Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 9 ก.ย.63 (YLG)

- Advertisement -

1 403

- Advertisement -

หากตลอดวันราคาทองคำยังไม่สามารถฝ่าแนวต้านบริเวณ 1,938-1,940 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ราคายังคงแกว่งตัวในกรอบทำให้ยังมีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับย่อลงมาบริเวณแนวรับ 1,911-1,906 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,906 1,885 1,862  แนวต้าน : 1,940 1,956 1,973

สรุป  ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.82 ดอลลาร์ต่อออนซ์  หลังจากระหว่างวันราคาทองคำร่วงลงแรง  หลังจากวานนี้ทั้งตลาดหุ้นสหรัฐและน้ำมันต่างก็ปรับตัวลงแรง  โดย  ดัชนีดาวโจนส์ปิด -2.25%, S&P500 ปิด -2.78% ส่วน Nasdaq ปิด -4.11% นำโดยแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจากความวิตกเกี่ยวกับมูลค่าหุ้นที่สูงเกินไป  ส่วนความตึงเครียดจีน-สหรัฐทำให้นักลงทุนกลับมาปิดรับความเสี่ยง(Risk off)  ขณะที่น้ำมันดิ่งลงอย่างหนักเช่นกัน  โดยราคาน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐปิดลบ 3.01 ดอลลาร์  หรือ -7.6%  จากความวิตกว่าการระบาด COVID-19 ที่ยังไม่มีแนวโน้มบรรเทาลงนั้นจะกระทบความต้องการใช้น้ำมัน  สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงตาม  จากแรงขายทองเพื่อถือเงินสด  และโยกเงินเติมมาร์จิ้น รวมถึงชดเชยผลขาดทุนในสินทรัพย์อื่นๆ  นอกจากนี้  ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ของดัชนีดอลลาร์  ท่ามกลางแรงซื้อดอลลาร์ในฐานะเป็นสกุลเงินปลอดภัยและมีสภาพคล่องสูง  พร้อมกันนี้  สกุลเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากความเสี่ยงที่อังกฤษอาจถอนตัวออกจาก EU แบบไม่มีข้อตกลง(No-deal Brexit) อีกด้วย  ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ราคาดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 1,906.27 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ก่อนจะมีแรงซื้อ Buy the dip เข้ามาหนุนให้ราคาทะยานขึ้นกว่า 30 ดอลลาร์ต่อออนซ์จาก Low ในระหว่างวันจนปิดตลาดในแดนบวกในที่สุด  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้ตอดตามการเปิดเผยตําแหน่งงานว่างเปิดใหม่ (JOLTS Job Openings)

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) “AstraZeneca”ระงับการทดลองวัคซีนโควิด-19 หลังอาสาสมัครป่วยระหว่างการทดลอง  บริษัท AstraZeneca Plc ระบุว่า ได้ระงับการวิจัยวัคซีนโควิด-19 หลังจากที่บุคคลรายหนึ่งที่เข้าร่วมการทดลองทางการแพทย์ล้มป่วย  วัคซีนโควิด-19 ซึ่ง AstraZeneca กำลังพัฒนาร่วมกับนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ได้รับการพิจารณาว่า เป็นหนึ่งในวัคซีนชั้นนำที่จะเข้าสู่ตลาด การตัดสินใจระงับดังกล่าวกระทบนักลงทุน ซึ่งทำให้หุ้นของบริษัท AstraZeneca ที่ซื้อขายในสหรัฐร่วงอย่างหนัก ขณะที่หนุนหุ้นคู่แข่งบางแห่งที่กำลังพัฒนาวัคซีนโควิด-19 เช่นกัน  นางมิเชล เมเซล โฆษกของบริษัท AstraZeneca ระบุว่า “นี่คือเหตุการณ์ปกติ ซึ่งต้องเกิดขึ้นเมื่อไรก็ตามที่เกิดการป่วยที่ไม่อาจอธิบายได้ในการทดลองครั้งหนึ่ง ขณะที่กำลังดำเนินการตรวจสอบ เพื่อรับประกันว่า เรารักษาความสมบูรณ์ของการทดลอง”
  • (+) จีนยอมรับควบคุมตัวนักข่าวชาวออสเตรเลียด้วยเหตุผลความมั่นคง  รัฐบาลจีนออกมายอมรับว่า ได้ควบคุมตัว เฉิง เล่ย ผู้สื่อข่าวและผู้ประกาศข่าวชาวออสเตรเลีย ประจำสถานีโทรทัศน์ CGTN ซึ่งเป็นช่องข่าวภาคภาษาอังกฤษของรัฐบาลจีน มาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว เนื่องจากเหตุผลด้านความมั่นคง  การเปิดเผยของรัฐบาลจีน สอดคล้องกับที่ก่อนหน้านี้ นางมาริส เพย์น รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย ได้ออกมาเปิดเผยว่า รัฐบาลออสเตรเลียได้รับข้อมูลเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า เฉิง ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวชาวออสเตรเลียเชื้อสายจีน ได้ถูกจับกุมตัวที่ประเทศจีน นอกจากนี้ ประวัติของเฉิงบนเว็บไซต์ของสถานี รวมถึงคลิปวิดีโอการรายงานข่าวก่อนหน้านี้ของเธอยังถูกลบออกไปด้วย  ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากที่ นายไมเคิล สมิธ ผู้สื่อข่าวของออสเตรเลียน ไฟแนนเชียล รีวิว และนายบิล เบิร์ทเทิลส์ ผู้สื่อข่าวของออสเตรเลียน บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น (ABC) รีบอพยพออกจากจีนเพื่อกลับไปยังออสเตรเลีย หลังถูกตำรวจจีนเรียกไปสอบสวน จนต้องขอความช่วยเหลือจากสถานกงสุลใหญ่ออสเตรเลียประจำเซี่ยงไฮ้
  • (+) จีนยัวะอินเดียรุกแนวชายแดน-ยิงใส่หน่วยลาดตระเวน  จีนเผยว่า ทหารอินเดียได้เคลื่อนกำลังข้ามแนวชายแดนซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทและเปิดฉากยิงเตือนหน่วยลาดตระเวนของจีน โดยจีนเรียกการกระทำนี้ว่าเป็น “การยั่วยุทางทหารที่ร้ายแรง” และเป็นการละเมิดข้อตกลงของทั้งสองฝ่าย  แถลงการณ์ของฝ่ายกองทัพจีนระบุว่า หลังกองกำลังอินเดียเปิดฉากยิง ทหารจีนจึงได้ใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อรักษาความมั่นคงและควบคุมสถานการณ์ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทหารอินเดียถอนกองกำลังออกจากพื้นที่และสืบสวนหาสาเหตุของการยิงในครั้งนี้ อย่างไรก็ดี ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากทั้งสองฝ่าย 
  • (-)เงินดอลล์แข็งค่า นักลงทุนรุกซื้อสกุลเงินปลอดภัยหลังตลาดหุ้นร่วง  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัยและมีสภาพคล่องสูง หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงอย่างหนัก ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลง เนื่องจากความกังวลที่ว่าอังกฤษอาจจะไม่สามารถทำข้อตกลงการค้ากับสหภาพยุโรป (EU)  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.40% แตะที่ระดับ 93.4450 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9173 ฟรังก์ จากระดับ 0.9162 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3222 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3094 ดอลลาร์แคนาดา แต่หากเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 106.03 เยน จากระดับ 106.28 เยน เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2990 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1780 ดอลลาร์
  • (+/-) ดาวโจนส์ปิดร่วง 632.42 จุดจากแรงขายหุ้นเทคโนฯ,วิตกข้อพิพาทจีน-สหรัฐ  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าจะลดระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐและจีน พร้อมกับขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีบริษัทสหรัฐที่ออกไปสร้างงานในจีนและประเทศอื่นๆ  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,500.89 จุด ลดลง 632.42 จุด หรือ -2.25% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,331.84 จุด ลดลง 95.12 จุด หรือ -2.78% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,847.69 จุด ลดลง 465.44 จุด หรือ -4.11%

- Advertisement -

ขอขอบคุณ  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

- Advertisement -

Leave A Reply

Your email address will not be published.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More