สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 19 พ.ย.67
gold spot กลับมาทดสอบ $2,625 ทั่วโลกจับตาสถานการณ์“รัสเซีย-ยูเครน” ใกล้ชิด ส่วนทองไทยเปิดตลาดบวกแรงแตะ 43,000 บาท
ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
ราคาทองคำไทยวันนี้ (19 พ.ย.) เคลื่อนไหวผันผวนแต่เช้า โดยหลังจากที่ สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันเพิ่มขึ้น 150 บาท
ก่อนอีกครึ่งชั่วโมงถัดมาจะปรับขึ้นอีก 50 บาทอีก 2 ครั้ง ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.00 น. อยู่ที่ 43,000 บาท ส่วนราคารับซื้อ 42,900 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 43,500 บาท ส่วนราคารับซื้อ 42,129.64บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 34.66 บาทต่อดอลลาร์
โดย SCT Gold มองว่า
ราคาทองคำไทยเห็นการฟื้นตัวขึ้น โดยมีแนวรับสำคัญที่ 42,600 บาท หากหลุดระดับนี้มีแนวโน้มจะลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 42,400 บาท ด้านแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 43,200 และ 43,400 บาท หากทะลุแนวต้านแรกได้ อาจเป็นสัญญาณเชิงบวกในระยะสั้น
นักลงทุนคาดการณ์ว่านโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะกระตุ้นเงินเฟ้อและส่งผลให้เฟดชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ถ้อยแถลงของประธานเฟด ก็ได้ทำให้นักลงทุนลดน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธ.ค.
ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ ( 18 พ.ย.) กลับมาดีดตัวแรงบวกเพิ่มขึ้น 45 ดอลลาร์ ขึ้นแตะจุดสูงสุดที่จุดสูงสุด 2,615 ดอลลาร์
โดยราคาทองคำปรับตัวในแดนบวกตลอดทั้งวัน ส่วนหนึ่งจากแรงซื้อทางเทคนิค หลังราคาสามารถผ่านจุดสูงสุดของวันก่อนหน้าได้ และยังทำให้ในช่วงเช้าวันนี้ราคาได้กลับมาทดสอบแนว 2,625 ดอลลาร์
นอกจากนั้นราคาทองคำยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยปรับตัวลง 0.38% แตะที่ระดับ 106.276 นอกจากนั้นยังได้แรงหนุนจากความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสัญญาณที่บ่งชี้ว่าสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังมีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ได้อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธพิสัยไกลโจมตีเข้ามาในรัสเซียได้ โดยให้เหตุว่า รัสเซียเป็นฝ่ายสุมไฟความขัดแย้งในยูเครน โดยการเสริมทัพด้วยกำลังทหารจากเกาหลีเหนือ
ขณะที่ฝั่งรัสเซียระบุว่า เป็นการตัดสินใจครั้งสุดท้ายก่อนที่วาระรัฐบาลชุดของ โจ ไบเดน จะสิ้นสุดลง และกำลังนำพาประเทศอื่น ๆ ทั้งยุโรป เข้าสู่สถานการณ์ที่ตึงเครียดครั้งใหญ่และมีกระทบอย่างรุนแรง
มุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง YLG Bullion ระบุว่า
มีแรงซื้อเพิ่มขึ้นหลังจากราคาอ่อนตัวลงจำกัด หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 2,604-2,585 ดอลลาร์ได้ อาจมีแรงซื้อระยะสั้นเข้ามาดันให้ราคาฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง
แนะนำรอเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรระยะสั้นหากราคาไม่หลุดแนวรับ โดยสถานะซื้อตัดขาดทุน หากราคาหลุดแนวรับ 2,585 ดอลลาร์ รอปิดสถานะซื้อทำกำไร หากการดีดตัวขึ้นไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวต้าน 2,633-2,649 ดอลลาร์
ขณะที่ Ausiris มองในทางเทคนิคว่า
ราคาทองคำ gold spot ในกราฟรายวันกลับมายืนเหนือบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน แถว 2,558 ดอลลาร์ได้ และมีแรงซื้อกลับมาในตลาดจำนวนมากหลังราคาทองคำ gold spot เข้าเขต oversold ใน RSI อินดิเคเตอร์ ทำให้มีแนวโน้มรีบาวน์ระยะสั้นโดยมีเป้าหมายถัดไปแถว 2,617-2,635 ดอลลาร์ ขณะที่กราฟราย 4 ชั่วโมงทองโลกมีโอกาสขี้นไปทดสอบกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยทั้งหลายแถว 2,617-2,650 ดอลลาร์ ฝั่งย่อซื้อได้เปรียบตลาด
ทั้งนี้ Ausiris ให้แนวรับ 2,610 และ 2,600 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,623 แล 2,635 ดอลลาร์
ด้าน ARR Goldtrading ระบุว่า
ราคาทองได้แรงหนุนจากรายงานระงับการผลิตน้ำมันนอร์เวย์ และการลดกำลังการผลิตในตะวันออกกลางซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นและเพิ่มเงินเฟ้อ ประกอบกับสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น จึงทำให้เกิดการเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง นักลงทุนพิจารณาหาจังหวะเข้าเก็งกำไรระยะสั้น
โดยให้แนวรับที่ 2,600/2,590 และ 2,580 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,620/2,630 และ 2,640 ดอลลาร์
ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศไทยถูกกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า พิจารณาทยอยขายทำกำไรที่ระดับราคา 42,900-43,000 บาท
ปิดท้ายที่ GCAP Gold
แนะรอซื้อที่ 2,607 ดอลลาร์ โดยให้แนวรับที่ 2,607/2,602 และ 2,597 ดอลลาร์ มีจุด stoploss ที่ 2,595 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,625/2,630 และ 2,635 ดอลลาร์
รับชมคลิป
Comments are closed.