Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 30 ก.ย.67 GoldAround

- Advertisement -

1,248

- Advertisement -

สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 30 ก.ย.67

เงินบาทแข็งค่าต่อ ฉุดทองคำไทยร่วง 200 บาท ขณะที่ gold spot ส่อเค้าพักตัวระยะสั้น สัปดาห์นี้รอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ และสถานการณ์ตะวันออกกลาง

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวัน (30 ก.ย.) ลดลงแรง 200 บาท ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 40,650 บาท ส่วนราคารับซื้อ 40,550 บาท

ขณะที่ ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 41,150 บาท ส่วนราคารับซื้อ 39,825.32 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 32.36 บาทต่อดอลลาร์

- Advertisement -

เงินบาทเปิดเช้านี้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 32.40 บาท/ดอลลาร์ โดยสัปดาห์นี้ระวังความผันผวนในช่วงทยอยรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ

โดยแนวโน้มการแข็งค่าของเงินบาทยังมีอยู่ ต้องจับเงินดอลลาร์หากมีการรีบาวด์ เงินบาทอาจชะลอการแข็งค่าได้บ้าง โดยวันนี้คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.20-32.45 บาท/ดอลลาร์

โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

สัปดาห์ก่อนราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นเหนือ 41,000 บาท ก่อนที่จะมีแรงเทขายออกมาช่วงปลายสัปดาห์ ทำให้ปรับตัวลงต่ำกว่า 41,000 บาท

ทั้งนี้ แม้ว่าราคาทองคำโลกจะปรับตัวขึ้นทำ all-time high แต่ราคาทองคำแท่งเผชิญแรงกดดันจากค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้การปรับตัวขึ้นไม่มากนัก

- Advertisement -

จับตาบริเวณแนวรับ 40,600-40,700 บาท หากยืนเหนือแนวรับดังกล่าวได้ สามารถเข้าซื้อได้ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 40,950 และ 41,050 บาท

ขณะที่ ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot

สัปดาห์ที่ผ่านมา ปิดบวกมา 36 ดอลลาร์ และขึ้นทำ ATH ที่ 2,685 ดอลลาร์ แม้ว่าเมื่อวันศุกร์จะถูกเทขายทำกำไร หลังจากที่ราคาทองคำพุ่งแรงในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ยังปิดตลาดเหนือ 2,655 ดอลลาร์ ได้

ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้ ราคาได้ลงมาทดสอบแถว 2,645 ดอลลาร์ ต้องมาดูแนวโน้มว่าราคาจะลงพักตัวลึกขนาดไหน

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากทิศทางดอกเบี้ยขาลง และแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

ส่วนสัปดาห์นี้ ยังมีตัวเลขเศรษกิจที่ต้องติดตามหลายเรื่อง

โดยวันอังคารที่ 1 ต.ค. มีตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้าย เดือน ก.ย. จาก S&P Global , ดัชนีภาคการผลิต เดือน ก.ย. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือน ส.ค.

ส่วนวันพุธที่ 2 ต.ค. มีตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน เดือน ก.ย. จาก ADP คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 124,000 ราย จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 99,000 ราย

ขณะที่ วันพฤหัสบดีที่ 3 ต.ค. มีตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 221,000 ราย จากสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 218,000 ราย, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้าย เดือน ก.ย.จาก S&P Global และ ดัชนีภาคบริการ เดือน ก.ย. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) คาดจะอยู่ที่ 51.6 จากเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 51.5

ปิดท้ายที่วันศุกร์ที่ 4 ต.ค. จะมีตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) เดือน ก.ย. คาดว่า จะเพิ่มขึ้นเป็น 144,000 ราย จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 142,000 ราย

แต่ในช่วงดึกคืนนี้ (30 ก.ย.) ต้องรอฟังการแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ปธ.เฟด อีกครั้ง ต้องมาดูว่า ปธ.เฟดจะออกมาพูดเนื้อหาเกี่ยวกับนโยบายดอกเบี้ยเพิ่มเติมหรือไม่ หลังจากได้เห็นตัวเลขเงินเฟ้อ PCE แล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในประเทศ

โดย Shining Gold มองว่า

ราคาทองคำยังคงได้รับปัจจัยเชิงบวกสนับสนุนอยู่หลายประการ อาทิความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่แตกกิ่งออกมาจากอิสราเอลและฮามาส กำลังสร้างความกังวลกับหลายฝ่าย ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า อิสราเอลสังหารผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ในการโจมตีทางอากาศในกรุงเบรุต

สถานการณ์ดังกล่าว ถือเป็นปัจจัยบวกเชิงหนุนให้มั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า หากราคาทองคำจะเข้าสู่จังหวะย่อตัวเพื่อปรับ Indicators ทางเทคนิคที่แนวรับสำคัญจะยังคงมีแรงซื้อเข้ามาได้บ้าง ทำให้ไม่เกิดการทิ้งตัวอย่างรุนแรงจนมีนัยสำคัญในช่วงนี้ แต่ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามปัจจัยข่าวอื่น ๆ อย่างใกล้ชิดด้วย

กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น รอราคาย่อตัว ให้ open long ที่ 2,657 ดอลลาร์ หรือ 2,650 ดอลลาร์ จุดใดจุดหนึ่ง เผื่อถัวเฉลี่ย 2,630 ดอลลาร์ มีจุด stop loss ที่ 2,620 ดอลลาร์ ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 2,665 / 2,672 และ 2,679 ดอลลาร์

ด้าน InterGOLD มองว่า

สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำไทยปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วแตะ 41,200 บาท ก่อนที่จะลดลงมาปิดที่ 40,800 บาท ส่วนทองคำ gold spot ทำ all-time high ได้ 2,685 ดอลลาร์ ขณะที่การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในเดือน ต.ค. มองว่าอาจปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง จนถึงกลางเดือนหรือช่วงสิ้นเดือน

หลังจากนั้น ทองคำอาจจะชะลอตัวหรือโดนแรงเทขายก่อนช่วงที่เฟดลดดอกเบี้ย และเลือกตั้งสหรัฐฯ ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องระวังและจับตาดูอย่างใกล้ชิด โดยราคาทองคำอาจจะได้รับอานิสงส์ทั้งเชิงบวกและเชิงลบได้

แนะนำในช่วงนี้ ให้กระโดดขึ้นรถไปก่อน แบ่งรับแบ่งสู้ได้ เล่นสั้น 70% เน้นถือยาวอีก 30% ของพอร์ตการลงทุน เพราะค่าเงินบาทยังคงแข็งแรงกดดันทองคำไทยอยู่ หากทองคำต่างประเทศลดลง หรือดอลลาร์รีบาวด์ ราคาทองคำไทยก็อาจพุ่งขึ้นได้อีกครั้ง แต่อาจจะต้องรอ

ทั้งนี้ เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าก็ต่อเมื่อเงินดอลลาร์รีบาวด์ หรืออ่อนค่าเองจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยมีโอกาสลดดอกเบี้ย จากแรงกดดันที่เงินบาทแข็งค่าเกินไป

ขณะที่ T.D.C. Gold มองว่า

ดัชนี Core PCE ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อของ Fed ที่ประกาศเมื่อวันศุกร์ เมื่อเทียบเป็นรายเดือนขยายตัว 0.1% น้อยกว่าที่คาดการณ์ และน้อยกว่าเดือนก่อนก่อนหน้าที่ 0.2% เปิดช่องให้นักลงทุนมองการลดอกเบี้ยของ Fed ในอนาคต

แต่การเคลื่อนไหวของราคาทองคำยังเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากตลาดกำลังจับตามองตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่จะประกาศในวันศุกร์นี้

โดย T.D.C. Gold มองว่า ราคาทองคำในระยะสั้นส่งสัญญาณเริ่มพักตัวไปยังแนวรับ 2,625-2,630 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ ARR Goldtrading มองว่า

การสร้างจุดต่ำใหม่ เป็นการยืนยันรูปแบบแนวโน้มขาลงในแนวโน้มย่อย แต่แรงซื้อยังคงมีอยู่ จึงมีโอกาสแกว่งออกข้างในวันนี้

นักลงทุนพิจารณาแบ่งเงินบางส่วนเข้าซื้อตามแนวรับ 2,650 / 2,640 และ 2,630 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาปรับฐานลงต่ำกว่า 2,630 ดอลลาร์ และขายทำกำไรเมื่อดีดตัวประมาณ 10 ดอลลาร์จากจุดซื้อ หรือที่แนวต้าน 2,670 / 2,680 และ 2,690 ดอลลาร์

รับชมคลิป

- Advertisement -

- Advertisement -

Comments are closed.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More