เฟดส่งสัญญาณจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0% ต่อไปจนถึงปี 2566
คืนนี้สหรัฐจะประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,950-1,973 ดอลลาร์
- ราคาทองคำ Spotเมื่อวานปรับขึ้นต่อเนื่องและขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,973 ดอลลาร์ เนื่องจากยอดค้าปลีกของสหรัฐเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% ต่ำกว่าตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 1.1% สำหรับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% และเฟดได้ระบุถึงการใช้นโยบายการเงินเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย ซึ่งส่งสัญญาณจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0% ต่อไปจนถึงอย่างน้อยปี 2566 ส่วนประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเกิดขึ้นรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมเมื่อวาน
- วันนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น ส่วนคืนนี้สหรัฐจะประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ตลาดคาดจะอยู่ที่ระดับ 825,000 ราย ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนก.ย.ตลาดคาดจะลดลงสู่ระดับ 15.0 จากระดับ 17.2 ในเดือนส.ค.การอนุญาตก่อสร้างบ้านและการเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนส.ค. ตลาดคาดจะอยู่ที่ระดับ 1.51 ล้านยูนิต และ 1.47 ล้านยูนิต
- แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,950-1,973 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้าน 1,973 ดอลลาร์ และ 1,980 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,950 ดอลลาร์และ1,930 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,958.80 | +5.00 | 1,950/1,930 | 1,973/1,980 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
28,950 | -50 | 28,750/28,500 | 29,050/29,150 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
28,990 | -140 | 28,950/28,680 | 29,250/29,320 |
แนะนำซื้อเมื่อราคาทองคำ Spot ปรับลงมาที่1,930ดอลลาร์ (GF 28,680 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,920ดอลลาร์ (GF 28,560 บาท)
การลงทุนในทองแท่ง แนะนำทยอยซื้อสะสมที่ราคาทองคำ Spot 1,920-1,930ดอลลาร์
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,959.00 | -6.30 | 1,952/1,932 | 1,975/1,982 |
แนะนำซื้อเมื่อราคาGOU20ปรับลงมาที่1,932ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,922ดอลลาร์
เงินบาท
ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดเริ่มอ่อนค่าลง เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ หลังจากเฟดมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ โดยเฟดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลง 3.7% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัว 6.5% ซึ่ง USD Futures เดือนก.ย.63คาดจะมีแนวรับที่ 31.10 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 31.25 บาท/ดอลลาร์
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์แข็งเทียบสกุลเงินหลักหลังเฟดเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (16 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้และปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.16% แตะที่ 93.1951 เมื่อคืนนี้
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดบวก 4.3 ดอลล์ก่อนนักลงทุนรู้ผลประชุมเฟด
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนที่ผ่านมา (16 ก.ย.) ก่อนที่นักลงทุนจะรู้ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) จะแถลงผลการประชุมสัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4.3 ดอลลาร์หรือ 0.22% ปิดที่ 1,970.5 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.2 เซนต์หรือ 0.04% ปิดที่ 27.476 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ:น้ำมันWTI ปิดพุ่ง $1.88 รับสต็อกน้ำมันดิบร่วงเกินคาด,เฮอร์ริเคนถล่มอ่าวเม็กซิโก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 5% เมื่อคืนที่ผ่านมา (16 ก.ย.) หลังจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมานอกจากนี้สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนรายงานที่ว่าอิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคน “แซลลี” ส่งผลให้ต้องมีการการระงับการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกมากกว่า 1 ใน 4 สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.88 ดอลลาร์หรือ 4.9% ปิดที่ 40.16 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.69 ดอลลาร์หรือ 4.2% ปิดที่ 42.22 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดหุ้นต่างประเทศ:ดาวโจนส์ปิดบวกเพียง 36.78 จุดหลัง”พาวเวล”กังวลศก.สหรัฐ
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนที่ผ่านมา (16 ก.ย.) หลังจากนายเจอโรมพาวเวลประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจและสถานการณ์ตลาดแรงงานของสหรัฐขณะที่ดัชนีNasdaq และS&P500 ปิดในแดนลบเนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,032.38 จุดเพิ่มขึ้น 36.78 จุดหรือ +0.13% ขณะที่ดัชนีNasdaq ปิดที่ 11,050.47 จุดลดลง 139.85 จุดหรือ -1.25% และดัชนีS&P500 ปิดที่ 3,385.49 จุดลดลง 15.71 จุดหรือ -0.46%
ทูตจีนชี้สหรัฐบังคับขายกิจการTikTokเป็นการข่มเหงทางเศรษฐกิจ
นายจางหมิงเอกอัคราชทูตจีนประจำสหภาพยุโรป (EU) ออกมาประนามสหรัฐกรณีบังคับให้ไบต์แดนซ์ (ByteDance) ขายกิจการติ๊กต็อก (TikTok) ในสหรัฐด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติว่าเป็น “การข่มเหงทางเศรษฐกิจ” รวมทั้งโจมตีการที่EU กีดกันบริษัทหัวเว่ยเทคโนโลยี่โดยระบุถึงการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมของรัฐบาลในซีกโลกตะวันตกเพื่อสกัดการผงาดขึ้นมาของจีนนายจางให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับTiKTokในสหรัฐเป็นการพยายามครอบครองโดยการขู่บังคับขณะที่นักการเมืองสหรัฐบางกลุ่มพยายามที่จะสร้างเครือข่ายกวาดล้างโดยอ้างความชอบธรรมและผลประโยชน์ต่างตอบแทนซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่มีเป้าหมายอื่นใดนอกจากการข่มเหงทางเศรษฐกิจการแสดงความเห็นของนายจางสะท้อนให้เห็นถึงการตอบโต้จากฝั่งรัฐบาลจีนซึ่งก่อนหน้านี้จีนได้ประนามสหรัฐที่พุ่งเป้าโจมตีหัวเว่ยโดยไม่มีหลักฐานชี้ชัดและล่าสุดรัฐบาลจีนเรียกการบังคับขายกิจการTikTokว่าเป็น “การโจรกรรมเพื่อคว่ำบาตรชาติ” ทั้งนี้ปธน.ทรัมป์ได้สั่งให้ไบต์แดนซ์ขายธุรกิจTikTokในสหรัฐเนื่องจากวิตกเกี่ยวกับการจัดการด้านความปลอดภัยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานโดยTikTokซึ่งเป็นแอปวิดีโอสั้นยอดนิยมนั้นมีผู้ใช้งานราว100ล้านคนต่อเดือนในสหรัฐ
“ทรัมป์” ฟุ้งอีก 4 สัปดาห์มีวัคซีนต้านโควิด-19 พร้อมใช้งาน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์แห่งสหรัฐได้เพิ่มความหวังและความวิตกในขณะเดียวกันอีกครั้งเกี่ยวกับการอนุมัติใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 โดยเขาระบุว่าวัคซีนดังกล่าวอาจพร้อมใช้งานได้ภายใน 4 สัปดาห์ปธน.ทรัมป์กล่าวในระหว่างงานที่จัดขึ้นโดยสำนักข่าวเอบีซีนิวส์ในวันอังคารตามเวลาสหรัฐว่า “คณะบริหารของรัฐบาลชุดก่อนหน้าอาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะมีวัคซีนแต่เราจะได้ใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าอาจจะใน 3 หรือ 4 สัปดาห์” ด้านเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของสหรัฐแสดงความกังวลว่าทำเนียบขาวกำลังกดดันให้องค์การอาหารและยา (FDA) เร่งอนุมัติการใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.นี้ขณะที่บรรดาบริษัทที่พัฒนาวัคซีนดังกล่าวระบุร่วมกันว่าพวกเขาจะไม่เร่งการส่งมอบวัคซีนจนกว่าจะได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดทั้งในด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
“ทรัมป์” เตรียมพิจารณาดีล “ออราเคิล” ซื้อ “TikTok” หลังตรวจสอบข้อเสนอ
สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์แห่งสหรัฐเตรียมตัดสินใจว่าจะอนุมัติข้อเสนอของบริษัทออราเคิลคอร์ปในการเข้าซื้อกิจการติ๊กต็อก (TikTok) ในสหรัฐหรือไม่หลังให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงตรวจสอบข้อเสนอซื้อกิจการครั้งนี้แหล่งข่าวระบุว่าคณะกรรมการด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐกำลังตรวจสอบข้อเสนอของบริษัทออราเคิลขณะที่ปธน.ทรัมป์ระบุว่ามีสัญญาณว่าทางคณะกรรมการฯจะสนับสนุนข้อเสนอครั้งนี้แหล่งข่าวยังเปิดเผยว่าข้อเสนอในส่วนที่เปิดเผยออกมานั้นระบุว่าออราเคิลจะไม่ได้ซื้อธุรกิจTikTokโดยตรงแต่จะเป็นการลงทุนในติ๊กต็อกที่มีการปรับโครงสร้างใหม่ทั่วโลกและจะมีฐานดำเนินงานในสหรัฐขณะที่ไบต์แดนซ์ (ByteDance) จะยังคงถือหุ้นส่วนใหญ่และผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 3 รายในไบต์แดนซ์ได้แก่General Atlantic, Sequoia Capital และCoatue Management จะยังคงถือหุ้นในธุรกิจใหม่ดังกล่าว