- Advertisement -

ภาพรวมเศรษฐกิจ การค้าขายทองคำทองของไทยในปี 2566 และแนวโน้มราคาทองคำ จะเป็นอย่างไร วันนี้ได้รับเกียรติอย่างสูงจากท่านนายกสมาคมค้าทองคำ มาร่วมพูดคุยกันใน GoldAround.com

สัมภาษณ์พิเศษ คุณจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ

ทองคำไทยยังแรงต่อเนื่อง จับตาการประชุม FOMC สัปดาห์หน้า หากยังคงดอกเบี้ย – เงินบาทอ่อนค่า อาจได้เห็นนิวไฮ

ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

รับชมคลิป ภาพรวมเศรษฐกิจ การค้าขายทองคำ และแนวโน้มราคาทองคำ

- Advertisement -

คุณจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมคมค้าทองคำ กล่าวกับ GoldAround ว่า

การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้ยังเป็นขาขึ้น โดยราคาทองคำไทยได้กลับมาแตะ 34,000 บาท อีกรอบ

ส่วนจะมีโอกาสกลับไปทดสอบที่ระดับ 34,250 บาท ที่เป็นจุดสูงสุดเดิมหรือไม่นั้น อยากให้รอดูการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FOMC ในวันที่ 13-14 ธ.ค. นี้

หากที่ประชุมยังคงดอกเบี้ยเท่าเดิม ก็อาจได้การทำสถิติใหม่ตลอดกาลอีกรอบ แต่ทั้งนี้ต้องดูค่าเงินบาทด้วย

ขณะที่ การปรับขึ้นของราคาทองคำ spot ในรอบนี้ ได้ขึ้นมาทดสอบแถว 2,052 ดอลลาร์ ก่อนจะปรับตัวลงมาแถว 2,042 ดอลลาร์

- Advertisement -

ซึ่งหากว่าเฟด งดอกเบี้ยในการประชุม เดือน ธ.ค. มองแนวต้านถัดไปที่ 2,075 ดอลลาร์ จากนั้นรอดูว่าราคาจะทะลุแนวต้านดังกล่าวและยืนอยู่ได้หรือไม่ จึงมาดูกันว่าแนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ไหน

“อย่างไรก็ดี มองว่าเฟดไม่น่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีกแล้วในปีนี้ และจะทำให้ราคาทองคำมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ จากประสบการณ์ที่อยู่ในวงการค้าทองคำมานาน ในช่วงคริสมาสต์เป็นช่วงที่สถาบันการเงินและกองทุนต่าง ๆ จะหยุดพักผ่อนหลายวัน แต่ก่อนที่จะหยุด ก็จะมีการปิดงบและต้องสร้างตัวเลขสวย ๆ เพราะฉะนั้นจึงมองว่าราคาทองคำมีโอกาสที่จะปรับขึ้นมาได้” นายกสมาคมค้าทองคำกล่าว

ส่วนเรื่องของค่าเงินบาทปีนี้ ถือว่าคาดการณ์ลำบาก เงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนมาก จากต้นปีอยู่ที่ระดับ 32-33 บาทต่อดอลลาร์ และได้อ่อนค่าไปแตะระดับ 37 บาทต่อดอลลาร์เศษ จากนั้นไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ได้แข็งค่ากลับมาระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนจะกลับมาอ่อนค่าแตะ 35 บาทต่อดอลลาร์

โดยรวมจากจุดต่ำสุดถึงจุดสูงสุด ผันผวน 10 กว่าเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว หากคิดเป็นราคาทองคำ ถือว่าช่วยหนุนให้ราคาเพิ่มขึ้นมาประมาณ 3,000-4,000 บาท ซึ่งการเคลื่อนไหวของเงินบาทปีนี้ถือว่าผันผวนมากและคาดการณ์ลำบาก ซึ่งไม่เคยเจอการเคลื่อนไหวผันผวนหนักขนาดนี้มาก่อน

ส่วนภาพรวมธุรกิจการค้าทองคำในประเทศ ปีนี้ยังคงไม่ฟื้น แม้ว่าปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะต้องใช้เวลา ทำให้กำลังซื้อประชาชนไม่มีมากพอ

ประกอบกับราคาทองคำยังอยู่ในระดับสูง หากจะดูราคาจากต้นปี (ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5% ณ วันที่ 2 ม.ค. อยู่ที่ 29,750 บาท) มาถึงปัจจุบัน (1 ธ.ค. ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5% อยู่ที่ 33,850 บาท) เพิ่มมาบาทละ 4,100 บาท ทำให้ประชาชนไม่มีเงินเหลือมากพอที่จะมาซื้อทองคำ

นอกจากนั้น ยังมองว่าประชาชนและนักลงทุนอาจจะยังไม่คุ้นชินกับราคาทองคำ ณ ปัจจุบันที่สูงมาก ทำให้ไม่กล้าซื้อ แต่หากราคาลดลงไปเคลื่อนไหวแถว 32,000 บาท กำลังซื้ออาจจะมีมากขึ้น โดยเฉพาะมาจากกลุ่มนักลงทุน

ขณะที่ ราคาทองคำไทย ยังมองว่าน่าจะอยู่ในกรอบ 32,000-34,500 บาท ซึ่งจะต้องมารอดูอีกครั้งหลังประชุมเฟดในเดือนนี้

ซึ่งหากราคายังอยู่ในระดับสูง ปีนี้คาดว่ายอดขายทองคำในช่วงปีใหม่อาจจะไม่กระเตื้อง เพราะบรรดาเจ้าของบริษัท หรือห้างร้านต่าง ๆ คงไม่ได้ซื้อทองแจก หรือหากจะซื้อก็อาจจะลดปริมาณลง เพราะหากจะดูจากช่วงเทศกาลในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น ช่วงปีใหม่ ตรุษจีน หรือ สงกรานต์ ยอดขายน้อยกว่าปีที่ผ่านมา

“สภาพการณ์ในลักษณะนี้ ถือว่าผู้ประกอบการค้าทองคำยังน่าเป็นห่วงและอาจต้องอดทนไปอีกระยะ จนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นกลับมา ที่สำคัญก็มีความเป็นห่วงช่างทำทอง หากไม่มีงานให้ทำ จะใช้ชีวิตลำบาก เพราะคนกลุ่มนี้ไม่ได้รายได้เป็นเงินเดือน แต่จะได้จากจำนวนชิ้นงานและแบ่งค่าแรงกัน หากมีไม่ออเดอร์เข้ามา ก็อาจจะลำบาก”

- Advertisement -