Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

ทิศทางทอง67-GoldOutlook24EP5: นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ MTS GOLD

- Advertisement -

5,039

- Advertisement -

ทิศทางราคาทองคำ ปี 2567 – Gold Outlook 2024 EP5

สัมภาษณ์พิเศษ สัมภาษณ์พิเศษ นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกลุ่มบริษัท MTS GOLD แม่ทองสุก

MTS Gold ฟันธงทองคำร้อนแรงต่อเนื่อง อาจเห็นขยายตัวระดับ 14% อีกรอบ เหตุได้แรงหนุนจาก FED ลดดอกเบี้ย – ธนาคารกลางตุนทองเพิ่ม

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

.

- Advertisement -

รับชมคลิป ทิศทางราคาทองคำ ปี 2567 – Gold Outlook 2024

น.พ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท MTS Gold แม่ทองสุก กล่าวกับ GoldAround ถึงคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot ในปีนี้ว่า

หากจะมองย้อนภาพรวมของปี 2566 จะเห็นว่า ราคาทองคำไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณคือ 14 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ราคาทองคำ gold spot ก็เพิ่มขึ้นมา 14 เปอร์เซ็นต์ เช่นกัน

เพราะปีที่แล้ว ค่าเงินบาทเริ่มต้นกับปลายปีเกือบจะเท่ากัน ทำให้ทาง MTS Gold คาดการณ์ว่า ในปีนี้ราคาทองคำทั้ง 2 ส่วน น่าจะปรับขึ้นมากกว่าเดิม

ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดทองคำตลอดทั้งปีที่ผ่านมาไม่สู้ดี เนื่องจากนโยบายการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด โดยได้ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องจากระดับ 4.25 เปอร์เซ็นต์ มาที่ 5.5 เปอร์เซ็นต์ หรือขึ้นมาประมาณ 1.25 เปอร์เซ็นต์

- Advertisement -

อย่างไรก็ดี ตลาดทองคำได้แรงหนุนจากปัจจัยที่ไม่คาด 2 เรื่อง คือ ปัญหาสถาบันการเงินในช่วงปลายเดือน ก.พ. และช่วงต้นเดือน ต.ค. เป็นสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาส

ทำให้ปีที่ผ่านมา ตลาดทองคำต้องเผชิญกับแรงเหวี่ยงของราคาแรง ๆ จากราคาประมาณ 2,070 มา 1,800 ดอลลาร์ ร่วม ๆ 300 ดอลลาร์ ถึง 3 รอบ และทำให้นักลงทุนหลายคนประสบภาวะขาดทุน โดยเฉพาะในกลุ่มที่ลงทุนในตลาดโกลด์ฟิวเจอร์ส

ขณะที่ ในปีนี้มองว่าตลาดทองคำจะได้แรงหนุนหลัก ๆ จาก 2 ปัจจัย คือ

  1. เรื่องของเงินดอลลาร์ที่อาจจะอ่อนตัว จากการที่เฟดน่าจะต้องลดดอกเบี้ย หากเฟดเริ่มลดดอกเบี้ยจะส่งผลเงินดอลลาร์อ่อนค่า และจะฉุดให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐลดลงด้วย และจะดันให้ราคาทองคำ gold spot ปรับเพิ่มขึ้น
  2. ความต้องการทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น ซึ่งรายงานของ world gold council (WGC ) ระบุว่า ปีที่แล้วธนาคารกลางทั่วโลกสะสมทองคำเพิ่มประมาณ 5-6% และ ปี 67 คาดว่าน่าจะมีการสะสมเพิ่มขึ้นถึง 24% โดยได้แรงหนุนจากความขัดแย้งในเรื่องของภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นจุดต่าง ๆ จึงทำให้ธนาคารกลางต่าง ๆ จะเพิ่มการสำรองทองคำมากขึ้น

“ปัจจัยบวกต่าง ๆ เหล่านี้ จึงทำให้คาดการณ์ว่าราคาทองคำปีนี้ น่าจะปรับเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 14% ซึ่งเป็นการพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ รวมถึงสถิติแบบปีต่อปี

ทั้งนี้ ถ้ามองว่าปีนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 14% ก็คาดว่าราคาทองคำ gold spot มีโอกาสจะทำนิวไฮ และอาจจะขึ้นไปแตะระดับสูงกว่า 2,250-2,300 ดอลลาร์

ขณะที่ ราคาทองคำไทย คาดว่าจะทะลุ 34,500 บาท และอาจจะไปเห็นเกือบ 37,000 บาท ได้ หากปรับขึ้นมาประมาณ 14 เปอร์เซ็นต์ โดยมองว่า มีโอกาสเป็นไปได้สูงระดับ 80-90% ซึ่งทั้งหมดพิจารณาจากสถิติเทียบปีต่อปี”

ขณะที่ ปัจจัยลบ ที่จะทำให้ราคาทองคำไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ ก็คือ ตัวเลขเงินเฟ้อของ สหรัฐฯ CPI กลับมาเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้เฟดต้องปรับนโยบายเรื่องของดอกเบี้ยใหม่ จากเดิมที่คิดจะลดดอกเบี้ย อาจจะต้องกลับมาขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้ออีกรอบ

ซึ่งก็มีโอกาสที่จะเป็นไปได้ เพราะเฟดก็จะสามารถปรับเปลี่ยนนโยบายได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องดูว่าโอกาสจะเกิดแบบไหนได้มากกว่ากัน

นอกจากนั้น ต้องจับตาเรื่องสงครามความขัดแย้งในพื้นที่ต่าง ๆ หากว่าทุกอย่างเงียบสงบไร้ความขัดแย้ง ก็จะเป็นปัจจัยลบสำหรับราคาทองคำ

สุดท้าย ก็คือเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีมาก ซึ่งจะทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่า และกลับมากดดันราคาทองคำ

ประเด็นทั้งหมดที่หยิบยกมา เป็นการมองภาพยาวในระยะ 1 ปี แต่ในระยะสั้น หากว่าสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลง หรือมีเหตุการณ์อื่น ๆ เหนือความคาดหมายเข้ามา ก็อาจจะทำให้สถานการณ์ในตลาดทองคำมีการเปลี่ยนแปลงได้

ส่วนภาพรวมตลาดทองคำในระยะสั้นประมาณ 6 สัปดาห์ ทาง MTS Gold มองว่า ตลาดยังเคลื่อนไหวผันผวน มีแนวโน้มที่ราคาจะขึ้นไปทดสอบระดับ 2,100 ดอลลาร์ ด้านราคาทองคำไทยก็น่าจะขึ้นไปทดสอบแถว 34,500 บาท

กลยุทธ์การลงทุน ยังแนะนำ เมื่อราคาอ่อนตัวให้ซื้อ เมื่อราคาปรับขึ้นให้ขาย โดยทองไทยไปรอซื้อแถว 33,600 บาท ทั้งนี้ ณ ระดับราคา 33,500-33,600 บาท ถือเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง ราคาได้ลงมาทดสอบในแถวนี้หลายรอบ

ในเชิงเทคนิคมองว่า โอกาสที่จะลงทะลุแนวดังกล่าวเป็นเรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสทะลุลงไป ซึ่งหากถึงจุดนั้น ต้องมาดูโครงสร้างตลาดว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไร

- Advertisement -

Comments are closed.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More