ศก.โลกป่วน “ทรัมป์”ลุยเก็บภาษีเต็มอัตรา ดัน gold spot ทำ ATH ที่ 3,167 ดอลลาร์ ทองคำแท่งไทยพุ่งแรงแตะ 51,250 บาท

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

มาดูราคาทองคำไทยวันนี้ (3 เม.ย.) สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันเพิ่มขึ้น 650 บาท

ก่อนอีกชั่วโมงถัดมาจะปรับขึ้นและลงครั้งละ 50 บาท อย่างละครั้ง ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.00 น. อยู่ที่ 51,250 บาท ส่วนราคารับซื้อ 51,150 บาท

ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 52,050 บาท ส่วนราคารับซื้อ 50,225.08 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 34.38 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ปรับตัวอ่อนค่าขึ้นจากปิดตลาดช่วงเย็นวานนี้ โดยเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินภูมิภาคและตลาดโลก หลังประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศต่าง ๆ โดยไทยถูกปรับขึ้นภาษี 36% มีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 เม.ย.และตลาดรอดูว่าจะมีความคืบหน้าในการเจรจาต่อรองอย่างไร โดยวันนี้คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวนกรอบ 34.40 – 34.55 บาทต่อดอลลาร์

โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

เช้านี้ราคาทองคำในประเทศ ยังได้แรงหนุนจากค่าเงินบาทที่กลับขึ้นมาอ่อนค่า แต่กลับมาแนะนำ Wait and See เพื่อรอดูท่าทีของประเทศต่างๆ หลังได้รับผลกระทบทางภาษีก่อน แต่สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรระยะสั้นอาจเสี่ยงไล่ซื้อ โดยมีเป้าทำกำไรที่ระดับ 51,500-52,000 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 50,600 และ 50,300 บาท

มาดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 25 ดอลลาร์ ก่อนที่ช่วงเช้านี้ราคาทองคำจะขึ้นทำ New All Time High อีกครั้งที่ 3,167 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศใช้ทั้งมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ ซึ่งมุ่งเป้าไปที่คู่ค้าของสหรัฐฯ ประมาณ 60 ประเทศนั้น จะมีผลบังคับใช้ในวันพุธที่ 9 เม.ย. และมาตรการภาษีศุลกากรพื้นฐาน โดยเรียกเก็บภาษีสินค้าจากประเทศต่างๆ ที่ส่งเข้าสู่สหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้ในวันเสาร์ที่ 5 เม.ย.

ส่งผลให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามการค้าโลกที่กระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐให้มีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้เช้านี้ สัญญา futures ของหุ้นสหรัฐดิ่งลงอย่างหนัก ขณะที่เงินดอลลาร์อ่อนค่า และเงินบาทก็อ่อนค่าเนื่องจากไทยจะถูกเก็บภาษีที่ 36% หนุนราคาทองคำในประเทศพุ่งแรง

วันนี้นอกจากจะต้องติดตามความคืนหน้าเรื่องนโยบายภาษีของ ปธน.ทรัมป์ แล้ว คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมี.ค. โดยมาร์กิต และ ดัชนี PMI ภาคการบริการ โดย ISM

มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง Shining Gold มองว่า

ราคาทองคำดีดตัวขึ้นอย่างรุนแรงรับข่าวโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเก็บภาษีศุลการกรกับประเทศคู่ค้าอย่างดุเดือด โดยกำหนดอัตราภาษีศุลกากรพื้นฐาน 10% สำหรับทุกประเทศตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน

ขณะที่การเรียกเก็บภาษีศุลกากรที่แลกเปลี่ยนกันสูงขึ้นในหลายประเทศรวมถึงจีน อินเดีย และสหภาพยุโรป จะมีผลในวันที่ 9 เมษายน สำหรับสินค้าจีนจะเพิ่มขึ้นเป็น 54% แม้แคนาดา และเม็กซิโกจะได้รับการยกเว้นแต่ก็ยังเผชิญหน้าภาษี 25% เช่นเดิม

ซึ่งหาก ปธน.ทรัมป์เก็บจริงตามที่ประกาศ ราคาทองคำจะยิ่งปรับตัวสูงขึ้นได้อีก แต่หากมีวันหนึ่งวันใดเกิดการยกเลิกสิ่งที่เคยประกาศหรือถอนคำพูดขึ้นมาก็มีโอกาสที่ราคาทองคำจะเกิดการทิ้งตัวใหม่ ดังนั้นควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น Open Long ตามจุดแนวรับ 3,154-50/3,140 และ 3,115 ดอลลาร์

และติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เคร่งครัด SLทันที หากมีการหลุด 3,108 ดอลลาร์ และสามารถขยับ SL ขึ้นมากันหน้าทุนได้ เมื่อราคาสามารถทะลุ 3,178 ดอลลาร์ โดยเป้าหมายอยู่ที่ 3,166 /3,178 และ 3,198 ดอลลาร์

ด้าน InterGOLD ระบุ

ราคาทองคำพุ่งขึ้นแรง หลังจาก ปธน.ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสูงเกินคาด โดยไทยโดนภาษี 36% และจีน 34% ทำให้เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง ขณะที่ทองคำยังไม่มีสัญญาณขายสำคัญ มองว่ามีโอกาสขึ้นต่อ

นักลงทุนที่ถือทองอยู่สามารถถือต่อได้ แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 3,100 ดอลลาร์ ควรพิจารณาขายล็อกกำไร ไม่แนะนำให้เข้าซื้อเพิ่ม เนื่องจากข่าวบวกต่อราคาทองได้สะท้อนไปมากแล้ว

โดยให้แนวต้านที่ 3,200 ดอลลาร์ หรือ 51,600 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 3,100 ดอลลาร์ หรือ 50,500 บาท

ขณะที่ YLG Bullion มองว่า

ราคาทองคำแกว่งตัวผันผวนแต่ไม่หลุด 3,100 ดอลลาร์ก่อนจนทะลุ 3,150 ดอลลาร์ อย่างไรก็ดีราคาพักตัวอีกครั้งหลังทดสอบใกล้ต้าน 3,170 ดอลลาร์ แต่พักเพื่อขึ้นต่อ แต่ ไม่ควรหลุด 3,132-3,123 ดอลลาร์ หากหลุด 3,123 ดอลลาร์จะทำให้กราฟจะมีแนวโน้มเชิงบวกลดลง

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแบ่งขายทำกำไรหากราคาไม่ผ่าน 3,157-3,170 ดอลลาร์ หากผ่าน 3,170 ไปชะลอไปขายถ้าไม่ผ่าน 3,200-3,190 ดอลลาร์ รอเข้าซื้อหากราคาไม่หลุด 3,132-3,123 ดอลลาร์ หากหลุด 3,123 ดอลลาร์ ให้ชะลอซื้อไปหากไม่หลุด 3,105 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากหลุด 3,105 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ GCAP Gold มองว่า

แม้แนวโน้มขาขึ้นของราคาทองคำยังคงแข็งแกร่ง แต่การขาดแรงซื้อที่เพียงพอในการดันราคาทำจุดสูงสุดใหม่ทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์ และดัชนี RSI อยู่เหนือระดับ 70 บ่งชี้ถึงภาวะซื้อมากเกินไป(Overbought) โดยค่าเฉลี่ยอาจแตะถึงระดับ 80 ตามแนวโน้ม อาจทำให้เกิดแรงเทขายระยะสั้นลงมาได้

หากราคาทองคำยืนเหนือ 3,100 ดอลลาร์ ฝ่ายซื้อยังคงคุมตลาด อาจเปิดทางไปสู่ระดับ 3,200 ดอลลาร์ได้ แต่หากราคาร่วงต่ำกว่า 3,100 ดอลลาร์ อาจทดสอบแนวรับที่ 3,057 ดอลลาร์ และแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาอยู่ที่ 3,000 ดอลลาร์

รับชมคลิป