สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 12 ก.ย.67
gold spot ขยับลดลงแม้ CPI ลดเหลือ 2.5% กูรู ฟันธงสัปดาห์หน้า FED ลดดอกเบี้ย 0.25% ทองคำไทยขยับกรอบแคบ- เงินบาทสวิงแรง
ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
.
รับชมคลิป สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้
ภาพรวมราคาทองคำในประเทศ เช้านี้ สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวัน ( 12 ก.ย.)
ราคายังไม่ขยับก่อนอีกครึ่งชั่วโมงถัดมาจะประกาศลดลง 50 บาท ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 40,150 บาท ส่วนราคารับซื้อ 40,050 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 40,650 บาท ส่วนราคารับซื้อ 39,325.04 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.75 บาทต่อดอลลาร์
เงินบาทเปิดเช้านี้อ่อนค่าลงจากปิดวานนี้ ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ และการปรับขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทั้งตลาดได้ปรับลดความคาดหวังว่าเฟดจะเร่งลดดอกเบี้ยลงระดับ 0.50% หลังตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) เดือน ส.ค. ที่ไม่ได้ชะลอลงตามคาด
วันนี้ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาด ECB จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายีอก 0.25% สู่ระดับ 3.50% และมีโอกาสส่งสัญญาณพร้อมเดินหน้าลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังรอดูดัชนีราคาผู้ผลิต PPI เดือน ส.ค. และ รายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน เพื่อติดตามสภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯ
ขณะที่ปัจจัยในประเทศวันนี้จะมีการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา อาจมีผลต่อเงินบาทบ้างแต่ไม่มากเท่าปัจจัยต่าง ประเทศ เช่น ทิศทางดอกเบี้ยเฟด ทำให้คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.50-34.00 บาท/ดอลลาร์
โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า
ราคาทองคำแท่งปรับตัวลงแต่ยังยืนเหนือระดับ 40,000 บาทได้ ทั้งนี้หากราคาทองคำแท่งสามารถยืนเหนือบริเวณ 40,000 บาทไปอีกระยะได้ สามารถเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นบริเวณดังกล่าว โดยเข้าซื้อขายตามกรอบระหว่าง 40,000-40,800 บาท
โดย ฮั่วเซ่งเฮง ให้แนวรับที่ 40,050 และ 39,900 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 40,200 และ 40,300 บาท
ส่วนภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ (11 ก.ย. ) เคลื่อนไหวผันผวน ราคาได้ขึ้นทดสอบ 2530 ดอลลาร์อีกรอบ และยังผ่านขึ้นไปไม่ได้ก่อนจะถูกเทขายลงมาปิดตลาดที่ 2,511 ดอลลาร์ ลดลงไป 5 ดอลลาร์ โดยปัจจัยที่กดดันมาตากจากดอลลาร์แข็งค่า และ Bond Yield สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น
แม้ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไป (Headline CPI) รวมหมวดอาหารและพลังงานประจำเดือน ส.ค. ปรับตัวขึ้น 2.5% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.6% ลดลงจากเดือน ก.ค.ที่ระดับ 2.9%
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.2% เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 3.2% ในเดือน ก.ค.
ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย.ลง โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 85% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% หลังจากให้น้ำหนัก 66% เมื่อวันอังคาร
และให้น้ำหนักเพียง 15% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ให้น้ำหนัก 34% เมื่อวันอังคาร
คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ส.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน จากเพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะทรงตัว
มุมมองการลงทุนจากทางบริษัทค้าทองคำในประเทศ ทาง Shining Gold มองว่า
แนวต้านทางเทคนิคที่ระดับ 2,427 และ 2,532 ดอลลาร์ ถือว่าค่อนข้างแกร่งมาก แม้ว่าจะมีการประกาศตัวเลข CPI เมื่อเทียบรายปีที่ออกมาที่ระดับ 2.6% ปรับตัวลดลงต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดการรระบาดโควิด 19 แต่ก็ยังไม่สามารถให้เกิดการ Breakout จุดสำคัญทางเทคนิคขึ้นไปได้
ขณะที่ภาพรวมรายสัปดาห์รายเดือนยังคงดูดี ให้น้ำหนักเชิงบวกต่อราคาทองคำ โดย Indicatorsใน TF เล็ก ๆ ก็ไม่ได้ตึงตัวหรือเกิดสัญญาณ Overbought แต่อย่างใด ในขณะที่ CME FED WatchTool ยังคงให้น้ำหนักว่า FED มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps.มากขึ้น ขยับไปอยู่ที่ 85%
คืนนี้ยังมีรายงานมาตรวัดเงินเฟ้อ PPI เมื่อเทียบรายปี Boomberg คาดการณ์ว่าจะลดลงจาก 2.2% เป็น 1.7% ในเชิง Fundamental ถือว่าไม่ได้ให้ผลเชิงลบ แต่อย่างใด
กลยุทธ์การลงทุน รอราคาย่อตัว Open Long ที่ 2,506 และ 2,497-2,494 ดอลลาร์ มีจุด SLที่ 2,489 ดอลลาร์ ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 2,518/2,527 และ 2,540 ดอลลาร์
ขณะที่ T.D.C. Gold มองว่า
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. ขยายตัว 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งทำให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำสุดสุดนับตั้งแต่ปี 2021 แต่ตัว Core CPI ยังลงน้อยกว่าที่ประเมิน
ส่งผลให้ตลาดประเมินว่าการประชุม FOMC ในเดือนนี้ เฟดจะส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย 0.25% ด้วยความน่าจะเป็นมากถึง 85% จากก่อนหน้าที่ประเมินว่าจะลด 0.50% ทำให้ราคาทองคำและตลาดหุ้นปรับตัวลดลงในช่วงแรก
ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง โดยในระยะนี้ T.D.C.Gold ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำไว้แถว 2,505-2,525 ดอลลาร์
ด้าน ARR Goldtrading ระบุว่า
เกิดสัญญาณการปรับตัวหลังราคาทองคำขึ้นไปทดสอบกรอบแนวต้านด้านบนบริเวณ 2,530 ดอลลาร์ จึงมีโอกาสปรับฐานต่อเนื่องในวันนี้ แต่เนื่องจากแนวโน้มยังแกว่งออกข้าง เมื่อราคาเกิดการอ่อนตัวอีกครั้ง
นักลงทุนพิจารณาแบ่งเงินเข้าซื้อตามแนวรับแถว 2,500/2,490 และ 2,480 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาปรับฐานลงต่ำกว่า 2,480 ดอลลาร์และขายทำกำไรเมื่อดีดตัวประมาณ 10 ดอลลาร์จากจุดซื้อ หรือตามแนวต้าน 2,520/2,525 และ 2,530 ดอลลาร์
ปิดท้ายที่ GCAP Gold
แนะรอซื้อที่ 2,502 ดอลลาร์ ให้แนวรับที่ 2,502 /2,495 และ 2,490 ดอลลาร์ มีจุด stoploss ที่ 2,485 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,522/2,528 และ 2,545ดอลลาร์
Comments are closed.