คาดเฟดหั่นดอกเบี้ยเดือนหน้า
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างเร็วที่สุดในการประชุมเดือนหน้า ระหว่าง วันที่ 17-18 มี.ค. เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จากระดับ 1.50-1.75% สู่ระดับ 1.25-1.50% นอกจากนี้ยังคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของปีนี้ในเดือนมิ.ย. และครั้งที่ 3 ในเดือนก.ย.
ดาวโจนส์ปิดร่วง 1,190.95 จุด หลุดเส้น 26,000 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงหลุดจากระดับ 26,000 จุดเมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ดิ่งทะลุแนวรับทางจิตวิทยาที่ระดับ 3,000 จุด เนื่องจากนักลงทุนตื่นตระหนกต่อข่าวการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างของไวรัสโควิด-19 โดยล่าสุดสหรัฐพบผู้ติดเชื้อรายแรกที่ไม่ทราบต้นตอของการติดเชื้อ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการแพร่ระบาดในชุมชนเป็นครั้งแรกในสหรัฐ ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศต่างๆเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงเกาหลีใต้และอิหร่าน
ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 25,766.64 จุด ลดลง 1,190.95 จุด หรือ -4.42% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,978.76 จุด ลดลง 137.63 จุด หรือ -4.42% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,566.48 จุด ลดลง 414.29 จุด หรือ -4.61%
ดอลลาร์ร่วงขณะยูโรปรับตัวดีที่สุดนับแต่พ.ค.2018
ดอลลาร์ร่วงในวันพฤหัสบดี รับข่าว เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้ค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้นรายวันสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2018 เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group แสดงว่า คาดการณ์ของเทรดเดอร์เกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.เพิ่มสู่ 54.3% เมื่อเทียบกับ 33.2% ในวันพุธ คาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรปเพิ่มขึ้นเช่นกัน พร้อมระบุว่ากำลังเห็นการพลิกผันครั้งใหญ่ของดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์จะร่วงลงต่อไปหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัส โควิด-19 ที่มีต่อความเชื่อมั่นและการค้านอกจีน
ทั้งนี้เมื่อเทียบกับยูโร ดอลลาร์ร่วงสู่ระดับต่ำสุดรอบ 3 สัปดาห์ หลังจากที่อยู่ต่ำกว่าระดับนั้นเล็กน้อยที่ 1.099 โดยปรับลง 1.02% ในบ่ายวันพฤหัสบดี ดัชนีดอลลาร์ร่วงลง 0.658% สู่ 98.463 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ร่วงสู่ระดับอ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.
สหรัฐเผย GDP Q4/62 ขยายตัว 2.1%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2562 ที่ระดับ 2.1% สอดคล้องกับตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่ได้แรงหนุนจากการลดลงของมูลค่าการนำเข้า อย่างไรก็ดีการใช้จ่ายของผู้บริโภค, การลงทุนในภาคธุรกิจ และการใช้จ่ายของรัฐบาลได้ชะลอตัวในไตรมาส 4/2562 ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.1% ในไตรมาส 3/2562 และ 2.0% ในไตรมาส 2 ขณะที่ไตรมาส 1 มีการเติบโต 3.1%