สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 14 ส.ค.67
gold spot ยังวิ่งไม่ทะลุ $2,476 คืนนี้รอดู CPI จะมีแรงส่งทำ ATH หรือไม่ ส่วนทองไทยถอยหลังเงินบาทหลุด 35 บาท
ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
.
รับชมคลิป สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้
ราคาทองคำไทยวันนี้เคลื่อนไหวผันผวนตั้งแต่เช้า โดยราคาที่ประกาศโดย สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวัน ( 14 ส.ค.) ลดลง 100 บาท
ก่อนจะปรับราคาขึ้น-ลง ครั้งละ 50 บาท อย่างละครั้ง ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.00 น. อยู่ที่ 40,750 บาท ส่วนราคารับซื้อ 40,650 บาท
ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 41,250 บาท ส่วนราคารับซื้อ39,916.28 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 34.98 บาทต่อดอลลาร์
ทั้งนี้เงินบาทได้ทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่คืนที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวลดลงต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ และบอนด์ยีลด์ 10 ปี หลังจากดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ เดือนก.ค.ชะลอลงสู่ระดับ 2.2% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์
สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI เดือนกรกฎาคม ของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไป และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน จะชะลอลงต่อเนื่อง ทำให้เฟดคลายกังวลต่อปัญหาเงินเฟ้อ และเพิ่มโอกาสที่เฟดจะสามารถลดดอกเบี้ยได้มากขึ้น
ส่วนฝั่งไทยตลาดรอลุ้นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในคดีถอดถอนนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะทยอยรับรู้ในช่วง เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป โดยให้ระวังความผันผวนในตลาดการเงิน หากตลาดกังวลต่อสถานการณ์ความไม่แน่นอนของการเมืองไทยมากขึ้น โดยวันนี้คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 34.85-35.25 บาท/ดอลลาร์
ด้าน SCT Gold มองว่า
ราคาทองคำไทยในช่วงนี้กำลังเคลื่อนไหวในกรอบที่ค่อนข้างผันผวน โดยปัจจุบันราคายังไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 41,100 บาทได้ และเริ่มมีการปรับตัวลงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่ 40,800 บาท ซึ่งเป็นระดับที่ควรจับตาอย่างใกล้ชิด
หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับที่ 40,800 บาทได้อย่างแข็งแกร่ง มีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 41,300 บาท อย่างไรก็ตามหากราคาหลุดแนวรับนี้ อาจเห็นการปรับฐานลงมาที่แนวรับถัดไปที่ 40,500 บาท โดยให้แนวรับที่ 40,700 และ 40,400 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 41,200 และ 41,500 บาท
การเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot เมื่อวานนี้ ( 13 ส.ค.) ปิดปรับตัวลดลงไป 5 ดอลลาร์ แม้ในช่วงค่ำราคาทองคำ gold spot ปรับตัวขึ้นหลังการประกาศดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เดือน ก.ค. ปรับตัวขึ้น 2.2% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.3% จากระดับ 2.7% ในเดือน มิ.ย.
ส่วนดัชนี Core PPI ไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.7% จากระดับ 3.0% ในเดือน มิ.ย. ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าในการประกาศดอกเบี้ยครั้งถัดไปในการประชุม FOMC เดือนกันยายน เฟดน่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยอย่างแน่นอนแต่จะลด 0.25% หรือ 0.50%
เมื่อไปดูเครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 55% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับต่ำกว่า 50% ก่อนที่จะมีการเปิดเผยดัชนี PPI
นอกจากนั้นราคาทองคำยังได้แรงหนุนจาก การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ลดลง 0.56% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ อายุ 10 ปี ลดลงสู่ระดับ 3.862%
แต่ในช่วงท้ายการซื้อขายมีการเทขายทองคำออกมาทำให้มาปิดตลาดที่ 2,465 ดอลลาร์ ส่วนในช่วงเช้าที่ผ่านมาราคาพยายามกลับขึ้นไปทดสอบ 2,472 ดอลลาร์ ก่อนจะอ่อนตัวลงมาเคลื่อนไหวแนว 2,460 ดอลลาร์
ส่วนในช่วงค่ำวันนี้ต้องติดตามการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือน ก.ค. อย่างใกล้ชิด นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI จะเพิ่มขึ้น 3.0% เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 3.0% ในเดือน มิ.ย. และคาดว่าดัชนี Core CPI ไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เดือน ก.ค.จะเพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.3% ในเดือน มิ.ย.
ทั้งนี้ Shining Gold มองว่า
Bloomberg คาดการณ์ว่า CPI จะออกมาเท่าเดิมคือ 3.0% แต่ Core CPI YoY จะลดลงจาก 3.3% เป็น 3.2% ถ้าตัวเลขประกาศจริงเป็นไปตามคาดก็ถือว่าให้ผลเชิงบวกต่อราคาทองคำ
แต่ถ้าออกมาต่ำกว่าคาดการณ์และทำให้ราคาทองคำสามารถ Break ระดับ 2,479 ดอลลาร์ ก็จะถือเป็นการส่งไม้ต่อให้เทคนิคจากมีแรงซื้อเข้ามาอีกระลอกหนึ่ง
กลยุทธ์การลงทุน รอราคาย่อตัวให้ Open Long ที่ 2,458-55 ดอลลาร์ มีจุด SLที่ 2,444 ดอลลาร์ เพราะหากหลุดแนวดังกล่าวควรถอยแนวรับให้ลึกขึ้น ในกรณีที่มีปัจจัยที่ทำให้ราคา Break ระดับ 2,479 ดอลลาร์ แนะนำ Follow Buy โดยมีจุด SLที่ 2,463 ดอลลาร์ โดยแนวต้านจะอยู่ที่ 2,475-2,479/2,490 และ 2,497 ดอลลาร์
ด้าน T.D.C. Gold ระบุว่า
ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ เดือน ก.ค. ขยายตัว 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และ 2.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี น้อยกว่าเดือนก่อนก่อนหน้าและน้อยกว่า คาดการณ์ค่อนข้างมาก ทำให้ตลาดติดตามว่าการลดดอกเบี้ยของ Fed ในเดือนหน้า จะลด 0.25%หรือ 0.50%
แต่ทั้งนี้ราคาทองคำกลับทรงตัว เนื่องจากการลดดอกเบี้ยที่เร็วเกินไป จะทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าและเงินเยนแข็งค่าจนนำไปสู่การ Unwind Carry Trade ต่อ ถึงแม้จะลดลงแล้ว แต่ก็ยังมีสถานะเหลืออยู่
ขณะที่ Ausiris
มองภาพทางเทคนิคว่า ระยะสั้นราคากลับมาเป็นขาขึ้นหลังกราฟแท่งเทียนฝ่าแนวต้านบริเวณ 2,460 ดอลลาร์ทำให้สถานะฝั่งซื้อกลับมาได้เปรียบตลาด โดยมีเป้าหมายที่ 2,477-2,483 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นขาราคาทองอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดสัญญาณ Overbought ในกราฟราย 4 ชั่วโมง ทำให้ราคาทองคำมีโอกาสย่อตัวลงมาก่อน
Ausiris แนะให้ขายออกมาก่อนหากยังไม่ผ่านโซนแนวต้าน 2,477-2,483 ดอลลาร์ แล้วรอซื้อกลับ แต่หากผ่านโซนดังกล่าวได้ เพื่อลุ้นจุดสูงสุดใหม่ในประวัติศาสตร์ใหม่อีกครั้ง
ปิดท้ายที่ ARR Goldtrading มองว่า
ราคาทองคำเริ่มตึงตัวหลังตอบรับประเด็นข่าวส่วนใหญ่ไปแล้วทั้งความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) นักลงทุนส่วนใหญ่จึงหันมาสนใจการเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งจะบ่งชี้ระดับเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในคืนนี้
โดย ARR Goldtrading ให้แนวรับที่ 2,460/2,450 และ 2,445 ดอลลาร์ แนวต้านที่ 2,475/2,480 และ 2,485 ดอลลาร์
ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศไทยได้รับแรงฉุดจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า นักลงทุนพิจารณาซื้อสะสมหากมีการอ่อนตัวสู่ระดับราคา 40,600-40,500 บาท เพื่อรอขายทำกำไรระยะสั้น
Comments are closed.