YLG Bullion ชี้ ราคาทองคำพร้อมสร้างสถิติใหม่ หากเฟดขยับลดดอกเบี้ย 0.50% แต่ในระยะสั้นอาจย่อลงพักฐานรอความชัดเจน
คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจ.วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส (YLG) เปิดเผยว่า
จากสถิติแล้ว ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในเดือน ก.ย. ไม่ค่อยสดใสมากนัก โดยหากย้อนดูเดือน ก.ย. ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา จะเกิดการปรับฐานโดยเฉลี่ยราว 2-3%
แต่ในปีนี้ มีหลายปัจจัยที่อาจทำให้ทองคำปรับฐานลงไปไม่ลึกเท่าที่ผ่านมา หรือมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง จนทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง หากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลดดอกเบี้ยลง 0.50%
หรือกรณีที่เฟดปรับลดดอกเบี้ยเพียง 0.25% ทองคำก็อาจถูกแรงขายทำกำไรในช่วงสั้นได้ แต่มองว่าการปรับตัวลดลงอยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากยังมีปัจจัยสนับสนุนในด้านอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
โดยเฉพาะความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงยืดเยื้อ จะยังเป็นปัจจัยที่สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนและยังคงต้องการถือครองทองคำไว้ในพอร์ตการลงทุนอย่างน้อย 5-10% ของพอร์ตการลงทุนรวม หรือพอร์ตที่ความเสี่ยงที่สูง ก็ควรถือเพิ่มขึ้นมาได้ถึง 15%
ในระยะยาวยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการเข้าซื้ออย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางทั่วโลก สะท้อนผ่านข้อมูลจากสภาทองคำโลก ที่ได้รายงานตัวเลขการเข้าซื้อทองคำในครึ่งแรกของปี 2567 อยู่ที่ 483 ตัน เป็นปริมาณการซื้อทองคำในครึ่งปีแรก สูงที่สุดนับตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลมา
แสดงให้เห็นว่า ทองคำยังมีความต้องการที่แข็งแกร่ง และรวมไปถึง กองทุน ETF ทองคำ ที่เริ่มเห็นเงินทุนไหลเข้าอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
ดังนั้น จึงยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำอยู่ โดยหากราคาปรับตัวขึ้นผ่าน 2,550 ดอลลาร์ ได้ ก็จะไปที่เป้าหมายถัดไป 2,650 ดอลลาร์
ส่วนราคาทองคำในประเทศ ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับราคาทองคำในตลาดโลก แม้ว่าจะปรับขึ้นในอัตราที่น้อยกว่า เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่า แต่หากราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวขึ้นสู่กรอบเป้าหมาย 2,650 ดอลลาร์ เป้าหมายถัดไปของราคาทองคำแท่งในประเทศจะอยู่ที่ 42,850-43,000 บาทต่อบาททองคำ (คำนวณด้วยอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ย 1 สัปดาห์ ที่ระดับ 34.10 บาทต่อดอลลาร์)
ส่วนในระยะสั้น ที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงเพื่อรอความชัดเจนของเฟดนั้น แนะนำผู้ที่ต้องการเก็งกำไร ให้รอการย่อตัวสร้างฐาน แล้วทำการเข้าซื้อเล่นสั้น โดยมีแนวรับที่ 2,484-2,465 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านมองที่ 2,532-2,550 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศมองแนวรับที่ 40,350-40,050 บาท ส่วนแนวต้านมองที่ 41,100-41,400 บาท
Comments are closed.