- Advertisement -

gold spot ยังแรงต่อเช้านี้ทดสอบ $2,700 หลังเงินเฟ้อลด หนุน FED ไม่ชะลอลด ดบ. แต่ทองไทยขยับลดลง หลังเงินบาทแตะ 34.51 บาท

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

ราคาทองคำไทยวันนี้ ( 16 ม.ค.) สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกลดลง 50 บาท

ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 44,050 บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,950 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 44,550 บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,160.52 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 34.51 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทเปิดเช้านี้ แข็งค่าขึ้นจากปิดวันก่อนที่ระดับ 34.69 บาท/ดอลลาร์ โดยแนวโน้มของค่าเงินบาท แม้ว่าจะกลับมาแข็งค่าขึ้นบ้าง

- Advertisement -

ตามรายงานอัตราเงินเฟ้อ (CPI) สหรัฐฯ ที่ออกมาผสมผสาน แต่เงินบาทยังเสี่ยงเผชิญความผันผวน ตามการปรับเปลี่ยนมุมมองของนักลงทุนต่อแนวโน้มดอกเบี้ยบรรดาธนาคารกลางหลัก โดยเฉพาะเฟด ส่วนวันนี้คาดเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.45-34.75 บาท/ดอลลาร์

ต้องขอบคุณบริษัทค้าทองรายใหญ่ของเมืองไทย ที่สนับสนุนการดำเนินงานของ GoldAround เริ่มจาก บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด /,บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด /,บริษัท ออสสิริส จำกัด /,บริษัท ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด /,บริษัท ชายน์นิ่งโกลด์ จิวเวลรี่ จำกัด /,บริษัท ที.ดี.ซี. โกลด์ จำกัด และ บริษัท เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ จำกัด

โดย Shining Gold  ระบุว่า

ราคาทองคำไทยใช้ฐานย่อย 43,750 บาท ทำ Technical Rebound ต่อเนื่องตามราคาทองคำ gold spot โดยขึ้นแตะระดับ 44,000 บาท เพื่อทดสอบแนว 44,200 บาท ซึ่งหากผ่านแนวต้านดังกล่าวได้มีโอกาสลุ้นทดสอบ 44,500 บาท แต่หากผ่านไปไม่ได้ยังคงมีโอกาสทิ้งตัวลงเช่นเดิม

ช่วงจังหวะนี้ยังไม่เหมาะกับการเข้าสะสมใหม่ จะเพียงการรอย่อตัวเข้าซื้อลงทุนสั้นเพียงบางส่วนเพื่อเล่นรอบสั้นๆ เท่านั้น ซึ่งมีความเสี่ยงสูงตามราคาที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ

- Advertisement -

ทั้งนี้ ShiningGold ให้แนวต้าน 44,250 และ 44,500 บาท ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 43,950 และ 43,700-600 บาท

ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ ( 15 ม.ค.) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 2,697 ดอลลาร์ โดยปิดตลาดบวกเพิ่ม 20 ดอลลาร์ ก่อนที่ในช่วงเช้าที่ผ่านมาราคาได้ขึ้นทดสอบระดับ 2,702 ดอลลาร์

ต้องมาดูว่าจะสามารถยืนได้หรือไม่ทั้งนี้ราคาทองคำได้แรงหนุนจากเงินดอลลาร์อ่อนค่า หลังจากตัวเลขดัชนีเงินเฟ้อฝั่งผู้บริโภค หรือ Core CPI ของสหรัฐฯ เมื่อเทียบเป็นรายปีออกมา 3.2% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 3.3% และ เมื่อเทียบเป็นรายเดือน อยู่ที่ 0.2% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ที่ 0.3%

สะท้อนถึงเงินเฟ้อชะลอตัวลง และได้เพิ่มความหวังของนักลงทุนว่าเฟดอาจยังไม่ยุติวงจรการปรับลดดอกเบี้ย ทั้งนี้นักลงทุนคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในปีนี้เพียง 1 ครั้ง ในการประชุม FOMC เดือน มิ.ย. และ จนท.เฟดต่างแสดงความมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวต่อไปได้

คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือน ธ.ค. โดยคาดว่า ยอดค้าปลีกเมื่อเทียบเป็นรายเดือน จะลดลงเหลือ 0.6% จากเดิมอยู่ที่ 0.7 ส่วนตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 210,000 ราย จากเดิมอยู่ที่ 201,000 ราย

มุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย YLG Bullion มองว่า

ราคาทองคำมีการดีดตัวขึ้นแรง แม้ว่าจะมีแรงขายทำกำไรสลับเข้ามาบ้าง แต่หากราคาปรับตัวลงจำกัดจะทำให้มุมมองยัง เคลื่อนไหวในกรอบ Sideway up

แนะนำพิจารณาโซน 2,677-2,659 ดอลลาร์ ในการเปิดสถานะซื้อ ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 2,659 ดอลลาร์

ขณะที่การปิดสถานะซื้อเพื่อทำกำไร รอการปรับตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านโซน 2,709-2,726 ดอลลาร์ ควรวางแผนการลงทุนอย่างรอบครอบ

ขณะที่ T.D.C. Gold มองว่า

ดัชนีราคาผู้บริโภค CPI ของสหรัฐฯ เดือนธ.ค. ที่ประกาศเมื่อคืนนี้ปรับเพิ่มสูงขึ้น สวนทางกับ CoreCPI ที่ขยายตัว 3.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีน้อยกว่าที่คาดการณ์

ส่งผลให้การคาดการณ์เรื่องการลดอกเบี้ยช้าลงเริ่มถูกประเมินใหม่อีกครั้งหนึ่ง ทำให้ Bond Yield เริ่มปรับตัวลดลง

สวนทางกับตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกับตลาดทองคำที่กลับไปทดสอบบริเวณ 2,700 ดอลลาร์ อีกครั้ง ทั้งนี้อิสราเอลและฮามาสได้เจราจาหยุดยิงเป็นที่เรียบร้อยทำให้ปัจจัยบวกทองคำเหลือไม่มากนัก

ด้าน ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

ราคาทองคำ gold spot ปรับตัวขึ้นเข้าทดสอบ 2,700 ดอลลาร์ อีกครั้ง หากผ่านขึ้นไปได้อาจปรับตัวขึ้นได้ต่อ แต่ถ้าผ่านไปไม่ได้อาจมีแรงเทขายออกมาเล็กน้อย อย่างไรก็ตามสัญญาณทางเทคนิคจาก MACD ยังคงเกิด Bullish MACD

แนะนำขายทำกำไรหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 2,700 ดอลลาร์ หากผ่านไปได้แนวต้านถัดไปอยู่ที่ 2,720 ดอลลาร์ การเข้าซื้อรอบใหม่สำหรับการเก็งกำไรระยะสั้น แนะนำเข้าซื้อบริเวณ 2,665 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,650 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ ให้

แนวรับรายวันที่ 2,652 และ 2,680 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 2,721 และ 2,760 ดอลลาร์

รับชมคลิป

- Advertisement -