สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 26 เม.ย.67
ราคาทองคำ gold spot กลับมาปิดบวก 16 ดอลลาร์ หลัง GDP สหรัฐฯ ลดลงต่ำสุดในรอบ 2 ปี ส่วนทองคำไทยจ่อทดสอบ 41,000 บาท อีกรอบ
ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
.
รับชมคลิป สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้
ราคาทองคำไทย เช้านี้ (26 เม.ย.) ยังขยับบวกต่อเนื่อง โดย สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวัน เพิ่มขึ้น 100 บาท ก่อนอีกครึ่งชั่วโมงถัดมาจะประกาศเพิ่มขึ้นอีก 50 บาท
ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.00 น.อยู่ที่ 40,900 บาท ส่วนราคารับซื้อ 40,800 บาท
ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 41,400 บาท ส่วนราคารับซื้อ 40,067.88 บาท คำนวณจากเงินบาท 37.02 บาทต่อดอลลาร์ โดยเช้านี้เงินบาทเปิดตลาดปรับตัวอ่อนค่าเล็กน้อยจากปิดตลาดเย็นวานนี้
หลังดอลลาร์แข็งค่าตามบอนด์ยีลด์ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากตัวเลขจีดีพี ไตรมาสแรกของสหรัฐที่แย่กว่าคาด ขณะที่เงินเฟ้อลดลงช้า ทำให้นักลงทุนประเมินถึงโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยมีแนวโน้มน้อยลงไปอีก โดยวันนี้คาดเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 36.90-37.20 บาท/ดอลลาร์
ทาง SCT Gold ระบุว่า
ราคาทองคำไทยปรับตัวขึ้นต่อตามแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นขึ้นทดสอบแนวต้าน 41,000 บาท ก่อนจะโดนแรงขายทำกำไรออกมา อย่างไรก็ตามทองคำไทยปิดบวกได้ 2 วันติด เป็นผลมาจากปัจจัยเงินบาทอ่อนค่าช่วยหนุน
ในทางเทคนิคหากราคาทองคำไทยเริ่มต่ำกว่า 40,750 บาทเป็นสัญญาณอันตรายเตรียมตัวลงสำหรับฝั่งซื้อแนะนำให้รอความชัดเจนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่จะออกมาในวันนี้ก่อน
โดย SCT Gold ให้แนวต้านที่ 40,850 และ41,200 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 40,200 และ 40,000 บาท
ขณะที่ ราคาทองคำ gold spot หลังจากที่ปิดตลาดในแดนลบมา 3 วันติด เมื่อวานนี้ (25 เม.ย. ) ได้กลับมาปิดตลาดในแดนบวกได้ โดยเพิ่มขึ้น 16 ดอลลาร์ ราคาได้ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 2,344 ดอลลาร์ ก่อนจะลงมาปิดตลาดที่ 2,331 ดอลลาร์
โดยราคาทองคำ gold spot ได้รับแรงหนุนจากเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า ภายหลังการเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 1 ประมาณการครั้งที่ 1 ขยายตัวเพียง 1.6% ต่ำกว่าของนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ ที่ 2.4% และเป็นการขยายตัวต่ำในรอบเกือบ 2 ปี และโตไม่ถึงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับระดับในไตรมาส 4/2566
อย่างไรก็ดี นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ ระบุว่าการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มจะแข็งแกร่งกว่าที่บ่งชี้ในข้อมูล GDP ไตรมาส 1/2567
โดย นางเยลเลนระบุว่า ตัวเลข GDP ไตรมาส 1/2567 อาจถูกปรับแก้ให้สูงขึ้น หลังมีข้อมูลเศรษฐกิจใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามา และเงินเฟ้อจะชะลอตัวสู่ระดับปกติมากขึ้น หลังมีปัจจัยพิเศษได้ฉุดให้ GDP สหรัฐอ่อนแอที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี
ขณะเดียวกันมีรายงานแสดงให้เห็นว่าเงินเฟ้อไตรมาสแรกของสหรัฐพุ่งขึ้นในระดับที่น่ากังวล โดยดัชนี ราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในไตรมาส 1/2567 พุ่งขึ้น 3.4% ซึ่งสูงกว่าในไตรมาส 4/2566 ที่ปรับตัวขึ้น 1.8%
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 3.7% สูงกว่าในไตรมาส 4/2566 ที่เพิ่มขึ้น 2.0%
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนี PCE พื้นฐานเดือนมี.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% จากเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน หรือเพิ่มขึ้น 2.6% จากเพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบรายปี และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.ของ ม.มิชิแกน
มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในประเทศ
โดย T.D.C. Gold มองว่า
GDP ของสหรัฐฯ ที่ประกาศเมื่อคืนนี้ ขยายตัว 1.6% แต่หากไปดูในรายละเอียดจะพบว่า GDP ที่น้อยลงเป็นผลมาจาก สต๊อกสินค้าที่ลดลง
ซึ่งแท้จริงแล้วสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจมากกว่าที่จะชะลอตัว ทำให้ Bond Yield ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อ และนักลงทุนประเมินการลดดอกเบี้ยจะเลื่อนออกไป ทั้งนี้ราคาทองคำ gold spot ยังปรับตัวสูงขึ้นจากสภาวะ Risk-off ของนักลงทุน
ขณะที่ ShiningGold ระบุว่า
วานนี้ ราคาทองคำ gold spot ได้ย่อตัวลงแตะ 2,305 ดอลลาร์ ก่อนจะขึ้นไปแตะ 2,345 ดอลลาร์ แม้ว่าตัวเลข Advance GDP สหรัฐฯ ที่ประกาศเมื่อคืนนี้จะให้ผลเชิงบวกแต่ก็ยังเผชิญแรงขายบริเวณแนวต้าน 2,342 ดอลลาร์อย่างมากเช่นเดิม
กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น รอราคา Rebound ให้ Open Short ที่ 2,352และ2,378-82 ดอลลาร์ มีจุด SL ที่ 2,392 ดอลลาร์ ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 2,323 และ2,315 และ2,302 ดอลลาร์
ด้าน ฮั่วเซ่งเฮง คาดว่า
ราคาทองคำ goldspot เคลื่อนไหวในกรอบที่จำกัดในช่วงกลางวันนี้ แต่คืนนี้คาดจะเคลื่อนไหวผันผวน แนะนำซื้อขายตามกรอบแนวรับแนวต้าน หรือเปิดสถานะขายบริเวณ 2,340-2,344 ดอลลาร์ มีจุดตัดขาดทุนที่ 2,355 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 2,310 และ2,300 บาท
ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์
ให้แนวรับรายวันที่ 2,324 และ 2,318 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 2,337 และ 2,343 ดอลลาร์
Comments are closed.