- Advertisement -

สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 21 พ.ย.67

gold spot ยังไปต่อ.. หากยืน $2,660 ได้ อาจได้เห็นพุ่งไปทดสอบ $2,690 หลังความขัดแย้ง“รัสเซีย-ยูเครน” ยังตึงเครียดหนัก

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

ราคาทองคำไทยในเช้านี้ (21 พ.ย.) ขยับตัวแรง โดยสมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันบวกเพิ่ม 400 บาท

ก่อนจะมีการขยับขึ้น-ลง อีก 4 ครั้ง ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 11.45 น. อยู่ที่ 43,600บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,500 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 44,100 บาท ส่วนราคารับซื้อ 42,720.88 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 34.69 บาทต่อดอลลาร์

- Advertisement -

โดยราคาทองคำไทยยังบวกแรงแม้เงินบาทจะแข็งค่า โดยเงินบาทเปิดเช้านี้ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากปิดวันก่อนที่ระดับ 34.70 บาท/ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากการรีบาวด์ของราคาทองคำ หลังผู้เล่นในตลาดยังต้องการถือทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ทวีความร้อนแรงในช่วงนี้ ส่วนค่าเงินบาทวันนี้ คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-34.75 บาท/ดอลลาร์

โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 43,500-43,600 บาท คาดว่าราคาทองคำแท่งอาจเริ่มมีการชะลอตัว นักลงทุนเก็งกำไรระยะสั้นแนะนำขายทำกำไร และรอเข้าซื้อรอบใหม่บริเวณ 42,800-42,900 บาท ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 43,600 และ 43,650 บาท

ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ (20 พ.ย.) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3

โดยบวกเพิ่มอีก 18 ดอลลาร์ ไปแตะระดับสูงสุด 2,655 ดอลลาร์ ขณะที่ในช่วงเช้าวันนี้ได้ขึ้นไปทดสอบที่ 2,660 ดอลลาร์ ทั้งนี้หากราคาทองคํายังคงยืนเหนือ 2,650 ดอลลาร์ ได้มีโอกาสที่จะขยับขึ้นไปทดสอบที่ 2,690 ดอลลาร์

- Advertisement -

โดยราคาทองคำได้แรงหนุนจากแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังยูเครนได้ยิงขีปนาวุธ “Storm Shadow” ซึ่งเป็นขีปนาวุธร่อนพิสัยไกลที่ผลิตโดยอังกฤษเข้าไปในดินแดนรัสเซีย หลังจากวันก่อนหน้าได้ใช้ขีปนาวุธจากสหรัฐ ยิงเข้าถล่มรัสเซีย ทำให้ภาพรวมภาวะสงครามยังคงตึงเครียดมากขึ้น ซึ่งต้องมารอดูว่ารัสเซียจะมีการตอบโต้อย่างไรบ้าง

นอกจากนั้นนักลงทุนจับตาการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ย

โดยขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 55.7% ต่อการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งลดลงจากที่ให้น้ำหนัก 82.5% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ส่วนประเด็นข่าวที่น่าจับตาคืนนี้ สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือน พ.ย. / จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจเดือน ต.ค. โดย conference Board

มุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง Shining Gold ระบุว่า

ราคาทองคำ gold spot รีบาวด์ขึ้นมาจนถึงรอยต่อจุดกึ่งกลางระหว่างการรีบาวด์กลางช่วงปลาย เพื่อเข้าสู่การรีบาวด์มากแล้ว ถ้าราคาสามารถทะลุและยืน 2,662 ดอลลาร์ ได้ มีโอกาสรีบาวด์ขึ้นได้ต่อเนื่องไปอีกชุดจนกว่าจะพบสัญญาณการกลับตัว

แต่หากไม่สามารถยืนเหนือแนวดังกล่าวก็มีโอกาสพักฐานลงได้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นช่วงรอยต่อบริเวณนี้ควรรอให้กราฟตัดสินใจเลือกทางก่อน จึงค่อยเปิดสถานะเทรด

กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น รอกราฟเลือกทาง หากสามารถสามารถ Break ทะลุ 2,662 ดอลลาร์ได้ ค่อย Follow Buy เคร่งครัด SLที่ 2,638 ดอลลาร์

แต่หากกราฟไม่สามารถ Break ระดับ 2,662 ดอลลาร์ได้ จะถือเป็นจุด Short เคร่งครัด SL ที่ 2,668 ดอลลาร์ โดยให้แนวต้านที่ 2,659-62 / 2,672 และ 2,680 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 2,644 /2,633 และ 2,615 ดอลลาร์

ด้าน InterGOLD มองว่า

ราคาทองคำยังคงพุ่งขึ้นต่อเนื่องในเช้าวันนี้ โดยแตะที่ระดับ 2,660 ดอลลาร์ โดยบริเวณ 2,660 ดอลลาร์ ถือเป็นแนวต้านสำคัญที่น่าจับตามอง คาดว่าการรีบาวด์ครั้งนี้อาจหยุดที่บริเวณแนวต้านดังกล่าว

จึงแนะนำให้แบ่งขายทำกำไรบางส่วน เนื่องจากทองคำได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์พิเศษ จากความร้อนแรงของสงครามยูเครน-รัสเซีย

ตามสถานการณ์นี้อาจทำให้นโยบายของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการยุติสงครามดูมีความเป็นไปได้ยากขึ้น เพราะหากทั้งสองฝ่ายยังสูญเสียเพิ่มขึ้นการเจรจาข้อตกลงก็จะยิ่งลำบาก ดังนั้นทองคำจึงได้รับแรงหนุนจากปัจจัยดังกล่าว

อย่างไรก็ดี มองว่าภาวะสงครามในขณะนี้อาจเป็นเพียงสถานการณ์ระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากในท้ายที่สุด โดนัลด์ ทรัมป์ ก็น่าจะหาทางออกได้ หลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนมกราคม

แนวโน้มเชิงเทคนิค กราฟทองคำในระยะสั้นปรับตัวเป็นเทรนด์ขาขึ้น แต่ในระยะกลางยังคงมีแนวโน้มขาลงกดดัน โดยเฉพาะที่แนวต้าน 2,660 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่ามีนัยสำคัญ หากเกิดแรงเทขายหนักที่บริเวณนี้ทองคำอาจปรับตัวลงต่อได้ ดังนั้น แนะนำให้ผู้ที่ได้กำไรมาจากการช้อนซื้อด้านล่างแบ่งขายทำกำไรบางส่วนก่อน โดยให้แนวต้านที่ 2,660 ดอลลาร์ หรือ43,500 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 2,635 ดอลลาร์ หรือ43,200 บาท

ทาง YLG Bullion ระบุว่า

วานนี้ราคาปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากวันนี้ราคายังสามารถทรงตัวรักษาระดับไว้ได้ จะทำให้มุมมองเชิงบวกเพิ่มขึ้น
แนะนำเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรระยะสั้น หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับ 2,637-2,618 ดอลลาร์ เพื่อรอทยอยปิดสถานะซื้อทำกำไร หากราคาปรับตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 2,675-2,693 ดอลลาร์ สถานะซื้อตัดขาดทุน หากราคาหลุดแนวรับ 2,618 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ MTS Gold มองว่า

ราคาทองคํามีสัญญาณการขึ้นมาทดสอบ แนวต้านระยะสั้นที่บริเวณ 2,655 ดอลลาร์ หากสามารถยืนได้จะเป็นสัญญาณที่ดีต่อราคาทองคํา ที่มีโอกาสจะปรับตัวขึ้นได้ต่อ

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมยังคงเคลื่อนตัวแบบปรับฐานยังคงต้องระมัด ระวังแรงขาย โดยมีกรอบแนวรับ 2,630 ดอลลาร์ และมีแนวต้านที่ 2,675 ดอลลาร์ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 43,300 บาท และมีแนวต้านที่ 43,700 บาท/บาททองคํา

รับชมคลิป

- Advertisement -