14-08-20
หลังจากที่เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำได้ปรับตัวผันผวนอย่างหนัก หลังราคาได้ลดลงเพื่อปรับฐานมาแตะระดับ 1,860 ดอลลาร์ ก่อนจะดีดกลับมาเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1,930 ดอลลาร์ได้ จากนั้นได้เคลื่อนไหวในลักษณะ sideway ในกรอบ 10-20 ดอลลาร์ เพื่อรอดูความคืบหน้าในประเด็นร้อน ๆ รอการตกผลึกในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวกับ GoldAround.com ถึงการเจรจาเพื่อความคืบหน้าข้อตกลงการค้า “เฟสแรก” ระหว่างผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ และรองนายกรัฐมนตรีของจีน ในวันที่ 15 ส.ค.ว่า ที่ผ่านมาจีนได้พยายามทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้ แม้บางประเด็นจะทำไม่สำเร็จเพราะติดปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 อาทิ ปริมาณการซื้อถั่วเหลือง แต่เมื่อจีนควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ ก็พยายามดำเนินการต่อ
ขณะที่ฝั่งอเมริกาได้พยายามสร้างเงื่อนไขใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ เรื่องการดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยี เช่น HUAWEI ,TIKTOK ,WE CHAT ซึ่งสุดท้ายแล้วต้องดูว่า ผลการเจราจะสรุปอย่างไร หากผลออกมาดี จะกดดันราคาทองคำอย่างหนักแน่นอน โดยตลาดที่จะได้รับประโยชน์ คือ หุ้นและดอลลาร์
อีกประเด็นที่ยังคงร้อนแรงและต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือ การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ รอบใหม่ วงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งขณะนี้ยังคงเป็นการชิงไหวชิงพริบของ 2 พรรคการเมืองใหญ่ในอเมริกา โดยทาง ปธน.ทรัมป์ ที่เพลี่ยงพล้ำจากวิกฤต COVID-19 พยายามเสนอให้เลื่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่จะมีขึ้นในช่วงต้นเดือน พ.ย. ออกไปก่อน ขณะที่อีกฝั่งได้ขอให้เพิ่มวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบอีกเท่าตัว ซึ่งมองว่าเพื่อซื้อใจชาวอเมริกันเพิ่มขึ้น และจะเป็นการตอกย้ำความผิดพลาดของ ปธน.ทรัมป์ กับการรับมือวิกฤตในครั้งนี้ แต่การเจรจาดูเหมือนจะยังไม่มีทางที่จะมาบรรจบกันได้
หากจะมาพิจารณาถึงนโยบายของปธน.ทรัมป์ ในระยะหลัง จะเห็นได้ว่า ค่อนข้างจะระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายเงินมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลดเงินการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ เพราะอาจจะเห็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าการใช้เงินมากเกินไปจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของสหรัฐ และมองว่าการอัดฉีดเงินเพิ่มอีก 1 ล้านล้านดอลลาร์ก็น่าจะเพียงแล้ว อย่างไรก็ดีหากมาตรการผ่านความเห็นชอบได้ ไม่ว่าจะแค่คงวงเงินแค่ 1 ล้านล้าน หรือจะเพิ่มเป็น 2 ล้านล้าน ก็ย่อมจะกดดันราคาทองคำในระยะสั้นอย่างแน่นอน ส่วนผลกระทบในระยะยาวก็ค่อยว่ากันอีกครั้ง
ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวกับ GoldAround.com
อีกประเด็นที่อยากให้จับตาการเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด ก็คือ เรื่องของการผลิตวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส โควิด-19 หลังจากที่ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศรัสเซียได้ประกาศเดินหน้าผลิตวัคซีนออกมา ทำให้ราคาทองปรับลดลงอย่างหนัก แต่ทั้งนี้ คงจะต้องมาติดตามผลการตรวจสอบวัคซีนตัวดังกล่าวขององค์การอนามัยโลกอีกครั้ง ว่าจะมีผลเป็นเช่นไร นอกจากนั้นยังต้องติดตามข่าวความคืบหน้า การผลิตวัคซีนมาจากหลายภาคส่วนเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ ปธ.เฟด ได้กล่าวชัดเจนว่า เรื่องของการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการฟื้นตัว ศก.อเมริกา และ ศก.โลก ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อราคาทองคำ
ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ
มาดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ หลังจากที่ราคาได้กลับมายืนเหนือแนว 1,930 ดอลลาร์ ได้อย่างแข็งแรง โดยในช่วงนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในลักษณะ sideway ในกรอบ 1,890-1,990 ดอลลาร์ เพื่อรอดูความคืบหน้าในประเด็นร้อน ๆ ส่วนกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้มองว่าหากราคาได้ปรับลดลงมา ก็สามารถทยอยเข้าซื้อตามแนวรับต่าง ๆ ได้ ตั้งแต่ 1,920 ดอลลาร์ 1,905 ดอลลาร์ แต่มองว่าระดับ 1,900 ดอลลาร์ หรือประมาณ บาทละ 28,000 บาทน่าสนใจสุด ขณะที่แนวต้านในรอบนี้ จะอยู่ในระดับ 1,960 ดอลลาร์ 1,980 ดอลลาร์ และ 2,000 ดอลลาร์
ขอขอบคุณ : ศูนย์วิจัยทองคำ