- Advertisement -

มาดูภาพรวมการเคลื่อนไหวของ SPDR GOLD SHARES กองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยังเทขายขายต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปลายเดือน มิ.ย. และ ขายต่อเนื่องมาจนถึงเดือนกลางเดือน ก.ค. รวม 13 ครั้งติดต่อกัน น้ำหนักร่วม 45 ตัน

และเมื่อเช้าที่ผ่านมา (16 ก.ค.) ขายทองคำแท่งออกมาอีก 2.61 ตัน ที่ราคา 1,707.05 ดอลลาร์

เฉพาะในเดือน ก.ค. ขายไปแล้ว 9 ครั้ง น้ำหนักรวม 38.35 ตัน และเฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมาขายออกไป 4 วันติด น้ำหนักร่วม 10 ตัน คือ วันที่ 13 และ 14 ก.ค. ขายทองคำออกวันละ 1.74 ตัน วันที่ 15 ก.ค. ขายออก 2.90 ตัน และวันนี้ ขายออก 2.61 ตัน

ทำให้ปีนี้ เหลือยอดการซื้อ-ขายทองคำ บวกเพิ่มเพียง 38.62 ตัน และ เหลือถือครองทองคำทั้งหมด 1,014.28 ตัน

SPDR ยังคงขายทองคำออกมาอย่างต่อเนื่อง รับข่าวที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับดอกเบี้ยขึ้นอีกในการประชุม FOMC เดือน ก.ค. ที่อัตรา 0.75%

- Advertisement -

อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่มีการประกาศตัวเลข ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เดือน มิ.ย. พุ่งขึ้น 9.1% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี สูงกว่าระดับ 8.6% ในเดือน พ.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 8.8%

ขณะที่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการขใช้จ่ายของผู้ผลิต เดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.8% หลังจากปรับตัวขึ้น 0.9% ในเดือน พ.ค. ทำให้มีการคาดการณ์กันว่า เฟดอาจจะปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นถึง 1% ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วง 2.50% -2.75% เพื่อสกัดตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังเพิ่มสูงขึ้น

อย่างไรก็ดี การคาดการณ์ดังกล่าว ก็ปรับลดลงในเวลาต่อมา เพราะนักเศรษฐศาสตร์มองว่า หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

ขณะที่ เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนก็หนุนให้เฟดปรับขึ้นแค่ 0.75% เช่นกัน แต่คงต้องมาดูผลประชุมว่าจะออกมาอย่างไร

- Advertisement -

Francesco Pesole นักยุทธศาสตร์ด้าน FX ของ ING กล่าวว่า

หลังจากที่ตัวเลข CPI ของสหรัฐฯ ออกมาสูงเกินกว่าที่คาดการณ์ และธนาคารแห่งประเทศแคนาดาได้สร้างความประหลาดใจด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% พร้อมเตือนว่า อัตราเงินเฟ้อจะยังคงเพิ่มสูงขึ้นในช่วงสามเดือนข้างหน้า ทำให้สถานการณ์ทางการเงินเปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด

ทองคำยังต้องเผชิญอุปสรรคมากมาย โดยเมื่อวันที่ (14 ก.ค.) ราคาทองคำได้ร่วงลงต่ำกว่า 1,700 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน และเข้าใกล้ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่า ความกังวลเรื่องของภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจช่วยได้

ขณะที่ Craig Erlam นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ OANDA มองว่า

การทะลุระดับต่ำกว่า 1,700 ดอลลาร์ ยังคงมีแนวโน้มสูง โดยแนวรับถัดไปที่ อยู่ที่ 1,680 ดอลลาร์ ต่อออนซ์

อย่างไรก็ดี เครก เออร์แลม มองว่า เมื่อเงินเฟ้อถึงจุดสูงสุดแล้ว เราจะเห็นทองคำกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น

- Advertisement -