Commodities Futures Trading Commission รายงานว่า กองทุนป้องกันความเสี่ยง หันกลับมาตลาดทองคำอีกครั้งเนื่องจากมีความผันผวนต่ำ หลังเงินเฟ้อมีแนวโน้มขยับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ราคาทองคำ ทะลุแนวต้านที่สำคัญ
ขณะที่สกุลเงินดิจิทัลได้ผันผวนหนัก แม้ว่าวานนี้ Bitcoin อาจจะมีแรงรีบาวด์กลับเข้ามาหลังถูกเทขายครั้งใหญ่ในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ราคายังแกว่งตัวระดับ 1,000 ดอลลาร์ ทุกวัน
ปัจจุบันราคา Bitcoin ลดลงประมาณ 42% นับตั้งแต่ทำสถิติสูงสุดเมื่อเดือนที่แล้ว ล่าสุดมาเคลื่อนไหวที่แถว 38,500 ดอลลาร์ ทำให้พิสูจน์ได้ว่า Bitcoin มีความผันผวนเกินกว่าที่จะเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และที่สำคัญกว่านั้น คือ การป้องกันความเสี่ยงจากภัยคุกคามเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
Phillip Streible, chief market strategist at Blue Line Futures กล่าวกับ Kitco news ว่า ราคาทองคำเริ่มต้นปีที่ 1,918 ดอลลาร์ดังนั้น หากราคาย้ายกลับไปจุดเดิม ตลาดจะเป็นบวก และจะดึงดูดโมเมนตัมมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ John Reade, head of market research at the World Gold Council กล่าวผ่าน Twitter ว่า ทองคำได้กลับมาเป็นสินทรัพย์ที่สนใจในการเก็งกำไรอีกรอบ นักวิเคราะห์จำนวนมากจึงจับตาดูแนวต้านสำคัญถัดไปที่ 1,900 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ในขณะที่กองทุนป้องกันความเสี่ยงกลับมาถือครองทองคำอีกครั้ง
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา SPDR GOLD SHARES ซึ่งเป็นกองทุนทองคำแท่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้ซื้อทองคำเพิ่ม 3.20 ตัน ที่ราคา 1,881 ดอลลาร์ เป็นการซื้อเข้าติดกัน 3 วันทำการ รวมเกือบ 15 ตัน ทำให้ในเดือน พ.ค.นี้ SPDR ซื้อทองคำเพิ่มขึ้นเกือบ 30 ตัน หลัง 2 ไตรมาสก่อนหน้า เป็นการขายสุทธิ และทำให้ปีนี้ ยอดติดลบของ SPDR เหลือ ประมาณ 132 ตัน ขณะที่ยอดถือครองทองคำของ SPDR ขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น รวม 1,046.12 ตัน
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.