สัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำปรับขึ้น เนื่องจากเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลง
สัปดาห์นี้ติดตามประเด็นประธานาธิบดีทรัมป์ติดโควิด-19
แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหว Sideways up
- ราคาทองคำ Spot ปรับขึ้นต่อเนื่องจนทะลุแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยา 1,900 ดอลลาร์ได้เนื่องจากเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลง ความคืบหน้าเกี่ยวกับการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ หลังจากนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐส่งสัญญาณว่ามีแนวโน้มบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ติดเชื้อโควิด-19 และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอ ซึ่งการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 661,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 900,000 ตำแหน่ง ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ซื้อทองคำ 8.76 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- สัปดาห์นี้ติดตามประเด็นประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ติดเชื้อโควิด-19 ล่าสุดมีข่าวว่าอาจจะได้ออกจากโรงพยาบาลในวันนี้ หากมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC มาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐหลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์แล้วแต่คาดว่าอาจจะไม่ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.ย.ดุลการค้าเดือนส.ค.จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
- แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหว Sideways up โดยมีแนวต้านที่ 1,920ดอลลาร์ และ 1,940 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,880 ดอลลาร์และ1,850 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,898.70 | -6.90 | 1,880/1,850 | 1,920/1,940 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
28,550 | – | 28,050/27,650 | 28,650/28,900 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
28,640 | -80 | 28,240/27,830 | 28,810/29,080 |
แนะนำซื้อเมื่อราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,880 ดอลลาร์ (GF 28,240บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,870 ดอลลาร์(GF 28,100บาท)
การลงทุนในทองแท่งแนะนำทยอยซื้อสะสมที่ราคาทองคำ Spot 1,850 ดอลลาร์ และ1,800-1,820 ดอลลาร์
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,909.10 | -7.00 | 1,885/1,855 | 1,925/1,945 |
แนะนำซื้อเมื่อราคาGOZ20ปรับลงมาที่ 1,885 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,875 ดอลลาร์
เงินบาท
ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดทรงตัวโดยเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆเมื่อคืนวันศุกร์ (2 ต.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับข่าวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ติดโควิด-19 ซึ่งUSD Futures เดือนธ.ค.63คาดจะมีแนวรับที่ 31.50 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 31.65 บาท/ดอลลาร์
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์แข็งค่ารับความต้องการสกุลเงินปลอดภัย
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (2 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับข่าวประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ติดเชื้อโควิด-19 นั้นกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินปรับตัวขึ้น 0.15% สู่ระดับ 93.8476
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดลบ 8.7 ดอลลาร์เหตุดอลล์แข็งค่ากระตุ้นแรงขาย
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (2 ต.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้กระตุ้นแรงขายสัญญาทองโดยทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้นมีราคาแพงขึ้นและมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่นสัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.7 ดอลลาร์หรือ 0.45% ปิดที่ 1,907.6 ดอลลาร์/ออนซ์แต่ในรอบสัปดาห์นี้ราคาทองปรับตัวขึ้น 2.2%สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 22.5 เซนต์หรือ 0.93% ปิดที่ 24.029 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ:น้ำมันWTI ปิดร่วง 1.67 ดอลล์วิตกข่าวทรัมป์ติดโควิดฉุดตลาด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (2 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบออกมาหลังจากมีรายงานข่าวว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งได้ตอกย้ำความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่ยังคงเพิ่มขึ้นทั่วโลกและอาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันตามมาสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 1.67 ดอลลาร์หรือ 4.3% ปิดที่ 37.05 ดอลลาร์/บาร์เรลและปิดตลาดสัปดาห์นี้ร่วงลง 8%สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 1.66 ดอลลาร์หรือ 4.1% ปิดที่ 39.27 ดอลลาร์/บาร์เรลและปิดตลาดสัปดาห์นี้ร่วงลง 7.4%
ตลาดหุ้นต่างประเทศ:ดาวโจนส์ปิดลบ 134.09 จุดนลท.เทขายหุ้นจากวิตกทรัมป์ติดโควิด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (2 ต.ค.) เนื่องจากรายงานข่าวที่ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ติดเชื้อโควิด-19 นั้นทำให้นักลงทุนพากันเทขายหุ้นออกมาเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.นี้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,682.81 จุดลดลง 134.09 จุดหรือ -0.48%, ดัชนีS&P500 ปิดที่ 3,348.42 จุดลดลง 32.38 จุดหรือ -0.96% และดัชนีNasdaq ปิดที่ 11,075.02 จุดลดลง 251.49 จุดหรือ -2.22%
“มนูชิน”เสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐรอบใหม่วงเงิน1.6ล้านล้านดอลล์
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่านายสตีเวนมนูชินรัฐมนตรีคลังสหรัฐได้เสนอวงเงิน1.6ล้านล้านดอลลาร์ในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ต่อนางแนนซีเพโลซีประธานสภาผู้แทนราษฎรหรัฐก่อนหน้านี้นายมนูชินกล่าวว่าคณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์จะไม่ยอมรับข้อเสนอวงเงิน2.2ล้านล้านดอลลาร์ของพรรคเดโมแครตโดยระบุว่าเขาต้องการให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่มีวงเงินประมาณ1.5ล้านล้านดอลลาร์เท่านั้นทั้งนี้ตลาดการเงินทั่วโลกกำลังจับตาการเจรจาระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรสเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19นายมนูชินและนางเพโลซีได้เจรจาร่วมกันเมื่อวานนี้โดยนายมนูชินได้แสดงความหวังว่าเขาจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับนางเพโลซีในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ด้านนางเพโลซีแสดงความหวังเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงกับนายมนูชินด้วยเช่นกันโดยขณะนี้พรรคเดโมแครตพยายามผลักดันให้มีการบรรลุข้อตกลงดังกล่าวก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในเดือนพ.ย.
โมเดอร์นายืนยันจะรู้ผลทดลองวัคซีนโควิดเฟสสุดท้ายเร็วสุดปลายเดือนหน้า
โมเดอร์นา (Moderna) ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐเปิดเผยว่าจะรู้ผลการทดลองทางคลินิกกับวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทได้อย่างเร็วที่สุดในวันที่ 25 พ.ย.นี้และบริษัทจะไม่มีการจัดจำหน่ายวัคซีนดังกล่าวก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย. นายสเตฟานบันเซลประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโมเดอร์นาเปิดเผยในการประชุมที่จัดโดยไฟแนนเชียลไทม์สว่า “เราจะมีข้อมูลด้านความปลอดภัยที่เพียงพอภายในวันที่ 25 พ.ย.นี้เพื่อที่จะสามารถขอยื่นอนุมัติใช้วัคซีนกรณีฉุกเฉินจากทางสำนักงานงานอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐซึ่งหากข้อมูลด้านความปลอดภัยออกมาดีก็จะถือว่าวัคซีนมีความปลอดภัย” ทั้งนี้โมเดอร์นากำลังอยู่ในระหว่างการทดลองทางคลินิกเฟส 3 ในสหรัฐซึ่งเป็นระยะที่วัคซีนทดลองหรือยาหลอกถูกสุ่มฉีดให้กับอาสาสมัครหลายหมื่นคนเพื่อตรวจสอบถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนส่วนการทดลองเฟส 3 สำหรับวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ที่บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในสหรัฐนั้นยังคงถูกระงับจนถึงขณะนี้
สื่อรัฐบาลจีนซ้ำเติมทรัมป์ติดโควิดต้องจ่ายเดิมพันที่เพิกเฉยไวรัสมรณะ
นายหูสีจินบรรณาธิการบริหารของหนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์ซึ่งเป็นสื่อของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเปิดเผยผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์แห่งสหรัฐและสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งต้องจ่ายเดิมพันที่เขาเพิกเฉยต่ออันตรายของโรคโควิด-19 โดยข่าวการติดเชื้อของทั้งสองแสดงให้เห็นถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดที่รุนแรงในสหรัฐซึ่งเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของปธน.ทรัมป์และสหรัฐและอาจจะส่งผลกระทบด้านลบต่อการเลือกตั้งสมัยสองของเขาด้วย” การแสดงความเห็นของนายหูมีขึ้นหลังจากปธน.ทรัมป์ยืนยันผ่านทวิตเตอร์ในช่วงเช้าวันนี้ว่า “เมลาเนียและผมมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวกเราจะเริ่มกระบวนการกักตัวและการรักษาในทันทีเราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน”การที่ปธน.ทรัมป์วัย 74 ปีมีผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวกนั้นอาจยิ่งทำให้ประชาชนหันมาจับตาปธน.ทรัมป์ในเรื่องการรับมือกับไวรัสโควิด-19 ในช่วงเวลาที่ปธน.ทรัมป์ยังคงต้องรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งแข่งกับนายโจไบเดนคู่ท้าชิงจากพรรคเดโมแครตซึ่งขณะนี้มีคะแนนนิยมนำหน้าปธน.ทรัมป์อยู่มาก