Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

ทองคำปีนี้ดิ่งแรง 3 ไตรมาส ร่วงกว่า 7% เดือน ก.ย.ร่วงหนักสุด 3.13 %

- Advertisement -

267

- Advertisement -

แม้ว่าตั้งแต่ย่างเข้าสู่ไตรมาส 4 ปีนี้ ราคาทองคำในตลาดโลก (Gold Spot) จะขยับตัวเพิ่มขึ้นมา พยายามทดสอบแนวต้าน แถว 1,770 ดอลลาร์ แต่หากจะมองย้อนไปตั้งแต่ต้นปี จะเห็นได้ว่าราคาทองคำปรับตัวลดลงไปเกือบ 140 ดอลลาร์ หรือ ลดลงกว่า 7% โดยราคาราคาเปิดต้นปีที่ 1,897.90 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ และขึ้นไปแตะจุดสูงสุดของปีนี้ที่ 1,958 ดอลลาร์ ในเดือน ม.ค. ก่อนจะมาปิดไตรมาส 3 ที่ 1,757 ดอลลาร์

คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าวกับ GoldAround.com ว่า ราคาทองคำในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาปรับตัวลดลง 13.20 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ หรือ -0.75% โดยการปรับตัวลงส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในเดือน ก.ย. ทั้งนี้ ราคาทองคำในเดือน ก.ย. ปิดปรับตัวลดลง 56.8 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ หรือ -3.13%

คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ - YLG
คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ – YLG

โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประจำ เดือน ก.ย. ที่เป็นไปในเชิงสายเหยี่ยว (Hawkish) หรือ สนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงินมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า โดยส่งสัญญาณประกาศลด QE อย่างเป็นทางการอย่างเร็วที่สุดในการประชุมนโยบายการเงินของเฟด เดือน พ.ย.

ขณะที่กระบวนการลด QE (QE Tapering) อาจสิ้นสุดลงประมาณกลางปีหน้า ซึ่งจะเปิดทางให้เฟดสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อย่างเร็วสุดในปี 2022 ซึ่งถือเร็วกว่าการคาดการณ์เดิม

- Advertisement -

“การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในเดือน ก.ย. ในปีนี้ แตกต่างจากสถิติในอดีต ที่มักให้ผลตอบแทนที่เป็นบวกในช่วงเดือนกันยายน และ มีระดับความเชื่อมั่น เกือบ 90% โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักที่อยู่เบื้องหลังโมเมนตัม ในเดือน ก.ย. ได้แก่ ความต้องการทองคำทางกายภาพที่แข็งแกร่งจากผู้บริโภคทองคำอันดับ 1 และ 2 ของโลกอย่างจีนและอินเดีย” คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG กล่าว

ขณะที่ปีนี้ แม้ความต้องการทองคำทางกายภาพจากจีนและอินเดียจะอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง แต่ต้องยอมรับว่า การดำเนินนโยบายการเงินของเฟดมีบทบาทอย่างมากต่อราคาทองคำ ดังนั้น แม้ว่าการปรับตัวลดลงของราคาทองคำในเดือน ก.ย. ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงจุดยืนด้านนโยบายการเงินของเฟดจะน่าผิดหวัง แต่ก็ไม่ถือว่าน่าประหลาดใจแต่อย่างใด

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG ได้คาดการณ์ราคาทองคำในระยะสั้นว่า หลังจากเดือน ก.ย. ราคาทองคำไม่สามารถสร้างระดับสูงสุดใหม่จากเดือนก่อนหน้า ( โซนระดับสูงสุดของเดือน ก.ค. และเดือน ส.ค. อยู่บริเวณ 1,833 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ) ซึ่งเดือน ก.ย. ราคาทองคำขึ้นไปแตะระดับดังกล่าว 1,833 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ และมีแรงขายกดดันให้ราคาอ่อนตัวลงที่ชัดเจนมากขึ้น

ทำให้มองว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มแกว่งตัวในทิศทางอ่อนตัวลง (Sideway Down) ตราบใดที่ราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,833 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสูดของ 3 เดือนที่ผ่านมา (ก.ค., ส.ค. และ ก.ย.) คาดว่าราคาจะค่อย ๆ ขยับลงทดสอบแนวรับแรกโซน 1,698 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับสำคัญบริเวณ 1,680-1,676 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ( ระดับต่ำสุดของเดือน ส.ค. และ ระดับต่ำสุดของปี 2021 ) ซึ่งเป็นจุดชี้วัดสำคัญสำหรับทิศทางราคาทองคำในระยะถัด ๆ ไป

นี่เป็นมุมมองเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมา และมุมมองราคาทองคำหลังจากนี้ในระยะสั้น ส่วนในช่วงเวลาที่เหลือของปีจะมีประเด็นสำคัญอะไรที่ควรจะต้องเกาะติดใกล้ชิด เราจะนำมาเสนอในโอกาสถัดไป

- Advertisement -

ขอขอบคุณ : YLG

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More