- Advertisement -

16-06-20

ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง ท่ามกลางความเคลื่อนไหวที่ผันผวน โดยราคาทองคำร่วงลงในช่วงแรกหลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลงอย่างหนักอันเนื่องมาจากความวิตกเกี่ยวกับการระบาดระลอก 2 ของ COVID-19 ทั้งในจีนและสหรัฐ ทำให้นักลงทุนและเทรดเดอร์จำนวนมากเผชิญกับการถูกเรียกหลักประกันเพิ่ม (Margin call) จึงขายทำกำไรทองคำเพื่อนำเงินไปเติมหลักประกันและโปะขาดทุนในพอร์ต

ประกอบกับดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ดีดตัวขึ้นเกิดคาดสู่ระดับ -0.2 ในเดือนมิ.ย.จึงเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำเพิ่มเติม โดยเงินทุนส่วนใหญ่ไหลเข้าพันธบัตรสหรัฐสะท้อนจากบอนด์ยีลด์อายุ 10 ปีที่ร่วงลงจากแรงซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

อย่างไรก็ดีแรงซื้อ Buy the dips เริ่มหนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวันบริเวณ 1,703.71 ดอลลาร์

นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ประกาศขยายขอบข่ายโครงการ Secondary Market Corporate Credit Facility(SMCCF)วงเงิน 7.50 แสนล้านดอลลาร์ ให้ครอบคลุมถึงการซื้อตราสารหนี้ของภาคเอกชน หรือ หุ้นกู้ พร้อมกับยกเลิกกฎระเบียบอันเข้มงวด มุ่งเสริมสภาพคล่องในตลาดและจัดหาสินเชื่อให้กับบริษัทขนาดใหญ่ที่มีการจ้างงานจำนวนมาก นั่นทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐมีการฟื้นตัวขึ้น จึงช่วยลดทอนแรงขายในตลาดทองคำในที่สุด

- Advertisement -

ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาทองคำวันนี้ แม้ราคาทองคำมีการปรับตัวลดลง แต่ระยะสั้นหากพยายามจะดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านระดับ 1,735-1,746 ดอลลาร์ แต่หากแรงซื้อจำกัดหรือไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านแรกโซน 1,735 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวานนี้ได้อย่างมั่นคง จะเกิดแรงขายกดดันให้ราคาลงมาสู่เพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง

กลยุทธ์วันนี้เน้นเก็งกำไรในกรอบจากการแกว่งตัว โดยแบ่งทองคำขายในโซน 1,735-1,746 ดอลลาร์ แล้วทยอยเข้าซื้อคืนเพื่อทำกำไรบริเวณ 1,715-1,703 ดอลลาร์ หากราคาทองคำยืนเหนือแนวรับได้

สำหรับวันนี้จับตาการ Testimony ของนายพาวเวลล์ ประธานเฟดต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภา รวมถึงติดตามการเปิดเผยยอดค้าปลีก, อัตราการใช้กำลังการผลิต, การผลิตภาคอุตสาหกรรม, ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ และ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมิ.ย. โดย NAHB

ขอขอบคุณ : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

- Advertisement -