ทองคำยังพักตัวต่อรอแรงหนุนใหม่ หลัง FED คงดบ.แต่มองศก.แย่-เงินเฟ้อดีด ตอ.กลางยังระอุ อิหร่านปัดขอ้เสนอสหรัฐ

มาดูภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำไทย เปิดตลาดเช้านี้( 19 มิ.ย.) สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกบวกเพิ่ม 150 บาท

ก่อนอีก 1 ชั่วโมงถัดมา จะปรับขึ้น-ลง ครั้ง 50 บาท ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.00 น. อยู่ที่ 52,350 บาท ส่วนราคารับซื้อ 52,250 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 53,150 บาท ส่วนราคารับซื้อ 51,210.48 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 32.75 บาทต่อดอลลาร์

ด้าน ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

ราคาทองคำในประเทศมีการไต่ระดับขึ้นจากปัจจัยภายในประเทศ ซึ่งมีแนวโน้มส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง จึงแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับ รอเข้าซื้อจากแนวรับที่ 52,000 บาท โดยมีเป้าทำกำไรที่ 52,500 บาท และตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับที่ 51,700 บาทลงไป

ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot เมื่อวานนี้( 18 มิ.ย.) ปิดลบ 18ดอลลาร์ โดยได้รับแรงกดดันหลังเฟด คงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนมิ.ย. ตามคาด

ส่วน Dot Plot สะท้อนเฟดเตรียมลดดอกเบี้ย 2 ครั้งนปีนี้ เท่ากับการคาดการณ์เดิม โดยปรับลดลงครั้งละ 0.25% รวม 0.50% อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2569 ลง 0.25% เพียง 1 ครั้ง และปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2570 ลง 0.25% เพียง 1 ครั้ง

อย่างไรก็ดีราคาทองคำจะได้รับแรงหนุนหลัง Economic Projections ที่บ่งชี้ว่า เฟดมองเศรษฐกิจสหรัฐจะแย่ลง โดยปรับลด GDPลงสู่ระดับ 1.4% จากคาดการณ์เดิมที่ระดับ 1.7%, ปรับเพิ่มอัตราการว่างงาน นอกจากนั้นยังคาดการณ์เงินเฟ้อในปีนี้ จะสูงขึ้นสู่ระดับ 3.1% จากคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.8%

ส่วน ปธ.เฟด มองว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นอย่างมากในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากผลกระทบจากภาษีศุลกากรของ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ เราต้องการรอเวลาอีกสองสามเดือนหรือนานกว่านั้น เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่าเงินเฟ้อจะเป็นอย่างไร ก่อนที่จะตัดสินใจปรับนโยบายการเงิน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวหนุนดอลลาร์และกดดันราคาทองคำ

อย่างไรก็ดี ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางยังคงเพิ่มสูงขึ้น หลัง อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องของปธน.ทรัมป์ที่ต้องการให้อิหร่านยอมจำนนอย่างไม่มีเงื่อนไข

ขณะที่ ปธน.ทรัมป์ ยังไม่ระบุว่าสหรัฐ จะเข้าร่วมกับอิสราเอลโจมตีฐานนิวเคลียร์และขีปนาวุธของอิหร่านหรือไม่ ท่ามกลางการโจมตีทางอากาศที่ยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งประเด็นความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ยังช่วยสกัดช่วงติดลบทองคำ

มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในประเทศ ทาง Shining Gold มองว่า

ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาโทนข่าวในตะวันออกกลางหนุนราคาทองคำในเชิงบวกมากขึ้น เช่น ปธน.ทรัมป์ขู่ผ่านโซเชียลให้อิหร่านยอมสละอำนาจ มิเช่นนั้นผู้นำสูงสุดก็อาจไม่ปลอดภัย ขณะที่การประชุม G 7 ก็ยังหนุนอิสราเอลด้วยซ้ำ แต่ราคาทองคำก็ไม่สามารถปรับตัวขึ้นดีดทะลุแนวต้านโดยเฉพาะ 3,400 ดอลลาร์ได้ จึงควรระมัดระวังรอบพักฐานอย่างยิ่ง หากข่าวมีจังหวะทุเลาในระยะสั้น

กลยุทธ์การลงทุนรอราคาย่อตัวให้ Open Long ที่ 3,350 และ3,330-25 ดอลลาร์ เผื่อถัวเฉลี่ยอีกจุดหากจำเป็นที่ 3,275 ดอลลาร์ มีจุด Stoploss ที่ 3,260 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 3,380/3,389 และ 3,408 ดอลลาร์

ขณะที่ YLG Bullion มองว่า

แม้การพักตัวของราคาทองคำ gold spot ยังไม่หลุด 3,360 ดอลลาร์ทำให้ยังมีโอกาสเป็นการพักตัวเพื่อขึ้นต่อ แต่ภาพรวมยังไม่แน่นอน วันนี้หากการดีดตัวไม่ผ่าน 3,388-3,400 ดอลลาร์อาจเป็นการดีดเพื่อลง เนื่องจากยังมีสัญญาณ Hidden Bearish Divergence กดดันราคาอยู่เช่นเดิม และหากราคาหลุดแนวรับสำคัญที่ 3,360 ดอลลาร์ จะกลับมามีมุมมองเชิงลบต่อราคา

สำหรับกลยุทธ์ ขายทำกำไรสถานะซื้อหากราคาดีดไม่ผ่าน 3,388-3,400 ดอลลาร์ หาก ผ่านไปได้ให้ชะลอการขายไปที่แนวต้านถัดไป การเข้าสถานะใหม่อาจรอดูจังหวะเสี่ยงซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุด 3,360ดอลลาร์ ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด 3,360ดอลลาร์

ด้าน GCAP Gold มองว่า

ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบใกล้ 3,380–3,390 ดอลลาร์ โดยยังอยู่ในโครงสร้างขาลงหลังเกิดสัญญาณที่ยืนยันการเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา แม้จะมีสัญญาณ divergence จาก MACD บ่งชี้แรงขายเริ่มอ่อนตัว แต่ราคายังไม่สามารถผ่านแนวต้านด้านบนได้อย่างชัดเจน แสดงถึงแรงขายที่ยังคงกดดัน ขณะที่ RSI เคลื่อนไหวใกล้โซนกลาง สะท้อนภาวะไร้ทิศทางที่ชัดเจน

หากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 3,361 ดอลลาร์ จะยืนยันขาลงระยะถัดไป แต่หากดีดกลับและทะลุเหนือ 3,390 ดอลลาร์ได้ อาจมีแรงรีบาวด์ระยะสั้นก่อนกลับมาเลือกทิศทางอีกครั้ง ทั้งนี้ให้แนวต้านที่ 3,397 / 3,403 และ 3,409 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 3,365 / 3,359 และ 3,363 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

ให้แนวรับรายวันที่ 3,362 และ3,350 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 3,387 และ 3,412 ดอลลาร์

รับชมคลิป