สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 23 ธ.ค.67

gold spot พยายามประคองตัวเหนือ $2,600 ทองคำไทยเปิดสัปดาห์แถว 42,600 บาท แม้ปริมาณซื้อขายไม่มากแต่ต้องระวังข่าวนอกตาราง

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

ภาพรวมราคาทองคำไทย สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวัน ( 23 ธ.ค.)

ยังเท่ากับราคาปิดในสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 42,600 บาท ส่วนราคารับซื้อ 42,500 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 43,100 บาท ส่วนราคารับซื้อ 41,735.48 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 34.30 บาทต่อดอลลาร์

Shining Gold มองว่า

นักลงทุนระยะกลางเริ่มสะสมไม้แรกแล้ว 42,800 บาท น้อยกว่า 15% ของพอร์ต ให้ทยอยสะสมเพิ่ม เมื่อราคาย่อตัว ตามแนวรับสำคัญ แบบพีระมิด โดยไม้ที่ 2 บริเวณ 42,400 บาท ประมาณ 20% ของพอร์ต และ ไม้ที่ 3 บริเวณ 42,000-41,850 บาท อีก 20% ของพอร์ต

ซึ่งหากมีราคาต่ำกว่านั้นลงไปอีกก็สามารถใช้ส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งของพอร์ตเข้าบริหารราคา สำหรับท่านที่เล่นรอบปิดกำไรไปแล้ว

การสะสมใหม่ไม้แรกควรเริ่มที่ 42,600 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 42,700/42,900 และ 43,100 บาท

ไปดูภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาจะดีดตัวแรงขึ้นไปแตะสูงสุดที่ 2,631 ดอลลาร์ ก่อนจะมาปิดตลาดที่ 2,623 ดอลลาร์ ปรับเพิ่มขึ้นมากถึง 29 ดอลลาร์ แต่ภาพรวมในสัปดาห์ที่ผ่านมายังปิดลดลงไป 25 ดอลลาร์

โดยปัจจัยกดดันทองคำมาจาก มาจากผลการประชุม FOMC เดือน ธ.ค. ซึ่งเฟดส่งสัญญาณชะลอการปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้า แต่วันศุกร์ราคาทองคำดีดขึ้นแรง เนื่องจากเงินเฟ้อ Core PCE เดือนพ.ย.ต่ำกว่าตลาดคาด

ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวฉบับใหม่ในวันศุกร์และวุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวแล้วในวันเสาร์ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ รอดการชัตดาวน์

สัปดาห์นี้ได้เข้าสู่ช่วงวันหยุดของในช่วงเทศการคริสต์มาส ตลาดการเงินและหน่วยงานราชการสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันพุธที่ 25 ธันวาคม

ซึ่งอาจะทำให้ปริมาณการซื้อขายเบาบางกว่าช่วงปกติ แต่ก็ยังพอมีตัวเลขเศรษฐกิจให้ต้องติดตาม โดยวันนี้จะมีตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค.จาก Conference Board และวันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม จะมีตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

มุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทยทาง เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ ระบุว่า

ภาพรวมราคาทองคำ gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมา เคลื่อนไหว sideway ในกรอบกว้าง ๆ โดยที่ยังกลับมายืนเหนือ 2,600 ดอลลาร์ ได้อยู่ภายในสัปดาห์ ทำให้สัปดาห์นี้ต้องกลับมารอดูกันต่อว่าราคาจะยังคงเล่นอยู่ในกรอบเดิมต่อไปจนถึงสิ้นปีเลยหรือไม่

โดยโซนแนวรับสำคัญอยู่ที่ 2,580-2,570 ดอลลาร์ และ 2,540-2,530 ดอลลาร์ ตามลำดับ โดยหากราคาไม่หลุดแนวรับทั้ง 2 นี้ อาจหาจังหวะเข้าซื้อเพื่อเล่นรีบาวน์ได้ แต่ถ้าราคาหลุดมีโอกาสไหลลงเพื่อทำจุดต่ำสุดใหม่ต่อไป

ส่วนโซนแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 2,650-2,660 ดอลลาร์และ 2,680-2,690 ดอลลาร์ ตามลำดับ พิจารณาขายทำกำไรที่โซนดังกล่าวหากราคายังคงปรับตัวขึ้นต่อในช่วง ต้นสัปดาห์ เพื่อเล่นรอบในกรอบ sideway ต่อไป

ด้าน InterGOLD มองว่า

ใกล้ช่วงหยุดยาวใหญ่ของตลาดฝั่งตะวันตก ราคาทองอาจวิ่งในกรอบแคบๆหรือนิ่งๆไม่ไปไหนได้ ทั้งนี้ข่าวไม่มีอะไรเพิ่มเติมมาก ปัจจัยพื้นฐานและเทคนิคของตัวทองคำออกมาเป็นขาลง ถึงแม้ทองจะมีการรีบาวด์ขึ้นมาเหนือ 2,600 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง แต่ยังคงต้องรอดูว่าจะยืนได้นานแค่ไหน

อย่างไรก็ตามยังพอลุ้นคริสต์มาสเอฟเฟคได้ หากราคายืน 2,600 ดอลลาร์ได้ อาจเห็นการรีบาวด์ขึ้นได้ต่อ ที่ 2,650 – 2,670 ดอลลาร์ ตามลำดับ แต่หากราคาหักหัวลงหลุด 2,600 ดอลลาร์ ก็น่าจะเข้าสู่ขาลงต่อได้ไม่ยาก ภาพรวมคือทุกการขึ้นมองเป็นแค่การรีบาวด์เท่านั้น ไม่ใช่ขึ้นยาว

ในส่วนของทองคำไทยการใกล้ปิดปีหากอยากจะลุ้น คริสต์มาสเอฟเฟคก็สามารถหาจังหวะซื้อบริเวณ 42,000-42,500 บาท เพื่อลุ้นขึ้นในช่วงก่อนปิดปีหรือต้นมกราคมได้ อย่างไรก็ตามอันนี้เป็นเพียงโอกาสทางสถิติเท่านั้น ใช่ว่าจะขึ้นเสมอไป

ขณะที่ Ausiris

มองในเชิงเทคนิคว่า จุดต่ำสุดของช่วงการซื้อขายบริเวณ 2,585 ดอลลาร์ จะเป็นแนวรับแรกที่ช่วยพยุงราคาทองคำไว้ หากหลุดแนวรับนี้ แนวรับสำคัญถัดไปอยู่ที่บริเวณ 2,560 ดอลลาร์ ซึ่งหากราคาลดลงต่อเนื่อง อาจเผชิญกับจุดต่ำสุดของเดือนพฤศจิกายนที่ 2,535 ดอลลาร์

ในทางกลับกันระดับ Fibonacci Retracement 23.6% แถว 2,625 ดอลลาร์ พื้นที่ดังกล่าวจึงกลายเป็นจุดชี้วัดสำคัญ หากราคาสามารถทะลุขึ้นไปได้ อาจเกิดแรงซื้อคืน และดันราคาทองคำ สู่บริเวณ 2,635 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับ Fibonacci Retracement 38.2% และอาจไปถึงระดับ 50% บริเวณโซนแนวต้าน 2,650 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ ARR Goldtrading มองว่า

แรงขายทำกำไรสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งพุ่งขึ้นมาสูงมากก่อนหน้านี้จะเป็นผลบวกต่อทองคำในระยะสั้น เพราะยังคงถูกกดดันจากคาดการณ์ว่าเฟดจะชะลอการลดดอกเบี้ยลงไปหน้า ราคาจึงมีโอกาสสูงที่จะแกว่งออกไปทางด้านข้าง ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเล่นรอบระยะสั้น

โดยให้แนวรับที่ 2,610/2,600 และ 2,590 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,630/2,640 และ 2,650 ดอลลาร์
ด้านทองคำแท่งในประเทศไทยถูกกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า พิจารณาทยอยขายทำกำไรที่ราคา 42,700 – 42,800 บาท

รับชมคลิป