- Advertisement -

SPDR ขายทองคำออกทั้งสัปดาห์รวมกว่า 17 ตัน แต่ราคาทองคำยังแข็งยืนเหนือ $1720 ได้ ส่วนราคาทองคำในบ้านเราเช้านี้บวกเพิ่ม 250 บาท ด้านนายกสมาคมค้าทองคำมองว่าการประกาศ ใช้มาตรการกระตุ้น ศก.สหรัฐ ดันบอนด์ยีลด์พุ่งและดอลลาร์แข็งค่า กดดันราคาทองคำโดยตรง แต่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG ชี้ตลาดได้ตอบรับข่าวดังกล่าวไประดับหนึ่งแล้ว จากนี้ให้หันไปโฟกัสการประชุมของเฟดในสัปดาห์หน้า

มาดูการเคลื่อนไหวของ SPDR GOLD SHARES เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา(13  มี.ค.) ได้ขายทองคำออกมา 3.20 ตัน  ที่ระดับราคา 1,728 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยสัปดาห์นี้ SPDR ขายทองคำออกทั้ง 5 วันทำการ รวมกว่า 17 ตัน และในเดือนมีนาคม SPDR ขายทองคำออกเกือบทั้งเดือน รวมติดลบ 43 ตัน และในปีนี้ SPDR ขายทองคำออกมาแล้วเกือบ  120  ตัน แต่ยังเหลือทองคำถือครองอยู่ 1,052.07  ตัน

ขณะที่ราคาทองคำในประเทศเช้านี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง ถึงบาทละ 250 บาท โดยราคารับซื้อทองแท่ง อยู่ที่บาทละ 25,000 บาท ราคาขายออกอยู่ที่บาทละ 25,100 บาท ส่วนราคารับซื้อทองรูปพรรณอยู่ที่บาทละ 24,544.04 บาท ขายออกบาทละ 25,600 บาท (ดูตารางประกาศราคาทองคำสมาคมค้าทองคำ..)

ด้านนายจิตติ ตังสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวถึงกรณีที่ประธานาธิบดี “โจ ไบเดน” ได้ลงนามในร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ของสหรัฐ วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ว่า ยังไม่ส่งผลต่อราคาทองคำมากนัก เพราะเงินดอลลาร์ยังแข็งค่า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 10 ปีของสหรัฐ ก็ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปได้ว่าตลาดอาจจะตอบรับกับข่าวนี้มาตั้งแต่ช่วงก่อนที่ “โจ ไบเดน”จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีไปแล้ว อย่างไรก็ดีจะต้องจับตาการเปลี่ยนแปลงหลังจากนี้เพราะถือเป็นเงินก้อนใหญ่ที่สหรัฐได้อัดฉีดเข้ามาในระบบ

- Advertisement -

ทั้งนี้นายจิตติ คาดการณ์ว่าราคาทองคำในช่วงนี้ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ 1,675 -1,725 ดอลลาร์ ไปอีกระยะ โดยแนวต้านที่ 1,725 ดอลลาร์ถือว่าแข็งแกร่ง เพราะเมื่อราคาขยับขึ้นไปชนแนวต้านดังกล่าว จะมีแรงเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม..)

ขณะที่ นางสาว ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG มองว่า การประกาศใช้มาตรการดังกล่าว ดูเหมือนไม่ใช่สถานการณ์ที่เป็นบวกกับราคาทองคำ เนื่องจากจะยิ่งกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง บวกกับแนวโน้มการแจกจ่ายวัคซีน COVID-19 ที่ดำเนินต่อไปจะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวปรับตัวสูงขึ้น ดัชนีดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ดัชนีตลาดหุ้นพุ่งขึ้น และราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้น

อย่างไรก็ดีประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG มองว่าตลาดได้ปรับตัวรับข่าวดังกล่าวไปมากพอสมควรแล้ว ดังนั้นนักลงทุนอาจเริ่มเปลี่ยนจุดโฟกัสไปที่ปัจจัยอื่นๆ โดยเฉพาะการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในสัปดาห์หน้า ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.00-0.25% ตามเดิม แต่การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในช่วงที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนจับตาอย่างใกล้ชิดถึงสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคต ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะชี้วัดการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ทุกตัวในตลาดในระยะถัดๆไป(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม..)

ไปดูการซื้อขายสัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. เมื่อคืนนี้ปิดที่ 1,719.8 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวขึ้น 2.8  ดอลลาร์ หรือ 0.16%  ปิดเพิ่มขึ้น 4 วันติดต่อกัน และในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาทองคำปรับตัวขึ้น 1.3%

ปัจจัยหลักที่กดันราคาสัญญาทองคำยังคงเป็นการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งเมือคืนนี้ บวก 0.27% สู่ระดับ 91.6762 และการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.642% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2563 หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง โดยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.พ. ปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2552  ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ ที่สำรวจโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน พุ่งขึ้นแตะระดับ 83.0 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี จากระดับ 76.8 ในเดือนก.พ.

- Advertisement -

CR:อินโฟเควสท์

CR : goldtraders

- Advertisement -