สัมภาษณ์พิเศษ คุณภัทริน วชิรคพรรณ Chief Operation Officer บจ.เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ (LHC)
gold spot ฟื้นกลับมาได้ แต่ยังไม่ปลอดภัย เฝ้าติดตามสถานการณ์ตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด ส่วนทองคำไทยรอดูผลประชุม กนง.ในช่วงกลางสัปดาห์
ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
คุณภัทริน วชิรคพรรณ Chief Operation Officer บจ.เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ กล่าวกับ Goldaround ว่า
ราคาทองคำ gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมา เคลื่อนไหนผันผวนในกรอบ 2,600-2,660 ดอลลาร์ ยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน
โดยในช่วงต้นสัปดาห์ราคาปิดตลาดในแดนลบติดต่อกัน ก่อนจะมาฟื้นตัวในช่วงวันพฤหัสและศุกร์ และได้กลับมาปิดตลาดที่ 2,657 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นแนวต้านสำคัญ หากราคาผ่านไปได้ อาจเห็นขึ้นไปทดสอบ 2,670 ดอลลาร์
โดยหากแนวต้านดังกล่าวยังต้านไม่อยู่ ก็อาจจะเห็นขึ้นไปทดสอบระดับ 2,700 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน หากไม่สามารถผ่านระดับ 2,657 ดอลลาร์ ไปได้ อาจจะลงมาทดสอบโซน 2,630 และ 2,600 ดอลลาร์ หากยังหลุดแนวรับ 2,600 ดอลลาร์ อาจจะลงไปแถว 2,570-2,580 ดอลลาร์ ได้
“การลงทุนในช่วงนี้ ต้องใช้ความระมัดระวัง อาจจะรอดูสถานการณ์ในเรื่องต่าง ๆ ให้ความชัดเจนก่อนปรับแผนการลงทุน“ Chief Operation Officer บจ.เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ กล่าว
ทั้งนี้ ราคาทองคำ gold spot ได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในระยะหลังที่ออกมาดี ประกอบกับความคาดหวังการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมเดือน พ.ย. ได้ปรับลดลงเพียง 0.25% โดยจาก FedWatch Tool นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์
ส่วนที่เหลืออีก 10 เปอร์เซ็นต์ คาดอาจจะคงดอกเบี้ย สอดคล้องกันการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) จากการประชุมเดือน ก.ย. ซึ่งเจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ภายในสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ดี คงต้องจับตานโยบายดอกเบี้ยของเฟดใกล้ชิด เพราะในการประชุม FOMC ครั้งหน้าที่อยู่ในช่วงต้นเดือนพ.ย. ซึ่งจะใกล้กับวันเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ โดนในช่วงเวลาดังกล่าว อาจจะทำให้ราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวผันผวนรุนแรงได้
ราคาทองคำ gold spot ยังได้แรงหนุนสำคัญและราคาฟื้นตัวมาได้ในช่วงท้ายสัปดาห์ จากความกังวลเรื่องสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่าง อิสราเอล และ อิหร่าน ที่มีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะดันราคาทองคำให้พุ่งทะยานแรงได้
มุมมองในทางเทคนิค
ภาพรวมการเคลื่อนไหวราคา gold spot ยังเป็นลักษณะ sideway ในกรอบ ยังไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ภายในสัปดาห์ โดยราคาลงไปทดสอบระดับ 2,600 ดอลลาร์ ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาใน 2 วันสุดท้ายของสัปดาห์
หากสัปดาห์นี้ ราคายังไม่สามารถทำจุดสูงสุดเหนือ 2,670 ดอลลาร์ อาจพิจารณาขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงลงได้
ประเด็นเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม
จะไปอัดแน่นอยู่ในวันพฤหัสที่ 17 ต.ค. โดยจะมีการประชุมและประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากทางธนาคารกลางยุโรป ขณะที่ฝั่งสหรัฐฯ จะมีตัวเลขค้าปลีกและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ทั้งนี้ ให้โซนแนวรับสำคัญอยู่ 2,640-2,630 ดอลลาร์ และ 2,600-2,590 ดอลลาร์ หากราคาไม่สามารถขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ อาจมีแรงเทขายเพื่อกลับลงไปทดสอบแนวรับได้อีก
ขณะที่ โซนแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 2,670-2,675 ดอลลาร์ และ 2,690-2,700 ดอลลาร์ พิจารณาขายทำกำไร ณ โซนดังกล่าว หากเกิดสัญญาณกลับตัว
ส่วนราคาทองคำไทย
ได้ขยับตัวในแดนบวกในช่วงท้ายสัปดาห์ โดยราคาทองคำในประเทศเมื่อวันเสาร์ที่ 12 ต.ค. สมาคมค้าทองคำ ประกาศปรับราคาขึ้นมาอีก 50 บาท ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 41,650 บาท ราคารับซื้อ 41,550 บาท คำนวนจากค่าเงินบาทที่ 33.15 บาทต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ ราคาทองคำไทยยังเคลื่อนไหวผันผวนตามราคาทองคำ gold spot และค่าเงินบาทที่ค่อนข้างแกว่งตัวแรง ซึ่งในวันพุธที่ 16 ต.ค. จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ก็คาดว่าจะยังคงดอกเบี้ยเท่าเดิม ซึ่งอาจจะทำให้เงินบาทอ่อนค่าได้อีก
โดยให้แนวรับราคาทองคำไทยที่ 41,200-41,100 บาท และ 40,800-40,700 บาท ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 41,900-42,000 บาท และ 42,150-42,200 บาท
Comments are closed.