SPDR เข้าซื้อหนักกว่า 16 ตัน หลังราคาทองร่วงเกือบแตะ 1,820 ดอลลาร์ โดยราคาทองคำยังเมาหมัด หลังจากถูกดอลลาร์ และพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐ สลับหน้าเข้ามาทุบ แต่นักวิเคราะห์ยอมระยะยาวยังดี เพราะเฟดยังคงยืนยันใช้ดอกเบี้ยต่ำและไม่ลด QE
หลังจากที่ SPDR GOLD SHARES กองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เทขายทองคำออกมา2 วันติดต่อกันประมาณเกือบ 21 ตัน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา( 16 มกราคม) SPDR ได้กลับมาซื้อมากถึง 16.63 ตัน ที่ราคา 1,827.45 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทำให้ยอดการซื้อ-ขาย ทองคำของ SPDR บวกอยู่ที่กว่า 8 ตัน และขณะนี้ SPDR ถือครองทองคำแท่งเพิ่มขึ้นเป็น 1,827.45 ตัน
ขณะที่การซื้อสัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. เมื่อคืนนี้ปิดที่ 1,829.94 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง 21.5 ดอลลาร์ หรือ 1.16% โดยในรอบสัปดาห์นี้ราคาปรับตัวลง 0.3% ทั้งนี้ราครทองคำได้รับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ บวก 0.59% สู่ระดับ 90.7700 ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก และหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกลดลง
เมื่อย้อนกลับมามองการเคลื่อนไหวในภาพรวมของราคาทองคำในสัปดาห์นี้ แม้ว่าราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของ ประธานเฟด ที่ยืนยันว่ายังคงใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำ และยังไม่ลดวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตร ในระยะเวลาอันใกล้นี้ แต่ไม่ได้ช่วยให้ราคาทองคำขยับขึ้นสูง
ทั้งนี้ราคาทองคำกลับถูกกดดันอย่างหนักจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกดดันอย่างหนัก ทำให้ราคายังมาพักฐานและวนเวียนคงอยู่ในกรอบ 1,820-1,860 ดอลลาร์
อย่างไรก็ดีอย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ระบุว่า ในระยะยาวนั้นราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มที่สดใส โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากการประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งอาจทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง และหนุนราคาทองปรับตัวขึ้น
Cr : traderider.corp
CR :อินโฟเควสท์
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.