ทองคำยังแกว่งตัวในกรอบ $2,615-2,650 คาดรอดูตัวเลข ศก.-ปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ส่วนทองไทยยังยืนเหนือ 43,000 บาท ได้
ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
ราคาทองคำไทยในช่วงครึ่งวันแรกวันนี้ (7 ม.ค.) สมาคมค้าทองคำประกาศราคา เพิ่มขึ้น 50 บาท 2 ครั้งและลดลง 50 บาท 1 ครั้ง
ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 12.00 น.อยู่ที่ 43,200 บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,100 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 43,700 บาท ส่วนราคารับซื้อ 42,326.72 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 34.59 บาทต่อดอลลาร์
โดย ฮั่วเซ่งเฮง คาดว่า
ราคาทองคำแท่งจะเคลื่อนไหว Sideways แต่หากยังยืนเหนือแนวรับ 43,000 บาท ขึ้นได้ระยะหนึ่ง ยังถือว่าเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อ
ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคจาก MACD ยังคงเกิด Bullish MACD แนะนำ Let Profit Run โดยให้แนวรับที่ 43,100 และ 42,900 บาท ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 43,300 และ 43,450 บาท
ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ ปิดที่ 2,636 ดอลลาร์ ปรับลดลง 3 ดอลลาร์ ได้ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจาก Bond Yield สหรัฐฯ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 8 เดือน และเจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณชะลอการปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้
แต่ระหว่างวันราคาทองคำมีความผันผวนสูง โดยช่วงแรกที่ทองคำเริ่มมีแรงซื้ออย่างชัดเจน หลังมีการรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีแผนจะผ่อนคลายนโยบายกำแพงภาษีลงกว่าที่เคยหาเสียงเอาไว้
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นทองคำเหวี่ยงกลับมามีจังหวะทิ้งตัวลงแรง หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ตอบโต้ว่าข้อมูลดังกล่าวไม่ถูกต้อง
คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนธ.ค. โดย ISM ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 53.5 จาก 52.1 ในเดือนพ.ย. และจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 7.73 ล้านตำแหน่ง จาก 7.74 ล้านตำแหน่ง
มุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง T.D.C. Gold มองว่า
วานนี้ ฝั่งสหรัฐฯ ไม่ได้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่มีนัยสำคัญประกาศออกมา แต่ทางเยอรมันจากทางยุโรปมีการประกาศดัชนีราคาผู้บริโภคที่ขยายตัวมากกว่าที่คาดการณ์ ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการที่เงินเฟ้อต่างไม่ได้ชะลอตัวลง
ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อโดยได้รับประโยชน์จากกุมลุ่มชิป หลังจาก Foxcon ของไต้หวันประกาศผลการดำเนินงานดีกว่าคาด บ่งชี้ให้เห็นถึงการบูมของ AI ส่วนราคาทองคำคาดว่าจะทรงตัว
ขณะที่ YLG Bullion มองว่า
วานนี้ราคาปรับตัวลงและทำระดับต่ำสุดใหม่จากวันก่อนหน้า อย่างไรก็ตามยังคงมีแรงซื้อดันให้ฟื้นตัวขึ้น หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับโซน 2,621-2,604 ดอลลาร์ได้ อาจเกิดแรงซื้อดันราคาปรับตัวขึ้นช่วงสั้นอีกครั้ง
แนะนำเสี่ยงเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรระยะสั้น หากราคายืนแนวรับได้ ตัดขาดทุนหากหลุด 2,604 ดอลลาร์ และให้ทยอยปิดสถานะซื้อทำกำไร หากราคาปรับตัวขึ้นทดสอบบริเวณแนวต้าน 2,666-2,685 ดอลลาร์
ด้าน SCT Gold มองว่า
ราคาทองคำผันผวนมากหลังปีใหม่ เมื่อวานนี้บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ปรับสูงขึ้น ราคาบิตคอยส์รีบาวด์แรง ราคาน้ำมันปิดปรับลดลง ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกยังไม่แน่นอนทั้งเรื่องสงคราม ทั้งเรื่องความเสี่ยงจากนโยบายของ โดนัลด์ ทรัมป์ และการชะลอลดดอกเบี้ยของเฟด
เนื่องจากเงินเฟ้อที่คาดว่าจะสูงขึ้นในปีนี้ทำให้ภาพรวมราคาทองยังดูคลุมเครือ โดยระยะสั้นยังออกได้ 2 หน้า แต่ระยะกลางยังเป็นการพักฐาน คาดว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่จะเริ่มทยอยประกาศหลายตัวเริ่มตั้งแต่คืนนี้ จะเป็นตัวแปรระยะสั้นผลักดันราคาทองสัปดาห์นี้ที่น่าสนใจมาก
กลยุทธ์การลงทุน ให้จับตาถ้าราคาทองคำยืน 2,630 ดอลลาร์ ได้ก็มีลุ้นที่จะไปทดสอบ 2,655 ดอลลาร์ และ 2,675 ดอลลาร์ ตามลำดับ กรณียืนไม่ได้อาจลงไป 2,615 ดอลลาร์ และมีแนวโน้มจะลงหลุด 2,600 ดอลลาร์ แต่โดยรวมยังพอมีลุ้นการรีบาวด์ได้อยู่ จึงแนะการย่อซื้อ-ขึ้นขาย และลดพอร์ตถ้าราคาปรับขึ้นแรงๆ
ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์
ให้แนวรับรายวัน ที่ 2,625 และ 2,612 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 2,649 และ 2,662 ดอลลาร์
รับชมคลิป
Comments are closed.