19-05-20
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 11.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มาอยู่ที่ระดับ 1,731.10 ดอลลาร์ แม้ว่าในระหว่างวันราคาทองคำจะทะยานขึ้นไปทำระดับสูงสุดของปีนี้ครั้งใหม่ และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี 7 เดือนบริเวณ 1,765.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ดี ราคาทำคำไม่สามารถรักษาระดับไว้ได้ก่อนที่จะดิ่งลงอย่างหนัก โดยได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ที่พุ่งขึ้นกว่า 900 จุด เนื่องจากมีข่าวความคืบหน้าในการทดลองวัคซีนต้านไวรัส COVID-19 หลัง Moderna Inc แถลงผลการทดลองทางคลินิกพบว่าอาสาสมัครที่ฉีดวัคซีนต้าน COVID-19 ที่มีชื่อว่า mRNA-1273 สามารถผลิตแอนติบอดีซึ่งสามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ และ Moderna จะเริ่มการทดลองในขั้นต่อไปในเดือนก.ค.นี้
นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านจาก NAHB ที่ฟื้นตัวขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 37 ในเดือน พ.ค.อีกด้วย สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาทองดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,726.36 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวัน ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นในช่วงปลายตลาดหลังสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
สำหรับวันนี้ จับตานายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด พร้อมกับนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ มีกำหนดจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภา ด้านการธนาคาร การเคหะ และชุมชนเมือง แห่งสหรัฐอเมริกา(The U.S. Senate Committee on Banking, Housing, and Urban Affairs) ในเวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย
มาดูการเคลื่อนไหวราคาทองคำ ได้เกิดแรงขายอ่อนตัวลงหลังจากที่ดีดตัวขึ้นมา เบื้องต้นมีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้ ประเมินว่าจะเกิดแรงขายกดดันมาเข้าใกล้ 1,730-1,726 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถยืนเหนือบริเวณแนวรับดังกล่าวได้หลายชั่วโมง มีแนวโน้มขึ้นทดสอบโซนแนวต้านอีกครั้ง
กลยุทธ์วันนี้ เน้นเข้าเสี่ยงซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น หากราคาทองคำยืนเหนือแนวรับ 1,730-1,726 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ หรือ สามารถถือสถานะซื้อต่อเพื่อรอทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (สถานะซื้อตัดขาดทุนที่ 1,726 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
ทั้งนี้ให้แนวรับไว้ที่ 1,726 และ 1,709 และ1,690 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,747 และ1,765 และ1,779 ดอลลาร์