Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 11 ต.ค.67 GoldAround

- Advertisement -

641

- Advertisement -

สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 11 ต.ค.67

gold spot ฟื้นกลับมาปิดตลาดในแดนบวก จับตาจะยืน $2,650 ได้หรือไม่ ทองไทยปักหลัก 41,500 บาท รอดูสถานการณ์

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

ราคาทองคำไทยผัวผวนตั้งแต่เช้า โดย สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกวันนี้ ( 11 ต.ค.) เท่ากับราคาปิดเมื่อวานนี้

ก่อนอีกครึ่งชั่วโมงถัดมาจะประกาศลดลง 50 บาทและ ขึ้น 50 บาท อย่างละครั้ง ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 41,600 บาท ส่วนราคารับซื้อ 41,500 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 42,100 บาท ส่วนราคารับซื้อ 40,750.08 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.28 บาทต่อดอลลาร์

- Advertisement -

เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้แข็งค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.58 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักนั้นเคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทาง หลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ออกมาแบบผสมผสาน ส่วนวันนี้คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.30 – 33.55 บาทต่อดอลลาร์

ทั้งนี้ SCT Gold มองว่า

ในทางเทคนิคราคาทองคำไทยยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ โดยมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 41,500 บาท ซึ่งหากราคาสามารถทะลุผ่านระดับนี้ไปได้ อาจจะเห็นราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 42,000 บาท ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญถัดไป

อย่างไรก็ตาม หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้และปรับตัวลงมา แนวรับสำคัญอยู่ที่ 41,300 บาท ซึ่งถือเป็นจุดที่จะต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด หากราคาหลุดจากแนวรับนี้ อาจจะเห็นราคาปรับตัวลงไปที่ 41,200 บาท ซึ่งเป็นแนวรับที่ต่ำกว่า

ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot เมื่อวานนี้ ( 10 ต.ค.) กลับมาปิดตลาดในแดนบวกได้ โดยเพิ่มขึ้น 23 ดอลลาร์ และขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดที่ 2,631 ดอลลาร์

- Advertisement -

ขณะที่ในช่วงงเช้าวันนี้ราคาได้ขึ้นมาทดสอบ 2,640 ดอลลาร์ ต้องมาดูว่าจะสามารถยืนเหนือแนวดังกล่าวหรือไม่

ราคาทองคำ gold spot ฟื้นตัวขึ้นหลังดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.3% และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 0.2% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1%

ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 33,000 ราย เป็น 258,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค. 2566 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 230,000 ราย

หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อและข้อมูลแรงงานดังกล่าว ยิ่งเป็นการหนุนการคาดการณ์ว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือน พ.ย.โดยดูจาก FedWatchTool ระบุว่า นักลงทุนให้น้ำหนักถึง 80%

ส่วนวันนี้นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ เพื่อหาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% จากเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน

ขณะที่ปัญหาความขัดแย้งนตะวันออกกลาง ล่าสุดคณะรัฐมนตรีความมั่นคงของอิสราเอลมีการประชุมเพื่อโหวตเรื่องแผนตอบโต้อิหร่าน ซึ่งสร้างความตึงเครียดในตะวันออกลางเพิ่มมากขึ้น

มุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทยทาง Shining Gold มองว่า

วานนี้ตัวเลข CPI เมื่อเทียบเป็นรายปี ประกาศจริงออกมามากกว่าคาดการณ์ แต่ไม่ได้มากกว่ารอบที่แล้ว ทำให้ราคาทองคำหลีกหนีแนวฐานของ Downtrend Channel ที่ 2,602 ดอลลาร์ขึ้นมาได้ก็จริง แต่ก็ยังเกาะขอบบริเวณแนวกึ่งกลางของ Downtrend Channel

การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในระยะต่อไปจะอยู่ 2 ลักษณะ คือ 1.ย่อตัวน้อยแล้วปรับตัวขึ้นไปในส่วนอีกครึ่งหลังของ Downtrend Channel คือไปทดสอบ 2,656 และ 2,646 ดอลลาร์ หากผ่านไปได้ก็เตรียมปรับตัวขึ้นต่อ
กับกรณีที่ 2. ในเมื่อตัวเลขก็ออกมาสูงกว่าคาด แต่แค่อาจไม่สูงกว่ารอบที่ผ่านมา ก็รีบาวน์เล็ก ๆ แล้วคืนตลาดลงมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

คืนนี้จะมีการประกาศตัวเลขดัชนี PPI เมื่อเทียบเป็นรายปีของสหรัฐ ทาง Bloomberg คาดจะลดลงจาก 1.7% เป็น 1.6% ขณะที่ Core PPI เมื่อเทียบเป็นรายปี คาดการณ์เชิงลบว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 2.4% เป็น 2.6%

กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น นักลงทุนที่รับความเสี่ยงและลงทุนตามกติกาได้ รอราคาย่อตัว Open Long ที่ 2,627-2,623 และ 2,608 ดอลลาร์ มีจุด SLที่ 2,595 ดอลลาร์ มีแนวต้านที่ 2,639 / 2,646 และ 2,656 ดอลลาร์

ด้าน T.D.C. Gold มองว่า

เมื่อวานนี้ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ขยายตัว 2.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ถึงแม้จะเท่ากับเดือนก่อนหน้า แต่ตลาดประเมินไว้ว่าจะขยายตัวเพียง 2.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่งผลให้ Bond Yield อายุ 10 ปีปรับตัวสูงขึ้นต่อ แต่ราคาทองคำกลับปรับตัวตัวสวนทางขึ้นกลับมาพร้อมกับ Bond Yieldและตลาดหุ้นเช่นกัน

ภาพรวมของราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบถึงปรับตัวลดลงไปอีกสักระยะหนึ่ง ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะหลีกเลี้ยง Soft Landing ในระยะหนึ่งได้

ด้าน InterGOLD ระบุว่า

แม้ว่าตัวเลข CPI จะออกมาแย่กว่าคาดกดดันราคาทองคำในระยะสั้น ๆ แต่สุดท้ายราคาทองคำก็ดีดตัวกลับมา จากที่ตลาดกังวลว่าสงครามในตะวันออกกลางจะทวีความรุนแรง ทำให้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นต่อพร้อมๆ กับราคาทองคำ
แนะนำหาจังหวะแบ่งขายทำกำไรระยะสั้นที่บริเวณแนวต้าน 2,650 และ 2,670 ดอลลาร์ นักลงทุนระยะยาวอาจเริ่มขายบางส่วนที่ 2,700 ดอลลาร์หากสงครามทวีความรุนแรง

คืนนี้หากตัวเลขเงินเฟ้อ PPI ออกมาแย่ อาจทำให้ราคาทองคำย่อตัวได้ แต่ก็คาดว่าไม่น่าหลุด 2,600 ดอลลาร์

ขณะที่ ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

แม้ราคาทองคำจะมีการฟื้นตัวขึ้น แต่ยังต้องจับตาบริเวณแนวต้าน 2,640 ดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าระยะสั้นราคาทองคำอาจยังไม่ผ่านบริเวณดังกล่าว จึงอาจมีแรงเทขายออกมา

ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคจาก MACD ของราคาทองคำใน Timeframe Day ยังคงบ่งชี้การปรับตัวลง แนะนำเปิดสถานะขายบริเวณ2,640 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,650 ดอลลาร์ และ take profit บริเวณ 2,600-2,605 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

ให้แนวรับราคา gold spot ที่ 2,615 และ 2,600-2,590 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 2,635 และ 2,648-2,653 ดอลลาร์

รับชมคลิป

- Advertisement -

- Advertisement -

Comments are closed.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More