Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 15 ก.ค.67 GoldAround

- Advertisement -

385

- Advertisement -

สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 15 ก.ค.67

ปัจจัยหนุน gold spot ยังถาโถม ลุ้นจะทะลุ $2,450 ในสัปดาห์นี้ได้หรือไม่ ทองคำไทยเปิดสัปดาห์ใหม่แตะ 41,250 บาท

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

.

รับชมคลิป สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้

- Advertisement -

มาดูราคาทองคำไทยวันนี้ (15 ก.ค.) สมาคมค้าทองคำประกาศราคาแรกเพิ่มขึ้น 100 บาท

ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.00 น. อยู่ที่ 41,250 บาท ส่วนราคารับซื้อ 41,150 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 41,750 บาท ส่วนราคารับซื้อ 40,416.56 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 36.21 บาทต่อดอลลาร์

ด้าน ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

ราคาทองคำแท่งอาจเคลื่อนไหวไม่ไกลมากนักจากบริเวณ 41,000 บาท ทั้งนี้ราคาทองคำแท่งอาจอยู่ในช่วงปรับฐานเพื่อขึ้นต่อ อย่างไรก็ตามสำหรับคนซื้อทองคำไว้เพื่อเก็งกำไรระยะสั้นสามารถใช้กลยุทธ์ Let Profits Run หรือ สามารถเข้าซื้อบริเวณ 40,700 บาท

โดย ฮั่วเซ่งเฮง ให้แนวรับที่ 40,900 และ 40,700 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 41,250 และ 41,350 บาท

- Advertisement -

ส่วนภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมา (8-12 ก.ค.) ปิดเพิ่มขึ้น 19 ดอลลาร์ เป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยราคาขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ จุดสูงสุด 2,424 ดอลลาร์ ก่อนจะมาปิดตลาดที่ 2,410 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด

หลังประธานเฟดระบุการตรึงดอกเบี้ยสูงนานไป จะกระทบต่อเศรษฐกิจและการจ้างงาน ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อ CPI สหรัฐเดือน มิ.ย.ต่ำกว่าคาด แต่ PPI สหรัฐเดือน มิ.ย. สูงเกินคาด

แต่นักลงทุนได้เพิ่มน้ำหนักการคาดการณ์ปรับลดดอกเบี้ยของเฟดครั้งแรกในเดือน ก.ย. เกือบ 90% และเริ่มคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะลดดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งในปีนี้ คือในเดือน ก.ย. ส่วนเดือนพ.ย.ให้น้ำหนัก 57.5% และเดือน ธ.ค.ให้น้ำหนัก 47.6%

ทำให้หลังจากนี้ต้องติดตามข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐอย่างใกล้ว่าจะยังคงออกมาแย่อยู่หรือไม่ โดยในสัปดาห์นี้จะมีตัวเลขยอดค้าปลีกเดือน มิ.ย. และการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด 12 เขต (Beige Book) ส่วนวันนี้รอฟังการแถลงของปธ.เฟด ว่าจะยังมีท่าทีผ่อนคลายเรื่องนโยบายการเงินเหมือนเดิมหรือไม่ หลังจากที่ได้ทราบตัวเลข CPI ที่ปรับลดลงมาแล้ว

มุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในประเทศ ทาง Shining Gold มองว่า

เช้านี้ราคาทองคำ gold spot ย่อตัวลงเล็กน้อยตามการกดตัวของแท่งเทียนในรูปแบบของ Hangman มากกว่าการได้รับอิทธิพลจากปัจจัยพื้นฐาน

หลังจาก โดนัล ทรัมป์ โดนลอบยิงขณะหาเสียงในรัฐเพนซิลเวเนียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าตัวประกาศไม่ยอมให้ความพยายามลอบสังหารทำให้แผนการเข้าร่วมการประชุมแห่งชาติของพรรครีพับลิกันต้องหยุดชะงัก

ทั้งนี้รูปภาพของทรัมป์ผู้ท้าชิง โดยชูกำปั้นขึ้นเหนือศีรษะและหูขวาที่เปื้อนเลือด อาจช่วยเร่งการเสนอชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาได้ โดย Elon Musk และ Bill Ackman ต่างกล่าวว่าพวกเขาสนับสนุน Trump

กลยุทธ์ยังเป็นการย่อตัวเพื่อเข้า Open Long ตามแนวรับ แถว2,387 หรือ 2,373-2,368 ดอลลาร์ เคร่งครัด SL ที่ 2,360 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,414/2,425 และ 2,442 ดอลลาร์

ด้าน Ausiris มองในเชิงเทคนิคว่า

ภาพรวมใหญ่ราคาทองคำ gold spot อยู่ในเทรนด์ขาขึ้น กราฟแท่งเทียนยังเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทั้งหลาย สถานะฝั่งซื้อยังได้เปรียบตลาดโดยมีเป้าหมายถัดไปที่ 2,415-2,425 ดอลลาร์

โดยให้ Ausiris แนวรับราคาทองคำ gold spot ที่ 2,405 และ 2,390 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,415 และ 2,425 ดอลลาร์

ขณะที่ ARR Goldtrading มองว่า

ราคาทองคำ gold spot มีสัญญาณกลับตัวเมื่อทดสอบแนวต้านล่าสุดที่ 2,420 ดอลลาร์ แสดงว่าเป็นแนวต้านที่สำคัญ หากผ่านไปได้ก็มีระยะไม่ไกล นักลงทุนอาจพิจารณารอซื้อที่แนวรับแถว 2,400-2,390-2,385 ดอลลาร์

เพื่อลดความเสี่ยงและตัดขาดทุนหากราคาปรับตัวลงต่ำกว่า 2,380 ดอลลาร์ และขายทำกำไรเมื่อราคาเข้าใกล้แนวต้าน 2,420-2,425-2,430 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ SCT Gold มองในมุมทางกราฟเทคนิค

ตราบใดที่ราคาทองคำ gold spot ยืน 2,400 ดอลลาร์ได้ ให้แนะนำการซื้อหรือย่อซื้อ-ขึ้นขายไปก่อน โดยมีเป้าหมายสั้นที่ 2,430-2,440 ดอลลาร์ จุดหนี 2,390 ดอลลาร์ /กรณีราคาทองคำ gold spot ยืน 2,400 หรือ 2,390 ดอลลาร์ไม่ได้ จะลงไป 2,370/2,360 และ 2,350 ดอลลาร์ตามลำดับ และเข้าโหมดพักฐานต่ออีกรอบ

- Advertisement -

- Advertisement -

Comments are closed.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More