มขึ้นหลังจากที่รัสเซียบุกยูเครน เนื่องจากสามารถซื้อทองคำแท่งเพื่อเลี่ยงผลกระทบของการคว่ำบาตรได้ ขณะเดียวกัน การที่ลอนดอนเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนทองคำสำคัญของโลก ทำให้การคว่ำบาตรของอังกฤษจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อรัสเซีย รัฐบาลอังกฤษระบุว่า การสั่งห้ามนำเข้าทองคำครั้งนี้จะมีผลกับทองคำที่ขุดได้ใหม่หรือสกัดใหม่ แต่จะไม่มีผลกระทบกับทองคำที่เป็นของรัสเซียที่ได้ส่งออกจากรัสเซียมาก่อนหน้านี้แล้ว

• (-) ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 823.32 จุด นลท.คลายวิตกเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นมากกว่า 800 จุดในวันศุกร์ (24 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากเศรษฐกิจส่งสัญญาณชะลอตัว และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมา ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,500.68 จุด เพิ่มขึ้น 823.32 จุด หรือ +2.68%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,911.74 จุด เพิ่มขึ้น 116.01 จุด หรือ +3.06% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,607.62 จุด เพิ่มขึ้น +375.43 จุด หรือ +3.34%

• (-) “มูดี้ส์” คงอันดับเครดิตสหรัฐที่ Aaa ชี้เศรษฐกิจฟื้นตัวแกร่งจากโรคระบาด มูดี้ส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศประกาศในวันศุกร์ (24 มิ.ย.) ว่า มูดี้ส์ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐไว้ที่ Aaa โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ได้อย่างแข็งแกร่งมาก

• (-) สหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้นในเดือนพ.ค. สวนทางคาดการณ์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 10.7% สู่ระดับ 696,000 ยูนิตในเดือนพ.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลงสู่ระดับ 588,000 ยูนิต

ขอขอบคุณ  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More