Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

ชี้ราคาทองคำอาจขยับขึ้นอีก 50% ภายใต้ปธน.สหรัฐฯคนใหม่

- Advertisement -

411

- Advertisement -

นักวิเคราะห์ ชี้ราคาทองคำมีโอกาสเพิ่มขึ้นอีก 50% ภายใต้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ ระดับราคา $2000 จะเปลี่ยนจากแนวต้านเป็นแนวรับ

Mike McGlone senior commodity strategist Bloomberg Intelligence  กล่าวกับ Kitco ว่า ตลอดระยะเวลาการบริหารงาน 4 ปีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น 50% และคาดว่าภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดีคนต่อไป ราคาก็ควรเพิ่มขึ้นอีก 50% หรืออาจจะมากกว่านั้น พร้อมคาดการณ์ว่า เพาดานราคาระดับ 2,000 ดอลลาร์ของทองคำ จะเปลี่ยนจากแนวต้านเป็นแนวรับ

McGlone มองว่า หากเดโมแครตได้รับชัยชนะ “โจ ไบเดน” จะใช้จ่ายมากขึ้น  ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อตลาดทองคำ เพราะจะได้รับการกระตุ้นทางการคลังที่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้เฟดทำ QE เพิ่มเติม ซึ่งทั้งสองอย่าง เป็นสิ่งที่ดีสำหรับทองคำแต่อาจไม่ดีต่อเงินดอลลาร์

อย่างไรก็ดีแม้ผลสำรวจคะแนนนิยมขณะนี้ฝั่งเดโมแครตจะนำห่าง แต่นักลงทุนยังไม่เชื่อมั่นมากนัก และเพราะภาพการเลือกตั้งประธานาธิบดีในครั้งที่ผ่านมายังอยู่ในความทรงจำ หลังทรัมป์สามารถแซงเอาชนะฮิลลารี่สำเร็จ ทั้งที่มีคะแนนตามหลังอยู่มาก ในครั้งนี้ก็เช่นกัน ทำให้นักลงทุนต่างเฝ้ารอผลการเลือกตั้งที่จะออกมาก่อนที่จะเดินหน้าต่อ

- Advertisement -

McGlone กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ดีไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในทางเทคนิคราคาทองคำยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาจะมีแรงซื้อทองคำมากเกินไป แต่ปัจจัยพื้นฐานยังเป็นบวกอยู่มาก โดยได้รับแรงหนุนจากอัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP ที่เพิ่มขึ้น , การทำ QE ที่เพิ่มขึ้น, การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ และความผันผวนของตลาดหุ้น ซึ่งยังมองไม่เห็นว่าจะมีปัจจัยอะไรที่จะมาทำให้ราคาทองคำปรับลดลงได้

ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ทองคำขยับขึ้นสู่จุดสูงสุด ก็คือการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หลังการเลือกตั้ง เพราะเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นลง ก็จะมีโอกาสได้เห็นภาษีกำไรจากการลงทุนมากขึ้น กฎระเบียบที่เพิ่มขึ้น ตลาดหุ้นสหรัฐจะเข้าสู่ช่วงที่ผลการดำเนินงานต่ำลง ทำให้เงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่า และผลักดันราคาทองคำก็จะไต่ระดับเพิ่มขึ้น

อีกประเด็นสำคัญที่ตลาดตระหนักดี ก็คือสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐที่ยังคงเปราะบางมาก ซึ่งอก่อนหน้านี้ประธานธนาคารกลางสหรัฐได้เตือนว่า หากการกระตุ้นเศรษฐกิจในเดือนตุลาคมไม่เพียงพอ อาจทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีปัญหา ซึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้ รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองก่อนการเลือกตั้ง อาจเกิดความสับสนและวุ่นวายตามมา

CR:kitco news

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More