GOLD TALK: ตลาดทองคำยุคใกล้ 70,000 ผู้ค้า-นักลงทุน ปรับตัวอย่างไร
ตลาดทองคำสู่ยุค “New Normal” สถาปนาเป็นสินทรัพย์การลงทุนเต็มตัว แนะนักลงทุน-ผู้ประกอบการเร่งปรับตัวตาม
หลังจากที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วงต้นปี หลังจากนั้นโลกของการลงทุนก็ได้เปลี่ยนโฉมไป
ซี่งเป็นผลมาจากแนวนโยบายและแนวทางการบริหารงานของ “ทรัมป์” โดยเฉพาะ “ทองคำ” ได้เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าไปมาก โดยเฉพาะในช่วง 1 – 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคม ราคาเคลื่อนไหวผันผวนหนัก ดังนั้น นักลงทุนจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การลงทุน เพื่อทันต่อการเปลี่ยนแปลง
น.พ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท MTS Gold แม่ทองสุก มองว่า
ปัจจุบัน ทองคำ ได้เปลี่ยนสถานะอย่างถาวร โดยเปลี่ยนมาจากสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง มาเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนอย่างเต็มตัว และทำหน้าที่ทดแทนภาพของดอลลาร์
โดยจะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของทองคำในช่วงที่ผ่านมา ที่เคลื่อนไหวผันผวนรุนแรง และราคามีการปรับเพิ่มแรง โดยปีนี้ปรับขึ้นมาแล้วกว่า 50%
ในส่วนของการค้าทองคำในประเทศไทย แม้ที่ผ่านมา จะมีความกังวลว่าการซื้อขายทองคำในประเทศจะเป็นสาเหตุของความผันผวนของค่าเงินบาท แต่ น.พ.กฤชรัตน์ฯ ยืนยันว่า ทองคำไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนหรือแข็งค่า โดยชี้ให้เห็นว่า ทองคำไม่ใช่จำเลย 100% ในเรื่องนี้ และเป็นเพียงสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกันในทางอ้อมเท่านั้น
น.พ.กฤชรัตน์ฯ ยังมองว่าปรากฏการณ์ความผันผวนของราคาทองคำที่นักลงทุนกำลังเผชิญอยู่ ถือว่าเป็น “New Normal” ที่จะเกิดขึ้นตลอดไป ความรุนแรงและความถี่ของการเหวี่ยงตัวในตลาดทองคำได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ทั้งนี้ ในอดีตที่ผ่านมา หากเห็นราคาเหวี่ยงตัวระดับ 100 ดอลลาร์ต่อวัน จะถือเป็นข่าวใหญ่ที่อาจเกิดเพียงปีละครั้ง แต่ปัจจุบันความผันผวนระดับนี้เกิดขึ้นถี่มากจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
และในบางวัน อาจจะเห็นราคาขยับในกรอบที่สูงกว่า 300 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าสูงมาก แต่หากจะเทียบกับ ราคาทองคำปัจจุบันที่อยู่เหนือ 4,000 ดอลลาร์ คิดเป็นเพียง 10% เท่านั้น
แต่ทั้งนี้ เมื่อกรอบราคาขยับกรอบกว้างมากขึ้น นักลงทุนก็จำเป็นที่จะต้องปรับกลยุทธ์และรูปแบบการลงทุน เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง
ขณะที่ ตลาดทองคำในประเทศ น.พ.กฤชรัตน์ฯ แนะนำว่า ต้องปรับตัวตามโลกการลงทุนที่ปรับเปลี่ยนไป โดยราคาทองไทยต้องปรับเปลี่ยนราคาตามการเหวี่ยงตัวของราคาทองคำโลก
ซึ่งทำให้ปัจจุบัน สมาคมค้าทองคำ มีการปรับเปลี่ยนราคาระดับ 30-50 ครั้งต่อวัน เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้นักลงทุนทองคำไทยและผู้ประกอบการต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง และเพื่อรับมือกับความผันผวนที่สูง
น.พ.กฤชรัตน์ฯ เน้นย้ำว่า นักลงทุนต้องบริหารความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการมีวินัยในการลงทุน ไม่ว่าจะมีจุดทำกำไร และการวาง stop loss ที่ชัดเจน
โดยนักลงทุนระยะสั้นที่ใช้ margin หรือ เป็นเงินร้อน ต้องพร้อมจะยอมรับความเสี่ยงจากราคาที่ผันผวน และต้องมีคำสั่ง stop loss โดยควรตั้ง stop loss ไว้ที่ประมาณ 5% ถึง 10% เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแรงได้
ขณะเดียวกัน ต้องหาความรู้เกี่ยวกับการลงทุนเพิ่มเติม ทั้งในด้านเทคนิค และติดตามข่าวสารต่างใกล้ชิด โดยนักลงทุนต้องปรับกลยุทธ์ และเพิ่มเติมความรู้ในการลงทุนให้เข้มแข็งมากขึ้น และใช้เครื่องมือ (แอปพลิเคชัน) ที่สามารถรองรับคำสั่ง stop loss ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนการปรับตัวของภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ (ทั้งรายใหญ่ กลาง และย่อย) ต้องบริหารสต๊อกเพื่อ “matching” กับสภาวะตลาดที่ผันผวนอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนั้น จะต้องปรับเปลี่ยนการบริหารงาน รับการเปลี่ยนแปลงของตลาดการลงทุนในโลกดิจิตัล โดยต้องเรียนรู้และปรับองค์กรให้มีระบบที่รองรับความเหวี่ยงของราคา และต้องปรับระบบการบริหารงานและการทำตลาดเป็นระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
โดย น.พ.กฤชรัตน์ฯ เตือนว่า หากผู้ประกอบการยังคงลักษณะ analog ล้วน ๆ การอยู่รอดในตลาดปัจจุบันจะเป็นไปได้ยาก
รับชมคลิป
ขอขอบคุณ MTS Gold แม่ทองสุก







Comments are closed.