สัมภาษณ์พิเศษ คุณภัทริน วชิรคพรรณ Chief Operation Officer บจ.เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ (LHC)
แม้ราคาทองคำจะดีดกลับแรงช่วงท้ายสัปดาห์ แต่ยังไม่ปลอดภัย
รอดู 3 ประเด็นสำคัญ วิกฤตตะวันออกกลาง – ตัวเลขเศรษฐกิจ – เลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ
ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
คุณภัทริน วชิรคพรรณ Chief Operation Officer บจ.เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ กล่าวกับ Goldaround ว่า
ราคาทองคำ gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหว sideway เหนือระดับ 2,700 ดอลลาร์ได้ และขึ้นไปทำจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ AllTimeHigh (ATH) ที่ 2,758 ดอลลาร์ ก่อนที่ราคาจะทิ้งตัวแรงในคืนวันพุธร่วม 50 ดอลลาร์ แต่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้ในวันพฤหัสและศุกร์ แต่ยังไม่สามารถกลับมายืนเหนือ 2,750 ดอลลาร์ได้
ทั้งนี้ปัจจัยหนุนหลักมาจากปัญหาความตรึงเครียดในตะวันออกกลางหลังอิสราเอลยังโจมตีกลุ่มกองกำลังที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อวันพุธมีรานงานว่าสหรัฐฯ ต้องการให้มีการเจรจาหยุดยิงและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบทำให้ราคาทองคำร่วงลงมา
นอกจากนั้นราคาทองคำยังได้แรงหนุนจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พ.ย. ซึ่งขณะนี้คะแนนความนิยมของผู้สมัครจาก 2 พรรคการเมืองใหญ่สูงสีกันมาก ทำให้ต้องมาดูคะแนนในช่วงโค้งสุดท้ายว่าใครจะได้เปรียบ ซึ่งหากนายโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะก็อาจจะทำให้สงครามการค้าดุเดือดมากขึ้นกว่าเดิม
ขณะเดียวกันราคาทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากนโยบายการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยลงอกี 0.25% ในการประชุม FOMC ในสัปดาห์ถัดไปหลังจากที่มีการเลือกตั้ง ปธน.
ทั้งนี้ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ มองว่าปัจจัยทั้ง 3 ยังคงมีอิทธิพลต่อราคาทองคำในสัปดาห์หน้า (27-31 ต.ค.) และบางประเด็นจะทวีความเข้มข้นมากขึ้นอย่างเรื่องของสงครามและการเลือกตั้งปธน. ซึ่งต้องจับตาใกล้ชิด แต่ยังมีอีกประเด็นที่จะต้องจับตาก็คือตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะมีการประกาศตัวเลขสำคัญมากมายโดยเฉพาะในช่วงท้ายสัปดาห์ โดยในวันพฤหัสจะมีตัวเลขดัชนี Core PCE Price เดือน ต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายเดือนคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 0.3% จากเดินก่อนหน้าอยู่ที่0.1%
ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างรายรายสัปดาห์จะเพิ่มขึ้นเป็น 231,000 คน จากสัปดาห์ก่อนหน้าอยู่ที่ 227,000 คน
ขณะที่วันศุกร์จะมีตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือน ต.ค.คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 111,000 ราย จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 254,000 ราย ขณะที่อัตราการว่างงานยังคงเดิมที่ 4.1%
มาดูมุมมองทางเทคนิคราคาทองคำ gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวผันผวนอยู่ในกรอบเหนือ 2,700 ดอลลาร์ โดยยังรอลุ้นว่าจะทำจุดสูงสุดครั้งใหม่ได้หรือไม่ แต่ราคาทองในประเทศทะยานขึ้นต่อเนื่องเพราะค่าเงินบาทที่อ่อนตัว สัปดาห์นี้ลุ้นตัวเลข NFPและเตรียมตัวก่อนที่สัปดาห์ถัดไปจะมีการเลือกตั้งสหรัฐฯ
โดยราคาทองคำมีโซนแนวรับสำคัญอยู่ที่ 2,715-2,700 ดอลลาร์ และ 2,685-2,670 ดอลลาร์ ให้พิจารณาเข้าซื้อหากราคาย่อตัวและไม่หลุด 2,700 ดอลลาร์ เพื่อเล่นรีบาวน์ได้อีกหากราคาหลุดระมัดระวังการปรับตัวลงรุนแรง
ส่วนโซนแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 2,755-2,760 ดอลลาร์ และ 2,790-2,800 ดอลลาร์ ให้พิจารณาขายทำกำไร ณ โซนดังกล่าว โดยเฉพาะหากราคาไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ
ส่วนราคาทองคำไทยสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ขึ้นทำ All Time High เมื่อวันที่ 23 ต.ค. โดยราคาขายออกทองออกคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 44,000 บาท โดยได้แรงหนุนจากเงินบาทที่อ่อนค่าแรง และราคาทองคำ gold spot ขยับบวกแรง หลังจากนั้นได้ย่อตัวลงมาก่อนจะฟื้นตัวกลับมาในวันศุกร์และเสาร์
โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาสมาคมค้าทองคำประกาศราคาทองคำประกาศปรับราคาขึ้นมา 150 บาท โดยราคารับซื้อทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 43,600 บาท ราคาขายออกอยู่ที่ 43,700 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคารับซื้ออยู่ที่ 42,811.84 บาท ราคาขายออกอยู่ที่ 44,200 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.65 บาทต่อดอลลาร์
ซึ่งสัปดาห์นี้คาดว่าราคาทองคำไทยอาจจะขยับบวกได้ต่อหากว่าราคาทองคำ gold spot รีบาวด์ขึ้นไปทดสอบจุด ATH โดยให้แนวต้านที่ 43,900-44,000 บาท และ 44,150-44,200 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 43,100-43,000 บาท และ 42,700-42,500 บาท
Comments are closed.