ตลาดทองคำพักฐานในระยะสั้น เป้าหมาย 1,800 ไม่ง่ายนัก แนะปรับกลยุทธ์ทำกำไรกรอบ $10 แทนการถือยาว (GT Gold)
09-06-20
มาดูสถานการณ์การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้ หลังจากเกิดความผิดพลาดจากการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ แต่ก็ทำให้ราคาทองคำร่วงไปต่ำระดับ 1,672 ดอลลาร์ ก่อนจะดีดตัวกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบ 1,690-1,700 ดอลลาร์ ซึ่งนักวิเคราะห์มองกันว่า ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบนี้ เพื่อรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะเสร็จสิ้นการประชุมในช่วงเช้าวันพฤหัสที่จะถึงนี้ (ตามเวลาในประเทศไทย) และคาดว่าจะผลกับสินทรัพย์การลงทุนพอสมควร
นายวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด กล่าวกับ GoldAround.com ว่า จากการเฝ้าติดตามข่าวที่เกิดขึ้น และการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในระยะหลังพบว่า สถานการณ์ในภาพรวมเริ่มเปลี่ยนไป จากเดิมที่เคยคาดการณ์กันว่า ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 1,780-1,800 ดอลลาร์ ได้แบบไม่ยากเย็น เพราะยังมีปัจจัยหนุนอยู่มากมาย แต่ในส่วนตัวมองว่า ในระยะสั้นคงไม่ง่ายแล้ว เพราะทุกอย่างดูดีขึ้น โดยเฉพาะกรณีที่หลายประเทศเตรียมยกเลิกล็อคดาวน์ และเปิดสนามการบิน แม้ล่าสุด เวิล์ดแบงค์ จะรายงานตัวเลขจีดีพีของโลก ที่ติดลบกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ก็ตาม
แม้ว่ากรอบใหญ่ของราคาทองคำยังคงอยู่ในระดับ 1,550-1,780 ดอลลาร์ และราคาก็เคยขึ้นไปแตะระดับ 1,760 ดอลลาร์ แต่ส่วนตัวมองว่าระยะสั้นยังไม่ใช่เวลาของทองคำ และราคาอาจจะมีการพักฐานอีกระยะ ดังนั้นนักลงทุนควรจะปรับกลยุทธ์หันมาเน้นทำกำไรระยะสั้นในกรอบประมาณ 10 ดอลลาร์ ส่วนการถือลงทุนระยะกลางและระยาวในช่วงนี้ค่อนข้างจะมีความเสี่ยงมาก เนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ทำให้นักลงทุนต้องระมัดระวังตัวค่อนข้างมาก อย่างไรก็ดีหากยังต้องการจะซื้อเก็บระยะยาวอยากให้รอจังหวะที่ราคาลดลงมาช่วง 1,660-1,680 ดอลลาร์จึงเข้าซื้อ โดยมีจุดขายอยู่ในกรอบ 1,720-1,750 ดอลลาร์
นายวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด กล่าวกับ GoldAround.com
ขณะที่ค่าเงินบาท ยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงที่ผ่านมาแข็งค่าขึ้นวันละประมาณ 10 สตางค์ โดยเงินบาทแข็งค่า 1 สตางค์จะมีผลต่อราคาทองคำในประเทศประมาณ 7-8 บาท และแนวโน้มจะเป็นไปในลักษณะนี้อีกสักระยะ
ขอขอบคุณ บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด