หลังจากบทความก่อนหน้านี้ คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ได้วิเคราะห์ถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นกับผลกระทบต่อราคาทองคำจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งนี้ ไปแล้ว 2 Scenario (อ่านเพิมเติม..Trump vs. Biden ใครจะเข้าวิน ราคาทองคำ..จะร่วงหรือจะรุ่ง …(2) )
คือ Scenario 1 พรรคเดโมแครตกวาดชัยชนะทั้งหมด (Medium probability) ถือเป็นหนึ่งในสถานการณ์ที่เป็นบวกกับราคาทองได้มากที่สุด และ Scenario 2 :นายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ได้รับชัยชนะ แต่พรรครีพับลิกันยังคงครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา(Highprobability)
ในครั้งนี้จะมาดู Scenario ที่ 3 และ 4 กันว่า จะเป็นอย่างไร
Scenario 3
ปธน.ทรัมป์ชนะ (Low probability)
ในกรณีที่ประธานาธิบดีทรัมป์ คว้าชัยชนะอีกครั้ง ตลาดหุ้นก็จะพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากประธานาธิบดีทรัมป์ จะเดินหน้าดำเนินนโยบายที่เป็นมิตรกับภาคธุรกิจ
ภายใต้สถานการณ์นี้จะเป็นปัจจัยบวกสำหรับทองคำหรือไม่ขึ้น อยู่กับว่าจะมีการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ได้หรือไม่
หากมี จะลดทอนความน่าสนใจของสกุลเงินดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย พร้อมกับกระตุ้นความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของสกุลเงิน ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ
หากไม่มี สกุลเงินดอลลาร์จะได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำจะเผชิญกับอุปสรรค
Scenario 4
การเลือกตั้ง ที่มีการโต้แย้ง(Contested Election) (ถ้าผลเลือกตั้งสูสีจะ High probability)
เป็นหนึ่งในสถานการณ์ที่เป็นบวกกับราคาทองคำได้มากที่สุด
ในกรณีที่ผลเลือกตั้งสูสีกันมาก หรือหากทั้งนายโจ ไบเดน และประธานาธิบดีทรัมป์ ต่างก็ระบุว่าเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะทั้งคู่ หรือหากประธานาธิบดีทรัมป์ ร้องเรียนเรื่องความถูกต้องชอบธรรมของการส่งบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ เนื่องจากปีนี้มีชาวอเมริกันใช้วิธีส่งบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์เกือบ 80 ล้านคน อาจจะเกิดการฟ้องร้องต่อศาลในรัฐที่มีการโต้แย้งเกิดขึ้น
หากเกิดขึ้นจริง จะต้องพึ่งกระบวนการทางกฎหมายในการชี้ขาดผู้ชนะ นั่นหมายถึงอาจใช้เวลาเป็ น สัปดาห์หรือเป็นเดือน กว่าจะทราบผลการเลือกตั้ง
สถานการณ์นี้จะถือว่าเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายสำหรับตลาดหุ้น เพราะจะสร้างความไม่แน่นอนอย่างมากเพราะจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจและจะส่งผลให้หุ้นร่วงลง ทองคำก็มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นที่ลดลงในช่วงต้นเนื่องจากปัจจุบัน ราคาทองคำกับตลาดหุ้นมักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน
อย่างไรก็ดี หากสกุลเงินดอลลาร์ไม่ได้รับแรงหนุนจากสินทรัพย์ปลอดภัย และอ่อนค่าลงจากภาวะดังกล่าว จะเป็นปัจจัยหนุนทองคำอย่างมาก เนื่องจากทองคำจะได้รับแรงหนุนทั้ง กระแสเงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย และได้อานิสงค์จากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์
นี่คือ 4 Scenario ที่คาดว่าจะมีโอกาสขึ้น ซึ่งแต่ละ Scenario ก็จะส่งผลต่อราคาทองคำที่ต่างกันไป แต่ก็อาจจะมี Scenario ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นมาอีกก็ได้
ทั้งนี้อยากให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลเพื่อนำไปใช้ในการตัดสินใจวงแผนการลงทุนทั้งในระยะสั้นและระยะยาวต่อไป ซึ่งผลการเลือกตั้งก็เป็นเพียงแค่องค์ประกอบหนึ่งที่มีผลต่อเศรษฐกิจโลก แต่ยังมีอีกหลายปัจจัยที่จะเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเรื่องของปัญหาเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ถือว่าหนักหนาสาหัสมาก
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.