- Advertisement -

ราคาทองคำวันนี้ (25 พ.ค.) เคลื่อนไหวผันผวนตั้งแต่ช่วงเช้า โดยราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงจากราคาปิดวันก่อนหน้า มาทำจุดต่ำสุดที่ 1,872 ดอลลาร์ ก่อนที่ช่วงบ่ายราคาทองคำจะดีดกลับมาแตะจุดสูงสุดที่ 1,887 ดอลลาร์ และล่าสุด ราคาทองคำได้มาเคลื่อนไหวเหนือ 1,882 ดอลลาร์ ( ดูกราฟราคาทองคำ )

ทั้งนี้ Hua Seng Heng มองว่า วันนี้ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากนักลงทุนที่คลายความกังวลจากอัตราดอกเบี้ยที่อาจปรับตัวสูงขึ้นตามภาวะเงินเฟ้อ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ส่งผลให้ตลาดตราสารทุนฟื้นตัว

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ ที่ยังคงอ่อนค่าในระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน

คืนนี้ จับตาการประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน พ.ค. ตลาดคาดจะลดลงเป็น 119.0 จากระดับ 121.7 ในเดือน เม.ย.

- Advertisement -

ส่วนแนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,870-1,890 ดอลลาร์ โดยราคาทองคำมีแนวต้าน 1,890 ดอลลาร์ และแนวต้านถัดไปที่ 1,900 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,870 ดอลลาร์ และ แนวรับถัดไปที่ 1,860 ดอลลาร์

ขณะที่ Ausiris มองว่า ในด้าน Technical ราคาทองคำยังไม่สามารถดีดทะลุผ่านแนวต้าน 1,889 ดอลลาร์ ได้ ทำให้เกิดการอ่อนตัวลงมาทำ Low ที่ 1,873 ดอลลาร์ ในระยะสั้นเป็นการแกว่งตัว sideway ออกด้านข้าง เพื่อรอ break out กรอบด้านใดด้านหนึ่งออกไป

ขณะที่ MACD ยังมี Divergence ขาลงปรากฏให้เห็นอยู่ แนะนำหาจังหวะขายเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน ที่ 1,889 และ 1,906 ดอลลาร์ และเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวเข้าใกล้แนวรับ 1,870 และ1,859 ดอลลาร์ เพื่อเก็งกำไรระยะสั้น

ส่วน YLG ระบุ นักลงทุนเริ่มระวังการไล่ซื้อทองคำเมื่อราคาปรับตัวขึ้น หลังตัวเลขการฉีดวัคซีน โควิด-19 ให้ชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่ได้คืบหน้าไปมาก นอกจากนี้ นักลงทุนระวังการซื้อขาย ก่อนการเปิดเผยข้อมูลสำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะ GDP ไตรมาส 1 ปีนี้ (ประมาณการครั้งที่ 2) และ PCE ซึ่งนับเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ

จึงแนะนำรอจังหวะการอ่อนตัวลงของราคาบริเวณโซน 1,870-1,859 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ จึงค่อยเข้าซื้อ หรือ หากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,900-1,906 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ได้ ให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทำกำไรบางส่วน แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป

- Advertisement -

ไปดูมุมมองของ Jim Wyckoff นักวิเคราะห์ จาก Kitco News ระบุว่า สกุลเงินหยวนของจีนได้พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ค่าเงินหยวนเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ในปีที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน จากการระบาดของโรค โควิด -19 และมีเงินทุนจากต่างประเทศที่ไหลเข้ามาในประเทศ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อ่อนตัวลง และแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4.5 เดือน

ในทางเทคนิคแล้วโกลด์ฟิวเจอร์สในเดือน มิถุนายน แนวต้านแรกจะอยู่ที่ระดับสูงสุดในเดือน พฤษภาคม ที่ 1,891 ดอลลาร์ และแนวต้านต่อไปอยู่ที่ 1,900 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับแรกอยู่ที่ 1,873 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,864 ดอลลาร์

- Advertisement -