- Advertisement -

เกาะติดทิศทางราคาทองคำวันนี้ 31 ต.ค.66

สัมภาษณ์พิเศษ คุณวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บจ.วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส (YLG)

คาดที่ประชุม FED ตรึงดอกเบี้ยต่อ อาจดึง gold spot ร่วงแต่ไม่ลึกมาก หากไม่หลุด $1,971 ยังมีโอกาสเด้งไกล

ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

.

- Advertisement -

.

รับชมคลิป เกาะติดทิศทางราคาทองคำวันนี้

คุณวรุต รุ่งขํา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บจ.วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวกับ GoldAround ว่า

แม้ว่าในช่วงเช้าวันนี้ราคาทองคำจะปรับลดลงมา แต่ยังมองว่ายังเป็นการแกว่งอยู่ในกรอบจำกัด หลังผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ BOJ ในช่วงเช้าวันนี้ ยังตรึงเพดาน Bond Yield ที่ระดับ 1% และยังใช้นโยบายการเงินและผ่อนคลาย ก็คือ -0.1% แม้จะมีการปรับเงินเฟ้อขยับขึ้นจากเดิม 2.5 เป็น 2.8%

แนวโน้มของการผ่อนคลายนโยบายการเงินของญี่ปุ่นก็จะยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งมองว่าจะเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดอาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิมตามที่ตลาดคาดการณ์

- Advertisement -

อย่างไรก็ตาม ผลการประชุม FOMC ที่จะทราบผลกันในช่วงกลางดึกของคืนวันพุธ นักลงทุนยังกังวลอยู่ว่า เฟดอาจจะส่งสัญญาณการเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อ ซึ่งต้องมาลุ้นกันว่า เฟดจะส่งสัญญาณชัดเจนมากน้อยแค่ไหน หรือเป็นแค่ลักษณะของการประกาศในรูปแบบของการกรุยทางหรือเปิดทางเอาไว้ก่อนเท่านั้น

เพราะว่าถ้าเฟดส่งสัญญาณชัดเจนว่า ในปีนี้ถ้าเงินเฟ้อยังไม่ลดลง จะต้องขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% อาจจะกดให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมาได้ แต่ว่าถ้าเฟดพูดกลาง ๆ หรือไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจนมากนัก แต่อาจจะบอกว่าถ้าเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง เฟดก็อาจจะยังคงต้องใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดต่อไป

ประเด็นดังกล่าวจะทำให้ตลาดตีความได้ว่า เฟดยังมีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ แล้วก็ยังมีโอกาสที่จะใช้ดอกเบี้ยระดับปัจจุบัน ซึ่งถือว่าไม่ได้เหนือจากที่ตลาดคาดการณ์มากนัก ราคาทองคำก็อาจจะอ่อนตัวหรือย่อตัวลงไม่มาก

ทั้งนี้ YLG ได้แบ่งแนวทางที่จะเกิดขึ้นออกเป็น 2 แบบ ถ้าตอบชัดว่าปีนี้หรือต้นปีหน้าจะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง ราคาทองคำมีโอกาสย่อมาก แต่ถ้าตอบไม่ชัด หรือตอบในลักษณะกลาง ๆ ก็อาจทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงไม่มาก แถว 1,988 และ 1,971 ดอลลาร์ ซึ่งมองว่ายังเป็นจุดน่าเข้าซื้อเพื่อทำกำไรจากการปรับตัวหรือการขยับขึ้นในช่วงสั้นได้ แต่หากเฟดมีการส่งสัญญาณในลักษณะของการเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อในลักษณะที่ชัดเจน ราคาทองคำอาจจะลงได้ถึงบริเวณ 1,957 ดอลลาร์

อย่างไรก็ดี คงต้องดูสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสประกอบด้วย หากว่าสงครามมีความคืบหน้าก็อาจจะเข้ามาพยุงราคาทองคำไม่ให้ลงลึกมาก และถ้าสงครามเริ่มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ราคาทองคำก็มีโอกาสขยับหรือมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ

ซึ่งสถานการณ์ของฮามาสกับอิสราเอล ถือว่าคาดการณ์ได้ยาก เพราะท่าทีของทางอิสราเอลยังคงแข็งกร้าว ทำให้ตลาดยังกังวลว่าสถานการณ์มีแนวโน้มขยายวงกว้างได้อยู่

นอกจากนี้ เริ่มเห็นสัญญาณกลุ่มชาติอาหรับส่งสัญญาณปกป้องกลุ่มฮามาส ซึ่งจับตาใกล้ชิดว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งมองว่าเฟดก็จะปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินตามสถานการณ์เศรษฐกิจ

ทั้งนี้ YLG ให้น้ำหนักกับปัญหาสงครามในตะวันออกกลาง หากการสู้รบเกิดรุนแรงมากขึ้นและได้ส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และจะเพิ่มความเสี่ยงกับเศรษฐกิจโลกรวมทั้งเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้วย ก็อาจจะทำให้เฟดไม่สามารถเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ต่อ

ดังนั้น มองว่าเฟดอาจจะไม่ได้ส่งสัญญาณในอนาคตที่มีความชัดเจนมากนัก โดยอาจจะรอดูสถานการณ์การสู้รบในตะวันออกกลางประกอบด้วย เพราะเป็นอีกปัจจัยที่จะส่งผลต่อทิศทางเงินเฟ้อ และราคาน้ำมัน หากว่าการสู้รบทำให้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกสูงขึ้น และเงินเฟ้อไม่ยอมลง ก็อาจจะทำให้เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ในระดับสูงต่อไป

ส่วนกรอบการลงทุน YLG ให้แนวรับที่ 1,988 และ 1,971 ดอลลาร์ ถ้าไม่หลุดระดับดังกล่าวในระยะสั้น ยังแนะนำให้กำไรระยะสั้น

โดยภาพของทองคำในระยะสั้นถ้าไม่หลุด 1,971 ดอลลาร์ ประเมินไว้เป็นทิศทาง sideway up และมีโอกาสเห็นทองคำ ขยับขึ้นแถว 2,009 และ 2,021 ดอลลาร์ และหากสถานการณ์รุนแรงมากยิ่งขึ้น และเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยที่ชัดเจน ราคาทองคำอาจจะขึ้นไปถึงระดับ 2,037 และ 2,049 ดอลลาร์ ได้ไม่ยาก

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ผลการประชุมของเฟดออกเป็นลบต่อราคาทองคำ และราคาเกิดหลุด 1,971 ดอลลาร์ ลงมา ภาพมุมมองเชิงบวกของทองคำลดลงแต่ก็จะเป็นการทรงตัวเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูงเพราะว่ายังมีประเด็นความตึงเครียดระหว่างประเทศอยู่

โดยให้แนวรับแถว 1,953 ดอลลาร์ และทำให้ทองคำกลับมาเคลื่อนไหว sideway การขยับหรือการปรับขึ้นออกไปไกล ๆ อาจจะเกิดขึ้นยาก แต่หากราคายังไปได้ถึง 2,021 ถึง 2,037 ดอลลาร์ อาจต้องใช้แนวดังกล่าวเป็นจุดแบ่งขายเพื่อเป็นการลดความเสี่ยง

ส่วนราคาทองคำไทย ในช่วงนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะเงินบาทมีสัญญาณของการกลับมาแข็งค่าอย่างชัดเจน หลังจากนโยบาย ดิจิตอลวอเล็ต 10,000 บาท ถูกเลื่อนออกไป คาดว่าจะใช้ได้เดือน ก.ย. ปีหน้า

ทำให้นักลงทุนมองว่า อาจมีความเสี่ยงทางด้านการคลังลดลง ก็เลยทำให้เงินบาทกลับมาแข็งค่า โดยเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์ และมากดดันราคาทองคำไทย ให้ปรับตัวขึ้นในระดับจำกัด

ระยะสั้นสำหรับทองคำไทยประเมินแนวรับแถว 33,900-33,600 บาท เป็นโซนเข้าซื้อโซนแรกแล้ว และแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 32,300 บาท ส่วนแนวต้านประเมินไว้ 34,450 และ 34,700 บาท ถ้าราคาทองคำยังปรับตัวขึ้นมาได้แต่ไม่ผ่าน อาจจะใช้แนวดังกล่าวทยอยแบ่งทองคำออกขายเพื่อเป็นการลดความเสี่ยง

- Advertisement -