Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

ทองคำโค้งสุดท้าย 2566 ลงทุนกันอย่างไรดี? คุยกับคุณธีรรัฐฯ InterGOLD

- Advertisement -

1,227

- Advertisement -

ทองคำโค้งสุดท้าย ปี 2566 วางแผนการลงทุนกันอย่างไรดี?

พูดคุยกับ คุณธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บจ.อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด (InterGOLD)

ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

.

.

- Advertisement -

รับชมคลิป ทองคำโค้งสุดท้าย ปี 2566 วางแผนการลงทุนกันอย่างไรดี

คุณธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บจ.อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด กล่าวกับ GoldAround ว่า

ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ดีของทั้ง ทองคำ spot และ ทองคำไทย โดยต้นปีทองคำ spot เปิดตลาดที่ประมาณ 1,820 ดอลลาร์ ตอนนี้ขึ้นมายืนเหนือ 1,950 ดอลลาร์ ได้ โดยราคาทองคำ spot ปรับขึ้นมากว่า 100 ดอลลาร์ เมื่อดูจากการเติบโตในปีที่ผ่านมาอาจจะไม่ต่างกันมากนัก

แต่ไฮไลท์ปีนี้อยู่ที่ราคาทองคำไทย ซึ่งปรับตัวขึ้นมามาก โดยได้แรงหนุนจากเงินบาทซึ่งบางช่วงอ่อนค่าทะลุ 37 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้ราคาทองคำไทยขึ้นทำสถิติใหม่ตลอดกาล

โดยราคาขายออกทองคำแท่งที่ สมาคมค้าทองคำ ประกาศขึ้นไปแตะ 34,150 บาท อย่างไรก็ดี การแกว่งตัวของค่าเงินบาท ทำให้ราคาทองคำไทยแกว่งตัวแรงตามเช่นกัน เพราะหลังจากขึ้นไปทำสถิติใหม่ได้ไม่นาน ก็ปรับลดลงมาเคลื่อนไหวแถว 33,000 บาท

- Advertisement -

ทั้งนี้ มองว่าจากวันนี้ไปจนถึงสิ้นปีนี้ ราคาทองคำก็ยังอยู่ในภาพเดิม ๆ ราคาทองคำ spot ยังเคลื่อนไหวกรอบแคบ ๆ แต่ค่าเงินบาทจะเป็นปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองไทยค่อนข้างมาก

โดยอาจจะลดความผันผวนลงจากช่วงก่อนหน้านั้น เพราะปัจจัยหลาย ๆ อย่างเริ่มทรงตัว ทำให้ราคาทองคำจะไม่ได้ปรับตัวขึ้นลงมากจนทำให้นักลงทุนตื่นเต้นเหมือนช่วงที่ผ่านมาที่ราคาผันผวนสัปดาห์ละร่วม 1,000 บาท

โดยมองว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ให้ตลาดทองคำได้พักบ้าง จากนั้นก็รอเวลาเพื่อจะกลับมาลงทุนใหม่ในปีหน้า

ส่วนทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟดนั้น เท่าที่ดูขณะนี้มีอยู่ 2 กระแส โดยทางฝั่งของเฟด พยายามจะบอกว่ายังกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ทำให้การลดดอกเบี้ยจะเป็นการปรับลดอย่างจำกัดและระมัดระวัง โดยตัวเลขที่ปรับลดลงไม่ได้มาก ขณะที่ฝั่งภาคเอกชนได้มี CEO ของ JP Morgan ออกมาให้ความเห็นแย้ง โดยระบุว่าปีหน้าจะมีการดอกเบี้ยในอัตราที่สูง

หากจะมองว่า จากความเห็นของทั้ง 2 ฝั่ง เชื่อว่าต่างฝ่ายต่างพิจารณาจากข้อมูลที่ตัวเองมี แต่สิ่งที่จะเป็นตัวตอบคำถามได้จริง ๆ ก็คือ สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นจริง

ทั้งนี้ สิ่งที่ทุกคนคาดการณ์ได้ว่าในปีหน้าจะต้องเผชิญกับเรื่องของภาวะเศรษฐกิจถดถอย จากการอัดฉีดเงินปริมาณมหาศาลมาอย่างต่อเนื่องหลายปี และขณะนี้ตัวเลขเศรษฐกิจต่าง ๆ ได้สะท้อนออกมาหมดแล้ว ซึ่งไม่น่าจะหลีกเลี่ยงได้

แต่ประเด็นก็คือ จะถดถอยมากน้อยเพียงไร ปัญหาที่เกิดขึ้นจะเป็นระเบิดลูกเล็กหรือลูกใหญ่ และการแก้ปัญหาจะเป็นแบบ ฮาร์ดแลนดิ้ง หรือ ซอฟท์แลนด์ดิ้ง

ทั้งนี้ เฟดมองว่าจะลดดอกเบี้ยไม่มาก เพราะคิดว่าเป็นซอฟท์แลนด์ดิ้ง แต่ภาคเอกชนไม่ได้มองเช่นนั้น โดยเชื่อว่าอีกไม่นานปัญหาต่าง ๆ จะตามมา ทั้งเรื่องการจ้างงาน หรือปัญหาการดำเนินงานของภาคการเงิน ทำให้เฟดอาจจะต้องลดดอกเบี้ย อาจจะมากถึงครั้งละ 1%

นั่นเป็น 2 มุมมองจาก 2 ฝั่ง แต่ถ้าจะดูจากตลาดหุ้นอเมริกา ณ ปัจจุบันยังคงดูดี ยังไม่ได้มีความตื่นตระหนก และยังเอียงไปทางเฟด แต่ในทางกลับกัน ราคาทองคำก็ไม่ได้ปรับตัวลดลงด้วย

ทั้งนี้ นักลงทุนยังมองว่า หากการถดถอยของภาวะเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นหากว่า สถานการณ์ไม่เลวร้ายมากก็จะฉุดให้ราคาทองคำลดลงไม่มาก แต่หากสถาการณ์บานปลาย อาจจะทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรง

ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำ spot ปรับตัวลดลงจะมีแรงซื้อเข้ามาพยุงไว้ อย่างเช่นในช่วงเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ราคาได้ปรับลดลงไปแถว 1,810 ดอลลาร์

จากนั้นราคาได้ดีดขึ้นมาแรงเป็นลักษณะของ V Shape หรืออย่างล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาได้ลงไปแตะ 1,930 ดอลลาร์ จากนั้นก็ได้ขึ้นกลับมาทดสอลบ 2,007 ดอลลาร์

ทั้งนี้ ปีนี้จะสังเกตุได้ว่า ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในลักษณะปรับลดลงก่อนจะมีแรงซื้อเข้ามาพยุง จากนั้นราคากลับเคลื่อนไหว sideway ก่อนจะปรับตัวขึ้นแรง

แต่ก็จะยืนเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์ ได้ไม่นาน ก็จะถูกเทขายออกมา ทำให้มองได้ว่า นักลงทุนมีความระมัดระวังในการลงทุน และยังมองว่าทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากปัญหาที่จะเกิดขึ้นภายภาคหน้า จึงเข้าซื้อทองคำเก็บสะสมเมื่อราคาปรับลดลง

ดังนั้น จึงมองว่าในช่วงนี้ที่ราคาลงมาแถว 33,000 บาท ยังเป็นช่วงที่น่าซื้อเก็บสะสม แต่ปัจจัยความเสี่ยงของทองไทยก็คือเรื่องค่าเงินบาท ซึ่งยากจะที่คาดการณ์ โดยปีหน้าเงินบาทอาจจะแข็งค่ามากขึ้น

โดยอาจจะกลับไปแตะ 32-33 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นตัวกดดันราคาทองคำไทยไม่ให้ปรับตัวขึ้นได้มาก แม้ว่าราคาทองคำ spot จะพุ่งไปไกล

“ส่วนตัวมองว่า ปีหน้าราคาทองคำ spot น่าจะขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ได้ ขณะที่ทองไทยจะกลับไปยืนเหนือ 34,000 บาท ก็น่าจะเป็นไปได้เช่นกัน”

อย่างไรก็ดี หากว่าปีหน้าราคาทองคำได้แรงหนุนจากข่าวที่ไม่สู้ดี โดยเฉพาะเรื่องของภาวะเศรษฐกิจ ที่จะทำให้ราคาทะยานแรง ในความเห็นส่วนตัวอยากให้นักลงทุนระมัดระวังเป็นเพิเศษ เพราะมองว่า จะเป็นการปรับตัวขึ้นที่ไม่ยั่งยืน และอาจจะเป็นช่วงที่ดีในการขายทำกำไร เพราะหากจะมองจากวัฎจักรของราคาทองคำ ขณะนี้ได้ปรับตัวขึ้นมาติดต่อกันหลายปี จึงมีความกังวลว่าอาจจะเป็นถึงจุดระเบิดที่จะทำให้ราคาปรับลดลงแรง

ยกตัวอย่าง นี่ถือเป็นเรื่องสมมุติ ว่าราคาทองคำไทยอาจจะขึ้นไปแตะ 37,000-38,000 บาท หรือ ราคาทองคำ spot อาจขึ้นไปแตะ 2,300 ดอลลาร์ ถือเป็นช่วงเวลาดีที่จะขายออก เพราะราคาทองอาจจะลงกลับมาต่ำกว่า 30,000 บาท ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า หรืออาจจะลงมาได้ระดับต่ำกว่าปัจจุบันได้

เพราะเป็นวัฎจักรของสินทรัพย์การลงทุน เมื่อราคาขึ้นไปสูงสุดและจะต้องปรับตัวลงมา โดยราคาจะไต่จนไปถึงระดับที่ทำให้นักลงทุนเคลิ้มตามตลาด และต้องเร่งเข้าซื้อเพราะมองว่าเศรษฐกิจไปไม่ไหวแล้ว ณ จุดนั้นคือจุดที่ต้องระมัดระวัง และอาจจะเป็นจุดที่ต้องขายทิ้ง ซึ่งผ่านมาเคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง อาทิ เมื่อปี 2011

- Advertisement -

Comments are closed.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More