- Advertisement -

ทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เคลื่อนไหวผันผวนร่วม $80 และ ได้เขย่าราคาอย่างน่าระทึก

โดย ราคาทองคำได้หลุดแนวรับสำคัญที่ $1,680 สู่ระดับ $1,650 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2020 หลังนักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรง เมื่อตัวเลขการจ้านของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. ยังคงแข็งแกร่ง

ขณะที่ ยอดขายปลีกเดือนที่ผ่านมาก็ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้เฟดยังคงเดินหน้าใช้นโยบายการเงินอย่างแข็งกร้าวต่อไป

อย่างไรก็ตาม สิ่งตลาดเฝ้าจับตามองขณะนี้ คือ คำพูดของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ

ที่จะกล่าวหลังการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในช่วงคืนวันพุธ ซึ่งเบื้องต้นนักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในคืนวันพุธ และจะปรับขึ้นอีก 0.75% ในการประชุมเดือน พ.ย.

- Advertisement -

ทำให้ราคาทองคำยังคงถูกกดดัน เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น และผลตอบแทนของกระทรวงการคลังยังคงเพิ่มขึ้นต่อไป

Everett Millman precious metals expert ของ Gainesville Coins กล่าวว่า

ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้ขจัดความน่าดึงดูดใจของทองคำ ในขณะเดียวกัน ความคาดหวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย กำลังผลักดันให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงสูงขึ้น ซึ่งจะมากดดันราคาทองคำ ยิ่งเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยมากเท่าใด ราคาทองคำก็จะถูกกดดันทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ขณะที่ Edward Moya senior market analyst ของ OANDA กล่าวว่า

- Advertisement -

หากเฟดทำเซอร์ไพรซ์ ด้วยการขึ้นดอกเบี้ย 1% อาจจะได้เห็นราคาทองคำลดลงทะลุ 1,600 ดอลลาร์ และแนวโน้มราคาทองคำจะแย่ลง

อย่างไรก็ดี ตลาดยังคาดว่า เฟดยังน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ทั้งในการประชุมเดือนนี้ และ พ.ย. แต่นั่นก็ยังทำให้ราคาทองคำอยู่ภายใต้แรงกดดัน

ทั้งนี้ การที่ราคาทองคำจะฟื้นตัวได้ เศรษฐกิจจำเป็นต้องแสดงสัญญาณการชะลอตัวในช่วงอีก 2-3 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะทำให้เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับลดการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย

นอกจากนั้น ยังจะต้องเห็นตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงด้วย เพราะเฟดจะพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยแบบสมดุล และอาจจะไม่สามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ถึง 5% หรือ สูงกว่านี้ เพราะจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนมองว่าราคาทองคำมีแนวโน้มแย่ลงมากในอนาคต

โดย Daniel Ghali Senior Commodity Strategist ของ TD Securities ระบุว่า

ได้ขยายสถานะ short ในการลงทุนทองคำ หลังราคาทองคำได้ถูกเทขาย เมื่ออัตราเงินเฟ้อที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยดูได้จากการถือครองของกองทุน ETF ทองคำ ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ TD Securities  ได้คาดการณ์เป้าหมายทองคำรอบใหม่อยู่ที่ 1,580 ดอลลาร์ โดยมีจุด stoploss ที่ 1,720 ดอลลาร์

ด้าน Frank Cholly senior market strategist ของ RJO Futures กล่าวว่า

แนวรับที่สำคัญตอนนี้ ใกล้ถึง 1,650 ดอลลาร์ แล้ว ซึ่งต้องมาดูว่า จะมีแรงซื้อเข้ามาหรือไม่ โดยตลาดยังมองว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ทั้งในการประชุม FOMC เดือนนี้ และ เดือนหน้า แต่ตลาดยังรอฟังท่าทีของ ปธ.เฟด ที่จะให้สัมภาษณ์หลังการประชุม

หาก ปธ.เฟด ระบุว่า ยังไม่สามารถระบุว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบรุนแรง โดยจะขอดูตัวเลขเศรษฐกิจในเดือนถัดไปก่อนว่ามีการชะลอตัวหรือไม่ ซึ่งอาจจะบรรเทาความกลัวว่า การเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงในช่วงหลังจากนี้ ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำพลิกกลับมาได้

นอกจากนี้ ตลาดยังติดตามการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในสัปดาห์หน้า

เพราะเมื่ออัตราผลตอบแทนระยะสั้นเคลื่อนตัวเหนืออัตราผลตอบแทนระยะยาว ตลาดมักจะถือว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้ภาวะถดถอยที่เชื่อถือได้ และมันก็แย่ลงเรื่อย ๆ

โดยล่าสุด อัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังอายุ 10 ปี อยู่ที่ 3.46% ในขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี อยู่ที่ 3.88% ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ลบ 0.42% ซึ่งต่ำสุดในรอบเดือน

- Advertisement -