ทองคำฟื้นตัวเล็กน้อยแต่ยังไม่ปลอดภัย คืนนี้รอดูดัชนี CPI คาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนทองไทยยังขยับแนว 44,000 บาท
ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
มาดูราคาทองคำไทยวันนี้ ( 15 ม.ค.) สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกเพิ่มขึ้น 100 บาท
ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 43,950 บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,850 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 44,450 บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,054.40 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 34.78 บาทต่อดอลลาร์
โดย SCT Gold มอง
ในทางเทคนิคว่าราคาทองคำไทย มีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 44,100 และ 44,300 บาท หากราคาสามารถทะลุแนวต้านนี้ได้ มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อไปทดสอบระดับที่สูงกว่า
อย่างไรก็ตาม หากราคาปรับตัวลงต่ำกว่าแนวรับที่ระดับ 43,600 หรือ 43,500 บาท อาจส่งสัญญาณการอ่อนตัวและปรับฐานต่อไป
ในด้านปัจจัยพื้นฐานราคาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ซึ่งมีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ
ตามการคาดการณ์เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงไม่แน่นอนและความตึงเครียดในภูมิภาคต่าง ๆ ยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนการลงทุนในทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ ( 14 ม.ค.) กลับมาปิดตลาดบวก 13 ดอลลาร์ แต่ราคาไม่ได้สร้างจุดสูงสุดใหม่จากวันก่อนหน้า แต่ได้ยกโลว์ขึ้นมา ทำให้ยังคงต้องรอดูสถานการณ์ และยังต้องรอดูการประกาศตัวเลขดัชนี CPI ในคืนนี้
ทั้งนี้ราคาทองคำได้แรงหนุนจากเงินดอลลาร์อ่อนค่า และการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ปรับตัวขึ้น 3.3%ต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 3.5% หลังจากปรับตัวขึ้น 3.0% ในเดือนพ.ย.
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี เพิ่มขึ้น 3.5% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.8% หลังจากปรับตัวขึ้น 3.5% ในเดือนพ.ย.
ส่วนการคาดการณ์ ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เดือนธ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี คาดว่าจะปรับตัวขึ้น 2.9% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนพ.ย. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เมื่อเทียบรายปี คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.3% ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนพ.ย.
มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย Shining Gold ระบุว่า
มาตรวัดเงินเฟ้อสหรัฐฯ ของฝั่งผู้ผลิตประกาศออกมา แสดงว่าช่วงปลายปีที่ผ่านมาเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย จึงเป็นเหตุให้วานนี้ทองคำรีบาวน์ก่อนประกาศดัชนี PPI โดยขึ้นไปแตะ 2,675 ดอลลาร์ ก่อนจะทิ้งตัวลงมาแตะเพียง 2,660 ดอลลาร์ และเด้งกลับมาบริเวณ 2,677 ดอลลาร์
คืนนี้มีการประกาศตัวเลขมาตรวัดเงินเฟ้อฝั่งผู้บริโภค หากเป็นไปตามคาดถือว่าให้ผลลบต่อราคาทองคำเล็กน้อย
กลยุทธ์การลงทุน รอราคารีบาวน์ ให้ Open Short ที่ 2,680-82 และ2,689 ดอลลาร์ มีจุดSLที่ 2,693 ดอลลาร์ ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 2,666/2,660 และ2,651 ดอลลาร์
ขณะที่ T.D.C. Gold มองว่า
Bond Yield อายุ 10 ปีของสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นแตะ 4.8% ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบปี จากการคาดการณ์เรื่องดอกเบี้ยที่จะลงช้ากว่าที่คาดประกอบกับ นโยบายของ ปธน.ทรัมป์ ที่จะทำให้มีการขาดดุลการคลังจนรัฐบาลมีความต้องการเงินทุนมากขึ้น
ทั้งนี้ราคาทองคำยังทรงตัว ไม่ได้ปรับตัวลดลงตามการคาดการณ์เรื่องการลดดอกเบี้ยช้ากว่าเดิมเท่าไรนัก
ด้าน YLG Bullion มองว่า
ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway up วานนี้ราคาไม่มีการสร้างระดับต่ำสุดใหม่จากวันก่อนหน้า
แนะนำหาจังหวะเปิดสถานะซื้อบริเวณ 2,659-2,652 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากหลุด 2,652 ดอลลาร์ เมื่อราคามีการปรับตัวขึ้น จะมีแนวต้านบริเวณ 2,684-2,705 ดอลลาร์หากยืนไม่ได้แนะนำแบ่งปิดสถานะซื้อเพื่อทำกำไร
ปิดท้ายที่ ARR Goldtrading มองว่า
การเคลื่อนไหวของราคาทองคำเริ่มมีลักษณะของการเคลื่อนตัวออกไปทางด้านข้างในระยะสั้น ประกอบกับราคายังยืนเหนือเส้นแนวโน้มขาขึ้นหลัก จึงสามารถเก็งกำไรระยะสั้นได้
โดยนักลงทุนพิจารณาแบ่งเงินเป็นหลายส่วนรอเข้าซื้อตามแนวรับ 2,665 / 2,660 และ 2,650 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาปรับฐานลงต่ำกว่า 2,650 ดอลลาร์ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวถึงบริเวณแนวต้าน 2,680 /2,685 และ 2,690 ดอลลาร์
รับชมคลิป
Comments are closed.