ราคาทองคำกลับมาผงาด โดยราคาทองคำพยายามยืนเหนือ แนวจิตวิทยาที่ 1,950 ดอลลาร์ให้ได้ วันนี้จับตาการประชุม ECB คาดส่งผลดีต่อราคาทองคำ ส่วนราคาในประเทศเช้านี้บวกเพิ่มบาทละ 100 บาท
สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำ 96.5 % ประจำวันที่ 10 ก.ย. 2563
ทองคำแท่ง
รับซื้อ บาทละ 28,650 บาท ขายออก บาทละ 28,750 บาท
ทองรูปพรรณ
รับซื้อ บาทละ 28,136 บาท ขายออก บาทละ 29,250 บาท
GoldAround.com ได้สำรวจการเคลื่อนไหวราคาทองคำยังเช้านี้เปิดตัวสวยในช่วงแรงขยับขึ้นไปแตะแนว 1,950 ดอลลาร์ แต่มีแรงเทขายออกมาทำให้ราคาร่วงลงมาเล็กน้อย แต่ในภาพรวมยังขยับในกรอบ 1,940-1,950 ดอลลาร์ ทำให้ราคาทองคำในประเทศที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำเช้านี้ เพิ่มขึ้นบาทละ 100 บาท ส่วนการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท เช้าวันนี้ได้แข็งค่าขึ้นมาแตะระดับ 31.22 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนที่จะอ่อนค่าลงมาเคลื่อนไหวแถว 31.25 บาทต่อดอลลาร์
ส่วนภาพรวมของ gold spot เมื่อวานปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.56 ดอลลาร์ ในช่วงกลางวันเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แต่ในช่วงกลางคืนมีแรงซื้อกลับเข้ามา ทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ทดสอบแนวต้าน 1,950 ดอลลาร์ เนื่องจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.20% หลังมีข่าวว่าธนาคารกลางยุโรปมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน
นอกจากนั้นยังมีความล่าช้าของการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ซึ่งAstraZeneca ร่วมกับมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ประกาศระงับการทดลองใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 หลังผู้เข้าร่วมโครงการทดลองวัคซีนล้มป่วยด้วยอาการทางระบบประสาทแต่ต่อมา Stat News รายงานว่าอาการดีขึ้นและน่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ในวันนี้ จึงกลับมาสร้างความหวังเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้าน COVID-19 ซึ่งเป็นปัจจัยสกัดช่วงบวกทองคำ
นอกจากนั้นการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาทองคำยังถูกสกัด หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ด้านกองทุน SPDR Gold Trust ถือครองทองคำซื้อทองคำ 2.92 ตัน
วันนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรปและการแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรป ซึ่งอาจจะออกมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม ส่วนคืนนี้สหรัฐจะประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ตลาดคาดจะอยู่ที่ระดับ 838,000 ราย ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนส.ค.ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 0.2%
แนวรับ 1,919 ดอลลาร์ 1,902 ดอลลาร์ และ1,881 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,956 ดอลลาร์ 1,973 ดอลลาร์ และ 1,992 ดอลลาร์
ทยอยขายบริเวณแนวต้าน 1,956-1,973 ดอลลาร์ แต่หากผ่าน 1,973 ดอลลาร์ ให้ชะลอการขายออกไป และเน้นการลงทุนระยะสั้น หากรับความเสี่ยงได้น้อยอาจเข้าซื้อคืนหากราคาไม่หลุด 1,932-1,919 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,957 ดอลลาร์ 1,965 ดอลลาร์ และ 1,975 ดอลลาร์
แนวรับ 1,947 ดอลลาร์ 1,930ดอลลาร์ และ1,918 ดอลลาร์
นักลงทุนระยะสั้น : รอ Follow Buy ที่ 1,947 ดอลลาร์ เผื่อการซื้อเฉลี่ยที่ 1,930 ดอลลาร์ วาง Stop-loss ที่1,925 ดอลลาร์ เคร่งครัด เพราะทำ Cup ในราย 4H แต่รายวันยังคงภาพที่ Descending
แนวต้าน 1,958 ดอลลาร์ 1,962 ดอลลาร์ และ1,968 ดอลลาร์
แนวรับ 1,935 ดอลลาร์ 1,928 ดอลลาร์ และ1,922 ดอลลาร์
ทองคำดีดตัวขึ้นอีกครั้ง จากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังมีข่าวว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนได้ เพิ่มความน่าดึงดูดให้กับตลาดทองคำเบื้องต้นมองว่าสัญญาณกราฟทองคำทั้งระยะสั้นกับระยะยาวเริ่มมีมุมมองเป็นบวก
แนวรับ 1,935 ดอลลาร์ 1,920 ดอลลาร์ และ1,911 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,959 ดอลลาร์ 1,970 ดอลลาร์ และ1,980 ดอลลาร์
คืนนี้ตลาดคาดว่า ECB น่าจะแถลงในทางบวกต่อเศรษฐกิจ จึงอาจกดดันค่าเงินสหรัฐฯและบวกกับทองนิดๆ กลยุทธ์ยังเป็นย่อซื้อขึ้นขายไปก่อน ในทางเทคนิคคอลทองฟื้นตัวมาพยายามยืนแนวจิตวิทยา 1,950 ดอลลาร์ให้ได้ก่อนเพื่อเปลี่ยนแนวโน้ม หากล้มเหลวอีกก็จะต้องลงมาพักตั้งฐานกันใหม่อีกรอบ คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS ในกรอบ 1,933-70 ดอลลาร์ จุดเข้า BUY ที่ 1,925-1,935 ดอลลาร์ เป้าหมาย 1,958-70 ดอลลาร์ SL ที่1,905 ดอลลาร์
แนวรับ 1,920 ดอลลาร์ และ1,900 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,950 ดอลลาร์ และ1,973 ดอลลาร์
แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป ส่วนทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดแข็งค่าขึ้น โดยเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากธนาคารกลางยุโรปมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน
จุดซื้อ 1,937 ดอลลาร์ หรือบาทละ 28,650 บาท
จุดขาย 1,958 ดอลลาร์ หรือบาทละ 28,850 บาท
ราคาทองคำเมื่อวานปิดบวก 14 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 หลังจากที่ แอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ ประกาศระงับการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเฟสที่ 3 นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าลงของค่าเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ช่วงบวกของราคาทองได้ถูกจำกัดในระหว่างวัน หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากแรงช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี