หลังจากที่เราได้เสนอ 6 ประเด็นสำคัญ ที่จะมีผลต่อราคาทองคำในไตรมาส 2 ของปีนี้ไปแล้ว หลายคนอาจจะมีคำถามว่า มีโอกาศที่ราคาทองคำจะกลับไปยืนเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์ ได้หรือไม่
คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า YLG ได้ประเมินการเคลื่อนไหวของราคาทองคำไว้ดังนี้
ในระยะกลางเป็นจะการปรับฐาน
ซึ่งในช่วงก่อนหน้านี้ ราคาทองคำมีมุมมองเชิงบวก หลังจากราคาทองคำทะลุขึ้นมาเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกระยะได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ ราคาทองคำยังสามารถ Breakout กรอบ Triangle ที่ราคามีการฟอร์มตัวเพื่อสะสมกำลังมาเป็นระยะเวลากว่า 1 ปี อีกทั้งยังทะลุผ่านระดับสูงสุดของปี 2021 ที่ 1,960 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ไปได้
ขณะที่ ราคาทองคำมีการยกระดับต่ำสุดขึ้น และทำระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง นับตั้งแต่เดือน ธ.ค. ปี 2021 จนถึงปัจจุบัน สะท้อนว่า ราคาเคลื่อนไหวในลักษณะทิศทางขาขึ้นอย่างชัดเจน
YLG เน้นย้ำเสมอว่า ราคาทองคำไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นเส้นตรง หลังจากพุ่งทำระดับสูงสุดบริเวณ 2,069 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ก็ถูกขายทำกำไร เพราะราคาพุ่งขึ้นจนกระทั่งเข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไป ประกอบกับเกิดสัญญาณที่บ่งชี้ว่าแรงซื้อเริ่มชะลอตัวลง จึงทำให้ระยะนี้ราคาทองคำกลับมาอยู่ในช่วงของการปรับฐาน นั่นทำให้ทิศทางราคาทองคำในระยะกลางอยู่ในลักษณะของการปรับฐาน
คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์
ขณะที่ ระยะยาวยังเป็นช่วงขาขึ้น และมีโอกาสที่ราคาทองคำจะสามารถปรับตัวขึ้นไปเหนือ 2,000 ดอลลาร์ ต่อออนซ์
สะท้อนจากกราฟ ที่เห็นได้จากการที่ราคาทองคำมีการยกระดับต่ำสุดขึ้นต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2018, 2019, 2020 และ 2021 พร้อมกับนี้ยังทำระดับสูงสุดต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2017, 2018, 2019, 2020
แม้ว่าในปี 2021 ราคาจะไม่สามารถทำระดับสูงสุดที่เหนือกว่าปีก่อนหน้าได้ แต่ล่าสุดในปี 2022 ราคาทองคำได้ทะลุผ่านระดับสูงสูงสุดของปี 2021 บริเวณ 1,960 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ได้ ทำให้ทิศทางราคาทองคำบวก
จนทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อ เพื่อมาทดสอบเป้าหมายถัดไปของ YLG ซึ่งอยู่ที่ 2,075 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ถือเป็นโซนระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ราคาเคยขึ้นไปทดสอบในช่วงเดือน ส.ค. ปี 2020
แม้ว่าราคาทองคำในปัจจุบันมีการปรับตัวลงในลักษณะของการปรับฐาน แต่ตราบใดที่ราคาทองคำสามารถทรงตัวในกรอบ Uptrend Line สีเขียวซึ่งอยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ยังมองว่าราคาทองคำยังคงรักษาระดับอยู่ในทิศทางขาขึ้นต่อไป และยังมีโอกาสทดสอบกรอบเป้าหมายของปีที่ 2,075 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ได้
คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์
แต่หากราคาหลุดกรอบ Uptrend Line สีเขียวซึ่งอยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ จะทำให้มุมมองเชิงบวกลดลง และราคามีแนวโน้มจะลงไปสร้างฐานบริเวณแนวรับสำคัญ และเป็นฐานของราคาทองคำในปี 2021 บริเวณ 1,676-1,630 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้ง
และหากราคาหลุดบริเวณ 1,676-1,630 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ จะทำให้ทิศทางราคาในระยะยาวเปลี่ยนเป็นเป็นลบ โดยมีโอกาสปรับฐานในรูปแบบที่ลึก และมีเป้าแนวรับถัดไปจะอยู่ในโซน 1,530 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ( ฐานของราคาทองคำในปี 2012 )
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.