- Advertisement -

สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 4 พ.ย.67

สัปดาห์นี้จับตา 2 เรื่องใหญ่ เลือกตั้ง ปธน.สหรัฐ – ประชุม FOMC คาดทำราคาทองคำผันผวนรุนแรงได้

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

ราคาทองคำไทย วันนี้ (4 พ.ย.) สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวัน ลดลง 200 บาท

ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 43,900 บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,800 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 44,400 บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,008.92 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.82 บาทต่อดอลลาร์

- Advertisement -

เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ปรับตัวแข็งค่าจากปิดตลาดเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 33.90 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดรอจับตาการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ซึ่งถ้านายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง จากนโยบายต่าง ๆ ของทรัมป์ ก็จะส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าได้

ขณะเดียวกัน ในสัปดาห์นี้ยังต้องรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 6-7 พ.ย. นี้ ซึ่งตลาดให้น้ำหนักถึง 99% ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมรอบนี้ ส่วนวันนี้คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.70 – 34.00 บาท/ดอลลาร์

ทั้งนี้ ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

ในสัปดาห์นี้ราคาทองคำแท่งอาจผันผวน โดยเบื้องต้นราคาทองคำแท่งมีแนวโน้มปรับตัวลงระยะสั้น แต่นักลงทุนติดตามปัจจัยสำคัญ 2 ปัจจัยได้แก่ การเลือกตั้ง ปธน. สหรัฐ และการประชุมเฟด จึงอาจส่งผลต่อความผันผวนของราคาทองคำได้

หากเก็งกำไรระยะสั้นสามารถขายทำกำไรบางส่วนไปก่อน แล้วรอเข้าซื้อรอบใหม่ โดยให้แนวรับที่ 43,900 และ 43,750 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 44,250 และ 44,350 บาท

- Advertisement -

ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมา (27 ต.ค-1 พ.ย.) ปิดตลาดลดลงไป 11 ดอลลาร์ โดยปิดตลาดที่ 2,736 ดอลลาร์ แม้ว่าช่วงต้นสัปดาห์จะขึ้นไปทำสถิติสูงสุดตลอดกาล All-time high หรือ ATH ที่ 2,790 ดอลลาร์ แต่ทองคำถูกเทขายแรงในช่วงปลายสัปดาห์ หลังจากการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 12,000 ตำแหน่ง น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.

ทั้งนี้ประเด็นหลักที่นักลงทุนทั่วโลกจับตามองก็คือ การชิงชัยตำแหน่งเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐ ในวันที่ 5 พ.ย.นี้ ซึ่งผลโพลล์ล่าสุดของนิวยอร์กไทมส์ชี้ว่า คุณคามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต และโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ยังคงทำคะแนนสูสีกันใน 7 รัฐสมรภูมิ (Swing state)

โดยในช่วงสุดสัปดาห์ทีผ่านมา ผู้สมัครทั้งสองต่างเดินสายหาเสียงในรัฐสมรภูมิ โดยทรัมป์ลงพื้นที่ เพนซิลเวเนีย นอร์ทแคโรไลนา และจอร์เจีย ส่วนแฮร์ริสไปหาเสียงที่รัฐมิชิแกน

นอกจากนั้นในช่วงดึกคืนวันพุธ ต้องรอฟังผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยนักลงทุนให้น้ำหนัก98.8% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75%ในการประชุมวันที่ 6-7 พ.ย.นี้ แต่ทั้งนี้ต้องรอฟังแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยในกาประชุมเดือน ธ.ค.ว่าจะมีแนวโน้มอย่างไร จะลดอีก 0.25% อีกหรือไม่ ซึ่ง Fed Watch Tool ให้น้ำหนัก 81% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.

ส่วนประเด็นอื่น ๆ ที่ต้องติดตาม วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน มี ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.จาก S&P Global และ ดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

มุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง Shining Gold  ระบุว่า

ราคาทองคำ gold spot กำลังเคลื่อนตัว Sideway เพื่อรอเลือกทาง ท่ามกลางข่าวสำคัญอยู่ 2 เรื่องในสัปดาห์นี้ คือ

1. การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะเริ่มทราบผลอย่างไม่เป็นทางการในวันพุธตามเวลาในบ้านเรา ซึ่งผู้สมัครทั้งสองจะสร้างความผันผวนให้ตลาดแตกต่างกันออกไป

2 คือการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ ที่ตลาดคาดว่าร้อยละ 98% เฟดจะตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ประเด็นนี้ถือว่าเป็นบวกต่อราคาทองคำแต่ก็ไม่มากนัก เพราะคาดมาแล้วล่วงหน้าแบบ Stable ไม่ค่อยผันผวนแบบครั้งแรก

หากพิจารณาเทคนิคพยายามยืนฐาน 2,730 ดอลลาร์ เพื่อรีบาวน์ซึ่งแนวฐานดังกล่าวก็ไม่ได้แน่นหนามากนักเมื่อเทียบกับข่าวใหญ่แบบนี้ แต่หากจะเข้าลงทุนตามเทคนิคที่ยืนได้ ควรลงทุนเพียงบางส่วน และเคร่งครัด SL ตามกติกา

กลยุทธ์การลงทุนเหมาะสำหรับท่านที่รับความเสี่ยงช่วงผันผวนสูงและเคร่งครัดตามกติกาได้ เสี่ยง Open Long ไม้เดียวลงทุนสั้น 2,735-2,732 ดอลลาร์ มีจุด SL ที่ 2,725 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,744/2,752 และ 2,763 ดอลลาร์

ส่วน InterGOLD มองว่า

เมื่อคืนวันศุกร์มีการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ออกมาเพียง 12,000 ราย น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์มาก หนุนราคาทองดีดขึ้นไปสั้นๆ ก่อนจะร่วงกลับลงมา ขณะที่อัตราการว่างงานออกมาที่ 4.1% เท่ากับที่ตลาดคาดการณ์

ขณะที่ FED Watch tool ให้โอกาส 99% ที่FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1 เสต็ปในการประชุมคืนวันพฤหัสนี้ หากปรับลดจริงก็จะเป็นผลบวกกับราคาทองคำ ส่วนความคืบหน้าการเลือกตั้งปธน.สหรัฐ อัตราการต่อรองจากเว็บพนันรายใหญ่ของสหรัฐให้โอกาส 53% ที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะชนะในวันพุธนี้ หากเป็นไปตามนั้นอาจเกิดแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังมีนักวิเคราะห์หลายค่าย ออกมาวิเคราะห์ว่าการขึ้นภาษีการค้าระหว่างประเทศของทรัมป์อาจจะส่งผลเสียกับเศรษฐกิจทั่วโลก

แนวโน้มเชิงเทคนิค กราฟทองรายชั่วโมงพักฐานลงมา แต่ยังยืนได้เหนือ กรอบUptrend 2,730 ดอลลาร์ แสดงถึงแรงซื้อตรงโซนนี้ที่แข็งแกร่ง มีโอกาสฟื้นตัวได้ไว ตามแนวโน้มขาขึ้น แนะนำเล่นตามกรอบขาขึ้นรอเข้าซื้อ 2,730 ดอลลาร์ หรือ 43,800 บาท และไปขายทำกำไรที่แนวต้านแรก 2,780 ดอลลาร์ หรือ 44,200 บาท หรือแนวต้านถัดไป 2,800 ดอลลาร์ หรือ 44,400 บาท

ขณะที่ Ausiris มองว่า

ราคาทองคำ goldspot ยังถูกแรงเทขายต่อเนื่อง โดยถูกกดดันจากดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตามข้อมูลการจ้างงานที่ต่ำกว่าคาดทำให้ตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก ซึ่งได้ช่วยลดช่วงติดลบของราคาทองคำ

ขณะที่บรรดานักลงทุนจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย.นี้ และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 8 พ.ย. โดยให้แนวรับราคาทองคำ goldspot ที่ 2,730 และ2,715 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,748 และ2,758 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ SCT Gold มองว่า

สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำผันผวนตามคาด โดยเฉพาะคืนวันศุกร์ที่ตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ ประกาศออกมาน้อยมากทำให้ทองคำโดนเทขาย ซึ่งทรงนี้ไม่น่าจะส่งผลบวกกับราคาทองคำในระยะสั้นถึงกลาง

ส่วนสัปดาห์นี้จะเผชิญกับความผันผวนระดับสูง เพราะจะมีการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลเที่ยงวันพุธ และในช่วงดึกคืนวันพฤหัสฯ จะมีประกาศนโยบายดอกเบี้ย FOMC ของเฟด ซึ่งคาดว่าจะปรับลดดอกเบี้ยเพียง 0.25% ซึ่งจะเป็นลบกับราคาทองคำ

กลยุทธ์การลงทุนในทางเทคนิคหากราคายืน 2,750 ดอลลาร์ไม่ได้ยังมองลงต่อ โดยเฉพาะหลุด 2,705 ดอลลาร์จะเข้าภาวะพักฐานใหญ่ กรณีถ้าราคาจะปรับขึ้นต้องยืน 2,770 ดอลลาร์ได้ 2 วันจึงมองไปที่ 2,830 ดอลลาร์ คาดว่าราคาทองน่าจะสวิง SIDEWAYS ขึ้น-ลงแรงๆ ในกรอบ 30-60 ดอลลาร์ เพื่อรอผล FOMC แล้วค่อยย่อตัว จึงแนะเล่นสั้นไวๆ ได้ 2 ฝั่งจนทราบผลลัพธ์

รับชมคลิป

- Advertisement -