สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 28 พ.ย.67
ทองคำร่วงแรง เช้านี้ gold spot ลงแตะ $2,620 ทองคำไทยลด 400 บาท หลุด 43,000 บาท
ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
ราคาทองคำไทยเช้านี้ปรับลงแรง โดยราคาแรกที่ สมาคมค้าทองคำ ประกาศ (28 พ.ย.) ลดลงไป 350 บาท
ก่อนอีกครึ่งชั่วโมงถัดมาจะลดลงอีก 50 บาท ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.00 น. อยู่ที่ 42,950 บาท ส่วนราคารับซื้อ 42,850 บาท
ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 43,450 บาท ส่วนราคารับซื้อ 42,084.16 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 34.49 บาทต่อดอลลาร์
เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ทรงตัวจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.56/60 บาทต่อดอลลาร์ หลังผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/67 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ออกมาตามที่ตลาดคาดการณ์ ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ออกมาดีกว่าคาด ส่วนวันนี้คาดเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.40 – 34.65 บาท/ดอลลาร์
ทั้งนี้ Shining Gold ระบุว่า
ราคาทองคำไทย ยังอยู่ในช่วงการรีบาวน์น้อย เพื่อพักฐานอยู่เช่นเดิม นักลงทุนระยะสั้น หากจะเข้าซื้อเพื่อเล่นรอบ อาจได้กำไรน้อย และมีความเสี่ยงสูง ส่วนนักลงทุนระยะกลางยังคงรอให้ราคาทิ้งตัวลงหลุดต่ำกว่า 43,000 บาทลงมาก่อน ค่อยวางแผนแบ่งไม้ทยอยสะสมแบบพีระมิด
โดย ShiningGold ให้แนวต้าน 43,200/43,300 และ 43,470 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 42,500 /42,200 และ 41,800 บาท
ไปดูภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ (27 พ.ย.) ยังปิดตลาดบวกเพิ่มมา 4 ดอลลาร์ โดยราคาได้ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดของวันที่ 2,658 ดอลลาร์ ก่อนจะทิ้งตัวมาปิดตลาดที่ 2,636 ดอลลาร์ ส่วนเช้านี้ลงทดสอบ 2,620 ดอลลาร์ จับตาจะลงทดสอบ 2,600 ดอลลาร์หรือไม่
โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากดัชนีดอลลาร์ที่ปรับตัวลดลง 0.86% แตะที่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำลดช่วงบวก หลังดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่ปรับตัวขึ้นมากกว่าในเดือนก.ย.ที่ 2.1%
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบรายปี แม้ว่าสอดคล้องกับการคาดการณ์ แต่ก็ปรับตัวขึ้นมากกว่าในเดือนก.ย.ที่เพิ่มขึ้น 2.7%
ทำให้นักลงทุนกังวลว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง อาจทำให้เฟดชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า โดย FedWatch Tool ของ CME Group ล่าสุดบ่งชี้ว่านักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. แต่ก็คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ม.ค. และเดือน มี.ค.ปีหน้า ส่วนวันนี้ตลาดทองคำสหรัฐจะปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving)
มุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง InterGOLD มองว่า
ราคาทองไทยหลุด 43,000 บาทลงมาแล้วในเช้านี้ หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 2,660 ดอลลาร์ บริเวณ 43,400 บาท คาดว่าแรงเทขายนี้อาจส่งผลให้ราคาลงไปทดสอบที่ 2,600 ดอลลาร์ และ 2,575 ดอลลาร์ตามลำดับ
จากสถานการณ์ที่ตะวันออกกลางเริ่มมีการหยุดยิงและถอนกำลังกัน ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อการยุติสงคราม แต่เป็นสัญญาณลบต่อราคาทองคำ
เนื่องจากแรงหนุนและแรงรีบาวด์ต่าง ๆ มาจากเหตุการณ์พิเศษเหล่านี้ ถึงแม้ว่าสถานการณ์ในยูเครน-รัสเซียยังคงดุเดือด แต่คาดว่าตลาดได้เก็งกำไรจากภาวะสงครามไปหมดแล้วตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ดังนั้นหากไม่มีการยกระดับความรุนแรงเพิ่มเติม ปัจจัยบวกของราคาทองคำอาจค่อย ๆ ลดลงในที่สุด
มาดูแนวโน้มเชิงเทคนิควันนี้เป็นวันขอบคุณพระเจ้าตลาดอาจไม่ผันผวนหนักให้รอดูราคาทองคำเข้าใกล้แนวรับสำคัญที่ 2,600 ดอลลาร์ หรือรอราคาลงมาที่ระดับที่พอใจแล้วค่อยทยอยสะสมซื้อก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสมเช่นกัน โดยให้แนวต้านที่ 2,660 ดอลลาร์ หรือ 43,400 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 2,600 ดอลลาร์ หรือ 42,700 บาท
ขณะที่ YLG Bullion มองว่า
หลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้น มีแรงขายกดราคาลงอย่างชัดเจน ระยะสั้นราคาอาจเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway down โดยมีแนวต้านโซน 2,639-2,658 ดอลลาร์ หากไม่สามารถยืนได้มีโอกาสที่จะอ่อนตัวลงต่อ
แนะนำเปิดสถานะขายและไปรอปิดสถานะขายทำกำไร หากราคาปรับตัวลงสามารถยืนเหนือโซนแนวรับโซน 2,604-2,583 ดอลลาร์ โดยสถานะขายตัดขาดทุน หากราคาผ่าน 2,658 ดอลลาร์
ด้าน SCT Gold มองว่า
ราคาทองคำ gold spot แผ่วหลังยืน 2,650 ดอลลาร์ไม่ได้จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดีหลายตัว ไม่ว่าจะเป็นยอดขายบ้านใหม่ ,GDP และเงินเฟ้อที่ออกมาตามคาดการณ์ ทำให้ราคาทองคำจะย่อลงต่อ
คืนนี้ตลาดอเมริกาหยุดวันขอบคุณพระเจ้าแต่ตลาดเอเชียขายถล่มลงมาตอนเช้านี้ โดยเป้าหมายแรกแถว 2,605 ดอลลาร์ คาดว่าราคาทองคำจะย่อตัวลง เพื่อเตรียมพบความผันผวนหนักในสัปดาห์หน้าที่จะมีประกาศตัวเลขจ้างงานและการผลิตสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลต่อการประกาศลดดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธันวาคม
ส่วนข่าวสงครามยูเครน-รัสเซีย และความขัดแย้งในชนวนกาซายังต้องระวังเพราะสหรัฐฯ และนาโต้ไม่ยอมแพ้ง่ายในยูเครน เพราะผลประโยชน์ก้อนโต
ส่วนอิสราเอลบอกว่าที่ประกาศหยุดยิงชั่วคราวในเลบานอน แท้จริงเนื่องจากการส่งอาวุธมาเสริมที่ล่าช้า และต้องการจัดการกลุ่มฮามาสที่ยังเก็บตัวประกันชาวยิวในกาซาก่อน
กลยุทธ์การลงทุนแนะรอซื้อช่วงราคาย่อตัวแรงตั้งแต่ 2,610 ดอลลาร์ลงมา เพื่อลุ้นการรีบาวด์รอบใหม่ โดยให้แนวรับที่ 2,605 และ2,580 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,650 และ2,675 ดอลลาร์
ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์
ให้แนวรับรายวันที่ 2,582 และ 2,605 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 2,640 และ 2,670 ดอลลาร์
รับชมคลิป
Comments are closed.