- Advertisement -

SPDR เทขายทองคำอีกเกือบ 5 ตัน ขณะที่ราคาทองคำดีขึ้นเล็กน้อย หลังตัวเลขผู้ว่างานในสหรัฐต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ด้านนักวิเคราะห์ชี้หากราคาทองคำยังไม่กลับมายืนเหนือ 1,850 ดอลลาร์ ภาพรวมยังน่าเป็นห่วง โดยมองแนวรับลึกสุดที่ 1,750 ดอลลาร์  

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (26 พ.ย.) SPDR GOLD SHARES กองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เทขายทองคำแท่งออกมาอีก 4.96  ตัน ที่ราคา 1,808 ดอลลาร์ โดยสัปดาห์นี้ขายไปแล้วกว่า 25 ตัน และทำให้ในเดือนพฤศจิกายน SPDR ขายออกมากกว่าซื้อเกือบ 63 ตัน และยอดการซื้อทองคำของ SPDR ในปีนี้ อยู่ที่ 301.53 ตัน รวมขณะนี้ SPDR เหลือถือครองทองคำแท่ง 1,194.78 ตัน 

ขณะที่การซื้อ-ขายสัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เมื่อคืนนี้ปิดที่ 1,805.5 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 0.05%  หลังเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.25% แตะที่ 91.9985

นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่าได้เพิ่มขึ้นเป็น 778,000 ราย เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ซึ่งอยู่ที่ระดับ 742,000 ราย และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 733,000 ราย ซึ่งเป็นผลมาจาก มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยล่าสุด รัฐลุยเซียนาเริ่มกลับมาใช้อีกครั้ง หลังจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นอย่างมาก ขณะที่รัฐนิวยอร์กต้องกำหนดพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาด หลังตาดว่าผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอาจพุ่งขึ้นในช่วงเทศกาลวันหยุด

- Advertisement -

ทั้งนี้ตลาดทองคำนิวยอร์กจะปิดทำการซื้อขายในวันพฤหัสบดีที่ 26 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า

มาดูภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในเดือนพ.ย. พบว่าได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยหลักมาจาก ความความคืบหน้าการผลิตวัคซีนป้องกัน COVID-19 และความคืบหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ หลัง”โดนัล ทรัมป์” เริ่มมีท่าทีที่ผ่อนคลายในการส่งต่ออำนาจให้กับ “โจ ไบเดน” ทำให้แนวโน้มราคาระยะสั้นยังไม่สู้ดีนัก

อย่างไรก็ตามหากมองในภาพรวม ราคาทองคำในปีนี้ยังคงสูงขึ้น 17% ซึ่งถือว่าแข็งแกร่งกว่าสินทรัพย์หลักส่วนใหญ่ และแนวโน้มการติบโตยังคงดีอยู่ เพราะกว่าที่วัคซีนจะถูกนำออกมาใช้จริง ยังมีขั้นตอนอีกมาก และยังมีความกังวลอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับวัคซีนว่าจะมีเพียงพอสำหรับประชากรทั่วโลกหรือไม่ ขณะที่ผลกระทบทางเศรษฐกิจจะยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และใช้เวลาอีกลหายปีในการแก้ปัญหา เพื่อให้เศรษฐกิจกลับมามีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำให้เดินหน้าต่อไป

ด้านพิพัฒน์ วชิรลาภไพฑูรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ เทรด จำกัด หรือ SCT กล่าวว่า หลังจากที่ราคาทองคำได้หลุดระดับ 1,850 ดอลลาร์ มองว่าภาพการเคลื่อนไหวของราคาเป็นแนวโน้มขาลง  และต้องจับตาว่าแนวรับที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์จะเอาอยู่หรือไม่ แต่ความเห็นส่วนตัวเชื่อว่าสัปดาห์นี้อาจจะเห็นราคาปิดสัปดาห์นี้ที่ระดับ 1,780-90 ดอลลาร์ หรืออาจจะร่วงไปที่ 1,750 ดอลลาร์ ซึ่งมองว่าเป็นแนวรับสุดท้ายในรอบนี้เพื่อรอดีดกลับ และหากสัปดาห์มีการรีบาวด์แรงๆ ก็จะทำลายภาพขาลง เชื่อว่ามีโอกาสที่ราคาทองคำจะฟื้นกลับมา แต่หากจะให้ทุกอย่างแลดูมั่นคงจะต้องไปยืนเหนือ 1,850 ดอลลาร์ให้ได้

- Advertisement -

กรรมการผู้จัดการ SCT กล่าวเพิ่มเติมว่า ในทางเทคนิค เมื่อราคายังไม่สามารถกลับมายืนเหนือ 1,850 ดอลลาร์ ทำให้ราคายังไม่หลุดเวฟ 4   และต้องขยายเวลาออกไป เพื่อรอปัจจัยเข้ามาหนุนให้ราคายืนเหนือแนวดังกล่าว จึงจะเข้าสู่เวฟ 5 ซึ่งจะเป็นช่วงที่ราคาทองคำจะกลับมาวิ่งไปข้างหน้า และหากสามารถทะลุ 1,900 ดอลลาร์ จะทำให้แนวโน้มเป็นขาขึ้นชัดเจน และมีโอกาสจะทะลุ 2,000 ดอลลาร์ไปได้

Cr : traderider.corp

CR :อินโฟเควสท์

- Advertisement -