gold spot ร่วงต่อเช้านี้แตะ $3,290 ตลาดรอผลเจรจา ”สหรัฐ-จีน”วันนี้ ส่วนทองไทยเปิดสัปดาห์ลดลง 200 บาท
ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำไทย ( 9 มิ.ย.) คึกคักตั้งแต่ต้นสัปดาห์ โดย สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันลดลง 300 บาท ก่อนอีกชั่วโมงจะปรับขึ้น 100 บาท
ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.30 น. อยู่ที่ 51,250บาท ส่วนราคารับซื้อ 51,150 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 52,050 บาท ส่วนราคารับซื้อ 50,134.12 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 32.72 บาทต่อดอลลาร์
ด้าน Shining Gold มองว่า
ราคาทองคำไทยเข้าสู่โหมด sideway ออกด้านข้างค่อนไปทาง Sideway Down เล็กๆ จึงถือเป็นจังหวะดี ในการรอย่อตัวแบ่งไม้เข้าซื้อสะสมใหม่อีกครั้งแบบเว้นระยะเผื่อข่าวผลกระทบจากการพยายามเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนด้วย
โดยเริ่มจากฐานแนวรับ 51,100/50,600 และ50,000 บาท และเผื่อไม้ถัวเฉลี่ยอีก 2 -3 ไม้ หากสถานการณ์ไม่เป็นไปตามคาด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 51,600/51,900 และ52,200 บาท
ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมา ( 2-6 มิ.ย.) เคลื่อนไหวผันผวน ต้นสัปดาห์ปรับขึ้นแรงเกือบ 100 ดอลลาร์ ก่อนปรับตัวลดลงใน 2 วันสุดท้ายของสัปดาห์ มาปิดสัปดาห์ที่ 3,309 ดอลลาร์ ก่อนที่ช่วงเช้าวันนี้ราคาได้ลงมาทดสอบมรา 3,290 ดอลลาร์
ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่กดดันราคาทองคำ คือผลการเจรจาทางโทรศัพท์ ระหว่าง ปธน. ทรัมป์ และกับ ปธน.สี จิ้นผิง เป็นไปด้วยดี และคณะผู้เจรจาจากทั้งสองประเทศ จะกลับมาเริ่มการเจรจาการค้ากันอีกครั้งในวันนี้ (9 มิ.ย.) ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ในฝั่งสหรัฐนำโดยนายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ขณะที่ฝั่งจีนนำโดย นายเหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรี ก่อนหน้านี้จีนได้ระงับการส่งออกแร่หายากไปยังสหรัฐฯ และทางฝั่งสหรัฐฯ ระงับการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์จากบริษัท Huawei Technologies และการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงอื่นๆไปยังจีน
นอกนั้นราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจาก หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ในเดือนพ.ค. ขยายตัวดีกว่าที่คาดไว้ โดยเพิ่มขึ้น 139,000 ตำแหน่ง ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 130,000 ตำแหน่ง สถานการณ์ดังกล่าวกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะยังไม่รีบร้อนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ซึ่งส่งผลหนุนดอลลาร์และกดดันราคาทองคำ
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำได้รับแรงหนุนบางส่วนหลัง ปธน.ทรัมป์ เรียกร้องอีกครั้งให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากถึง 1% พร้อมระบุว่า จะมีการประกาศชื่อประธานเฟดคนใหม่ในเร็ว ๆ นี้ และระบุว่าผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งควรเป็นผู้ที่พร้อม
ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ นอกจากเรื่องสงครามการค้าแล้ว ในวันพุธที่ 11 มิถุนายน จะมีการประกาศตัวเลข ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 2.5% จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 2.3%
ส่วนวันวันพฤหัสที่ 12 มิ.ย. จะมีการประกาศ ตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค. โดย Core PPI เมื่อเทียบเป็นรายเดือน คาดจะเพิ่มขึ้นแตะ 0.3% จากเดือนก่อนหน้า-0.4% ส่วนตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ คาดว่าจะอยู่ที่ 241,000 ราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 247,000 ราย
มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในประเทศ ทาง YLG Bullion มองว่า
เมื่อวันศุกร์ราคาทองคำ gold spot ดีดตัวไม่ผ่าน 3,380 ดอลลาร์ ก่อนจะปรับตัวลง วันนี้อาจเกิดการดีดกลับหลังราคาเริ่ม Oversold และเกิด Bullish Divergence ใน Timeframe ย่อย แต่หากการดีดตัวไม่ผ่าน 3,340 ดอลลาร์ มองว่าอาจเป็นดีดเพื่อลงต่อ
โดยมองว่าระยะกลางทองคำกลับมาพักตัวอีกครั้ง โดยเป็นไปได้ทั้งเป็นการแกว่งตัว Sideway ออกข้างในรูปแบบ Triangle หรือ อาจจะพักฐานลึกได้หากหลุดแนวรับสำคัญระยะกลางที่ 3,120 ดอลลาร์
สำหรับกลยุทธ์ หลังจากซื้อคืนสถานะขายไปแล้ว ดูจังหวะเสี่ยงขายหากไม่ผ่าน 3,321-3,340 ดอลลาร์ผ่านได้ชะลอขายเพราะอาจไม่ใช่ดีดเพื่อลง ซื้อคืนถ้าราคาไม่หลุด 3,300-3,298 ดอลลาร์หากหลุด 3,298 ดอลลาร์ ชะลอไปซื้อคืนที่แนวรับถัดไป ตัดขาดทุนหากทะลุ 3,340ดอลลาร์
ด้าน T.D.C. Gold มองว่า
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือนพ.ค.ขยายตัว 139.000 ตำแหน่ง ถึงแม้จะน้อยกว่าเดือนก่อนหน้า แต่ก็ถือว่าเป็นการขยายตัวที่มากกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ ขณะที่ค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมง เมื่อเทียบเป็นรายเดือนขยายตัว 0.4% ซึ่งเป็นการขยายตัวมากกว่าคาดเช่นกัน
ทางด้านการเจรจาระหว่างสหรัฐฯและจีน ได้ข้อสรุปว่าจะจัดที่กรุงลอนดอนในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงกว่า 40 ดอลลาร์ และประเมินแนวรับบริเวณ 3,280 ดอลลาร์
ขณะที่ InterGOLD มองว่า
ราคาทองคำร่วงแรงรับข่าว จีน-สหรัฐฯ นัดเจรจา เรื่องกำแพงภาษี ณ กรุงลอนดอน ในวันนี้ โดยให้แนวต้านที่ 3,330 ดอลลาร์ หรือ 51,600 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 3,295ดอลลาร์ หรือ 51,100 บาท
ปิดท้ายที่ GCAP Gold มองว่า
ราคาทองคำยังคงอ่อนตัวต่อเนื่องเป็นวันที่3 โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์เมื่อเช้านี้ หลังจากรายงานการจ้างงานสหรัฐออกมาดีกว่าคาด ทำให้ความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดลดลง ซึ่งส่งผลกดดันราคาทองคำ
อย่างไรก็ตามแม้ดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แต่ยังไม่สามารถดึงดูดแรงซื้อเพิ่มเติมได้ ขณะที่บรรยากาศตลาดยังคงระมัดระวัง ส่งผลให้ทองคำยังคงได้รับแรงหนุนบางส่วน
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงท่าทีของปธน.ทรัมป์ในเรื่องนโยบายการค้า รวมถึงความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์จากสงครามรัสเซีย-ยูเครนและความขัดแย้งในตะวันออกกลาง อาจทำให้ความหวังในตลาดไม่สามารถดาเนินไปได้ตามที่คาดการณ์
กลยุทธ์การลงทุนรอซื้อที่ 3,285 ดอลลาร์ ให้แนวรับที่ 3,285/3,280 และ 3,275 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนที่ 3,270 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 3,327/3,332 และ 3,337 ดอลลาร์
รับชมคลิป







Comments are closed.