Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 10 เม.ย.68 GoldAround

- Advertisement -

106

- Advertisement -

ราคาทองคำฟื้นตัวแรง หลัง“ทรัมป์”เลื่อนเก็บภาษี 90 วัน ยกเว้นจีน gold spot บวก $100 – ทองไทยเพิ่ม 500 บาท

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

ราคาทองคำไทยกลับมาสดใส หลังปรับบวกต่อเนื่องวานนี้บวก 250 บาท และเช้านี้ สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวัน ( 9 เม.ย.) เพิ่มขึ้น 300 บาท

ก่อนที่อีกชั่วโมงถัดมาจะปรับเพิ่มรวม 200 บาท ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.15 น. อยู่ที่ 50,350 บาท ส่วนราคารับซื้อ 50,250 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 51,150 บาท ส่วนราคารับซื้อ 49,345.80 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 34.15 บาทต่อดอลลาร์

โดยเงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ปรับตัวแข็งค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้มากถึง 40 สตางค์ เนื่องจากตลาดคลายความกังวลเรื่องผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้า หลังประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศชะลอการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากทุกประเทศ ออกไปอีก 90 วัน ยกเว้นจีน

- Advertisement -

ทั้งนี้คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.00 – 34.30 บาท/ดอลลาร์

โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

ราคาทองคำในประเทศ กลับมาฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง แต่ยังแนะนำแบ่งขายทำกำไรที่ระดับ 50,500 บาท และแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับ

รอเข้าซื้อสะสมที่ระดับ 48,700 บาท โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่ 50,050 ดอลลาร์ และตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับที่ 48,350 บาทลงไป

ไปดูการเคลื่อนไหวราคาทองคำ gold spot วานนี้ ปิดทะยาน 100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 3.3% โดยขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 3,099 ดอลลาร์ พุ่งขึ้นในวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่ ต.ค.2023 ก่อนที่ช่วงเช้าวันนี้ ยังบวกต่อโดยได้ขึ้นไปทดสอบ 3,120 ดอลลาร์

- Advertisement -

โดยราคาทองคำทะยานขึ้นพร้อมตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังปธน.ทรัมป์ ประกาศระงับการบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ เป็นเวลา 90 วัน และได้แรงหนุนจากแรงซื้อเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย จากการตอบโต้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่เป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 1 และอันดับ 2 ของโลกรุนแรงขึ้น

หลังปธน.ทรัมป์เพิ่มภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากจีน สู่ระดับ 125% จากเดิมที่ระดับ 104% มีผลบังคับใช้ในทันที เพื่อตอบโต้ต่อการที่จีนเพิ่มการเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐ สู่ระดับ 84% จากเดิมที่ระดับ 34% ซึ่งหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่ม

ขณะที่กองทุน SPDR ได้ถือครองทองคำเพิ่ม 11.17 ตัน สะท้อนกระแสเงินทุนไหลเข้าการลงทุน ETF ทองคำ

วันนี้นอกเหนือจากต้องติดตามความคืบหน้าสงครามการค้าแล้ว ต้องติดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจ โดย สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) เดือน มี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปีคาดว่าจะลดลงเหลือ 3.0% จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 3.1% และดัชนีการบริโภคทั่วไป (CPI) เดือน มี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปีคาดว่าจะลดลงเหลือ 2.50% จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 2.8% นอกจากนั้นยังมีการเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้นเป็น 223,000 ราย จะเดิมอยู่ที่ 219,000 ราย

มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง Shining Gold มองว่า

วานนี้สินทรัพย์ทั่วโลกปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรง โดย S&P500 เพิ่มขึ้น 9.5% และ Nasdag เพิ่มขึ้น 12% หลัง ปธน.ทรัมป์ประกาศระงับภาษี 90 วัน สำหรับประเทศผู้ค้าโดยส่วนใหญ่ ส่วนประเทศที่ถูกเก็บอัตราภาษีในระดับสูงจะกลับมาอยู่ที่ฐาน 10% ก่อน

ขณะที่ราคาทองคำก็ได้รับอานิสงค์เชิงบวกจากการที่ ปธน.ทรัมป์โต้กลับการจัดเก็บภาษีจีนจากเดิมที่คาดว่าจะเก็บ 104% ให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 125% หลังที่จีนเพิ่มภาษีโต้กลับสหรัฐ 84% แต่ ปธน.ทรัมป์ ก็ยังใช้คำพูดว่านี่เป็นเวลาที่ควรซื้อสินทรัพย์ครั้งใหญ่ จนตลาดเกิดแรง Panic Buy ตามอย่างรุนแรง

ทั้งนี้การเหวี่ยงตัวของสินทรัพย์ทั่วโลกในช่วงหลายวันที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าตลาดมีความเปราะบางต่อกระแสข่าวอย่างมาก และอาจจะผันผวนสลับไปสลับมาได้อีกตามกระแสข่าวที่อาจเข้ามาใหม่ระหว่างนี้

กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น ยังแนะนำ Wait & See โดยให้แนวต้าน 3,111/3,125 และ3,150 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 3,070/3,030 และ 2,982-78 ดอลลาร์

ด้าน YLG Bullion มองว่า

วันนี้ราคาทองคำมีแนวต้านแรก 3,100-3,105 ดอลลาร์ หากไม่ผ่านอาจพักตัวหลังเริ่มเข้าโซน Overbought แต่ถ้าการพักตัวไม่หลุด 3,022 ดอลลาร์จะมีมุมมองเชิงบวกจะเพิ่มขึ้น โดยมีแนวรับแรกบริเวณ 3,054-3,036 ดอลลาร์ หากราคาหลุด 3,022 ดอลลาร์ แสดงว่าราคายังมีโอกาสปรับตัวลงถึงขยับSideway ออกข้างกรอบกว้าง

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะเข้าซื้อคืนหากราคาย่อไม่หลุด 3,054-3,036ดอลลาร์ ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด 3,022 ดอลลาร์ แบ่งขายหากราคาไม่ผ่าน 3,105 ดอลลาร์ หากผ่าน 3,105 ดอลลาร์ ชะลอขายไปขายหากไม่ผ่าน 3,135-3,167 ดอลลาร์

ขณะที่ InterGOLD มองว่า

หลัง ปธน.ทรัมป์ประกาศเลื่อนการจัดเก็บภาษีออกไปอีก 90 วัน ยกเว้น จีน พร้อมขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนจาก 104% เป็น 125% มีผลบังคับใช้ทันที ก่อนที่จีนจะตอบโต้เก็บภาษีจากสหรัฐฯ ที่ 84% ซึ่งต้องจับตาดูในค่ำคืนนี้ว่า จีนจะปรับขึ้นภาษีอีก 21% เพื่อให้เท่ากับ 105% หรือไม่

ทำให้ราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้น จากแรงกดดันด้านนโยบายภาษีระหว่างจีน-สหรัฐฯ แต่อาจเป็นเพียงช่วงสั้น ๆ เท่านั้น เพราะอัตราภาษีในระดับนี้ไม่ได้สร้างผลบวก แต่กลับสร้างผลลบต่อทั้งสองประเทศ คาดว่าอาจมีการเจรจาเพื่อหาข้อยุติในเร็ว ๆ นี้

คำแนะนำสำหรับฝั่งซื้อ ให้เน้นการเก็งกำไรในระยะสั้น หากต้องการสะสม ให้ทยอยซื้อทีละน้อย เนื่องจากยังมีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวลงแรงได้ โดยให้แนวรับที่ 3,100 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 3,140 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ ARR Goldtrading มองว่า

เกิดการดีดตัวอย่างแข็งแกร่ง แต่เริ่มมีสัญญาณชะลอตัวจากแรงขายให้เห็น จึงมีโอกาสขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านด้านบนก่อนจะแกว่งออกข้างต่อไป

นักลงทุนพิจารณาแบ่งเงินเข้าซื้อบางส่วนที่แนวรับ 3,080 / 3,070 และ 3,060 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาปรับฐานลงต่ำกว่า 3,050 ดอลลาร์ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวประมาณ 10 ดอลลาร์ จากจุดซื้อหรือที่แนวต้าน 3,100 /3,110 และ 3,120 ดอลลาร์

รับชมคลิป

- Advertisement -

- Advertisement -

Comments are closed.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More