Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 18 ต.ค.67 GoldAround

- Advertisement -

894

- Advertisement -

สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 18 ต.ค.67

ราคาทองคำร้อนแรงไม่หยุด gold spot ทะลุ $2,700 ทำ ATH $2,711 ทองไทย พุ่งทำ ATH ที่ 42,350 บาท

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

ราคาทองคำไทย โดยสมาคมค้าทองคำประกาศราคาแรกวันนี้ ( 18 ต.ค.) เพิ่มขึ้น 200 บาท

ก่อนอีกครึ่งชั่วโมงถัดมาจะปรับเพิ่มอีก 50 บาท ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 09.45 น.อยู่ที่ 42,350 บาท ส่วนราคารับซื้อ 42,250 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 42,850 บาท ส่วนราคารับซื้อ 41,492.92 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.10 บาทต่อดอลลาร์

- Advertisement -

ทั้งนี้ SCT Gold มองว่า

ราคาทองคำไทยได้ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจากโซนแนวรับที่สำคัญบริเวณ 41,900 บาท และสามารถกลับมายืนเหนือโซนแนวรับที่ 42,000 บาทได้สำเร็จ ซึ่งเป็นจุดที่น่าจับตามองในระยะสั้น

ราคาทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยมีแนวต้านที่บริเวณ 42,300 บาท และแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 42,500 บาท ซึ่งอาจเป็นจุดที่ราคาทองจะเผชิญแรงขายทำกำไร หากไม่สามารถทะลุแนวต้านนี้ได้อย่างชัดเจนราคาอาจจะเคลื่อนที่เป็นเเนวโน้มออกข้าง (Sideway)

สำหรับกลยุทธ์การซื้อขายในระยะสั้นควรจับตาแนวรับสำคัญที่ 42,000 บาท หากราคาทองยืนเหนือแนวรับนี้ได้ต่อเนื่อง มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 42,400 บาท ขณะที่การหลุดแนวรับนี้อาจเป็นสัญญาณการปรับฐาน โดยแนวรับถัดไปที่สำคัญอยู่ที่บริเวณ 41,900 บาท

ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ ( 17 ต.ค.) ทำ จุดสุงสุดใหม่ All Time High (ATH) ที่ 2,696 ดอลลาร์ ปรับเพิ่มขึ้นมา 18 ดอลลาร์ ก่อนที่ช่วงเช้าวันนี้ ทำ ATH อีกรอบ โดยราคาได้ทะลุ 2,700 ดอลลาร์ แตะจุดสูงสุดที่ 2,712 ดอลลาร์ (ณ เวลา 09.45 น.)

- Advertisement -

ทั้งนี้ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ปรับขึ้นมาร่วม 70 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตะวันออกกลางขยายวงกว้าง รวมทั้งความไม่แน่นอนต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย.

นอกจากนั้นได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินทั้งในเดือน พ.ย.และ ธ.ค. โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 92.1% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมเดือน พ.ย. รวมทั้งให้น้ำหนัก 84.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือน ธ.ค.

อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้ปัจจัยลบต่อราคาทองคำก็คือยอดค้าปลีกเดือน ก.ย. ที่ออกมาดีเกินคาด ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามคาดการณ์ของตลาด ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งที่ 3 ของปี หลังเริ่มลดครั้งแรกในเดือนมิถุนายน แต่ปัจจัยทั้งหมดยังไม่สามารถหยุดยั้งความร้อนแรงของราคาทองคำได้

มุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง Shining Gold  มองว่า

ราคาทองคำ gold spot ยังคงซึมขึ้นสร้างสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องตามการปิดกราฟรายสัปดาห์ 2 แท่งก่อนหน้าที่เป็นตระกูล Doji พร้อมปรับความตึงตัวของ Indicators เพื่อเปิดทางให้สัปดาห์นี้สามารถปรับตัวขึ้นต่อ โดยที่ไม่เกิดสัญญาณ Bearish Divergence คือ ลดความเสี่ยงต่อการพักฐานรุนแรงลงได้

หากวันนี้ราคายังสามารถรักษาแนวฐานเหนือ 2,670 ดอลลาร์ หรือสูงกว่านั้นได้อีก ก็จะถือเป็นสัญญาณเชิงบวกที่ยังคงส่งต่อไปถึงสัปดาห์หน้า แต่จะบวกมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการปิดราคาของกราฟรายสัปดาห์เป็นสำคัญ

เพราะนอกจากปัจจัยทางเทคนิคที่ต้องเผชิญในสัปดาห์หน้าแล้ว ก็ยังคงมีแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าต่อเนื่องที่ส่งผ่านมาจากช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งสหรัฐฯ และจะเริ่มมีอิทธิพลต่อทองคำมากขึ้นแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้

กลยุทธ์การลงทุนเหมาะสำหรับท่านที่รับความเสี่ยงได้สูงและเคร่งครัดตามกติกาได้ รอราคาย่อตัว ให้ Open Long ที่ 2,692-2,688 และ 2,676 ดอลลาร์ มีจุด SLที่ 2,670 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,700/2,706 และ 2,713 ดอลลาร์

ขณะที่ InterGOLD มองว่า

ราคาทองคำ gold spot ทำจุดสูงสุดใหม่ (ATH) หลังทะลุแนวต้านเดิมบริเวณ 2,685 ดอลลาร์ ขึ้นต่อเนื่องมาจนมาแตะแถว 2,710 ดอลลาร์ ทำให้ขณะนี้ราคาไม่มีแนวต้านเนื่องจากเป็นจุดสูงสุดใหม่

อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นมีสัญญาณ Bearish Divergence ซึ่งอาจเกิดการย่อตัว นักลงทุนที่ต้องการซื้อเพิ่มควรรอซื้อเมื่อราคาย่อตัว โดยให้แนวรับแถว 2,685 ดอลลาร์ หรือ 42,000 บาท

ด้าน ARR Goldtrading มองว่า

ยังไม่มีสัญญาณการกลับตัวที่ชัดเจนถึงแม้ว่ารายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะออกมาแข็งแกร่ง และการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรปล้วนหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

แต่นักลงทุนให้น้ำหนักสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางมากกว่า ราคาทองจึงยังขึ้นไปตามกรอบแนวโน้มเดิม โดยให้แนวรับที่ 2,685/2,680 และ 2,670 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,700/2,710 และ 2,720 ดอลลาร์

ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศไทยจะได้แรงหนุนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า นักลงทุนพิจารณาทยอยขายทำกำไรที่ระดับราคา 42,600 – 42,700 บาท

ปิดท้ายที่ GCAP Gold

แนะรอซื้อ 2,685 ดอลลาร์ มีแนวรับที่ 2,685 /2,680 และ 2,675 ดอลลาร์ มีจุด stoploss ที่ 2,670 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,704 /2,709 และ 2,714 ดอลลาร์

รับชมคลิป

- Advertisement -

- Advertisement -

Comments are closed.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More